มิติใหม่! ยมทูตขี่ที่ขูดมะพร้าว ตัวจริงลั่นองค์ลงเต้นพริ้วแค่บวงสรวง ช่วยคนไม่คิดเงิน (คลิป)
กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "แม่ทัพลิง 3/1" โพสต์คลิปวิดีโอปรากฏภาพชายรายหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าเป็นร่างทรงพญายมทูต พร้อมระบุข้อความว่า "ดูท่าต่อบุหรี่ก็เฮฮาแล้ว 555 มีคนอยากเห็นอยากดูคลิปท่านพญายมทูตตอนองค์ลงว่ามีอาการเป็นแบบไหน เชิญชมครับ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ภาพที่ปรากฏในคลิปดังกล่าว ชายรูปร่างท้วมจะสวมเสื้อสีแดงและนุ่งโจงกระเบนสีน้ำตาลเข้ม กำลังนั่งเคี้ยวหมากและจุดบุหรี่สูบทางจมูก มีการทำหน้าตาขึงขัง ลุกขึ้นยืนถือไม้เท้าเป็นรูปหัวกะโหลก ภายในงานพิธีมีการเปิดเพลงบรรเลงตามไปด้วยซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นพิธีไหว้ครูของตำหนักร่างทรงดังกล่าว
ล่าสุดวันที่ 19 เม.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี จึงได้เดินทางไปพบกับ นายรชตชานนท์ สินยอด หรือ เต้ อายุ 43 ปี ซึ่งมักเรียกตัวเองว่า “หม่อม” ร่างทรงพยายมทูต ใส่เสื้อลายไทยสีแดง กล่าวว่า การมาที่ตนเดินทางมาเชียงใหม่นั้น ตนขอยืนยันว่าไม่ได้หนีหรือหลบหน้านักข่าว แต่มาเตรียมงานให้น้องชาย ซึ่งจะทำพิธีกราบไหว้ขอขมารถบริษัทของน้องในวันที่ 24 เมษายน 65 ทั้งนี้ ตนขอชี้แจงว่าแฟนเพจที่นำคลิปของตนไปโพสต์เช่นนั้น ตนเชื่อว่ามีเจตนาไม่ดี แต่ตนไม่ได้ปฏิเสธพฤติกรรมที่เห็นในคลิป เพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในงานพีธีบูชาครูเทวาลัยสถานวิมานยมโลก ที่จัดขึ้นในวันเสาร์สุดท้ายของเดือนมีนาคม ของทุก ๆ ปี และคลิปที่เห็นนั้นคือคลิปจมูกสูบบุรี่เป็นคลิปเมื่อปี 60 ส่วนอีกคลิปงานเมื่อปี 64 และภาพในงานต่าง ๆ เป็นพิธีเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 65
ทั้งนี้ ที่มาของการทรงเจ้าเพราะครอบครัวของตนเป็นมาตั้งแต่ต้นตระกูล แต่ที่จำความได้คือครอบครัวมักจะพาตนเข้าวัดทำบุญ และตนก็มักหูไว ตาไว มองเห็นสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นก่อนจะพูดออกไป และมักเป็นความจริงเสมอ ๆ เช่น เรื่องความเป็นความตาย โชคลาภ เป็นต้น กระทั่งอายุ 7 ขวบ ก็มีองค์พญายมทูตมาประทับร่าง จนถึงปัจจุบันอายุ 43 ปี ร่วมแล้ว 34 ปีเต็ม ๆ ดังนั้น ตนถูกเลือกแล้วตามนิสัย ความประพฤติปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นบุญที่ทำ ทานที่ให้ การใช้ชีวิตของตนสอดคล้องกับองค์ที่เข้ามาประทับ
ส่วนองค์ที่ลงคือ “พญายมทูตครกใหญ่” ตามหลักองค์เจ้าองค์นี้มีเอกลักษณ์ เช่น เวลาลงประทับร่าง ท่านจะเสวยหมาก จะต้องใช้ใบพลูถึง 30 ใบ ท่านจะสูบบุหรี่ทางจมูก และท่านชอบเบิกตาขึ้น เพราะท่านมีดวงเนตรรอบทิศ ดวงวิญญาณดวงเดียวที่หลุดลอยหายไปท่านก็สามารถมองเห็น ดังนั้น ใครที่กล่าวหาและให้ร้ายว่า ตนบ้าบอก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่ตนยืนยันว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นเป็นความเชื่อ เพราะทองก็เป็นทองวันยันค่ำ ทองไม่กลัวไฟ
"ตอนไหนท่านจะมา ก็ต่อเมื่อมีเหตุหรือมีวาระสำคัญเท่านั้น และมีเวลาที่จะมา เพราะมวลมนุษย์ทั้งหลายเดือดร้อน ร้องเรียนต่อเทพเจ้า ท่านถึงลงประทับ การมาก็จะทำให้ร่างกายลอยและคลื่นไส้ เป็นมวลสารที่ละเอียด ไม่สามารถอธิบายได้ แต่ยอมรับว่ารู้สึกตัว ตามองเห็น และสัมผัสได้ แต่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ซึ่งทุกครั้งที่ประทับก็มักมีหมากพลู เหล้า ยา เป็นเรื่องปกติที่มนุษย์คิดกันว่าท่านมาเหนื่อย ๆ ก็คงอยาก และพอได้กินก็หายเหนื่อย แล้วจะได้ให้ศีลให้พรลูก ๆ เป็นสิ่งที่มนุษย์ยัดเยียดกันเอง"
อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าเป็นร่างทรงจริง ๆ แต่ชีวิตจริงมีงานทำ ตนเรียนจบคหกรรมทำอาหารเก่ง และรับทำบายศรีแต่ส่วนใหญ่มักจะยึดคำว่า “งานจ้างไม่มี งานฟรีเจอกัน” เงินทองที่มีก็ได้จากลูกศิษย์ที่นับถือ ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ตนก็ไม่เคยเรียกรับจากลูกศิษย์ ทุกวันนี้มีลูกศิษย์เพียง 14 คนเท่านั้น และคนที่อุปถัมภ์เพียง 5 คน ส่วนพญายมทูตเป็นเทพเจ้าแห่งความตาย ใครก็พูดกันว่าเจอพญายมแล้วต้องตาย แต่ตนคิดว่าเอาสิ่งดีกับไม่ดีมารวมกัน โดยเฉพาะองค์ปรางค์แขก ตนทำเพราะจะได้ปลงสังขารตัวเอง และมีช่องเก็บอัฐิไว้ด้วย แต่ก่อนตายตนปฏิญาณตนว่าจะทำแต่ความดี และทิ้งความดีไว้ให้คนนึกถึง
Advertisement
