ลากไส้หลวงเจ๊สวมชฎาตุ๋นแก้กรรม เหยื่อบุกแฉควักปืนขู่ ปลาซ้อนแผนจับโป๊ะเดามั่ว (คลิป)

ชาวบ้านรายหนึ่งร้องขอความช่วยเหลือมาที่ "หมอปลา มือปราบสัมภเวสี" ให้ช่วยตรวจสอบหญิงคนหนึ่ง อ้างตัวเป็นหลวงตา โกนหัว แต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ หลอกลวงชาวบ้าน อ้างตัวเองว่าเป็นลูกศิษย์ของหลวงตามหาบัว มีสามารถมองเห็นวิญญาณได้ และมีความสามารถพิเศษในการทำพิธีแก้กรรม สะเดาะห์ ไล่วิญญาณร้าย ลักษณะการทำพิธีของหญิงแก่แตกต่างกับพระทั่วไป คือจะสวมชฎาให้กับตัวเอง เรียกองค์เทพมาอยู่ในร่าง ก่อนจะทำนายทายทัก หาวิธีแก้กรรมให้กับคนชาวบ้านที่หลงเชื่อจนสูญเสียเงินนับแสบบาท

วันที่ 24 ก.พ. 65 ช่วงบ่าย หมอปลา มือปราบสัมภเวสี ได้เดินทางไปที่หมู่บ้านในอำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ก่อนวางแผนกับทีมข่าวและผู้เสียหาย

เริ่มจากให้ภรรยาของทนายไพศาล และทีมงานที่มาด้วย ปลอมตัวเข้าไปขอเข้ารับการแก้กรรมจากหลวงตาหญิงรายนี้ ซึ่งจะอ้างว่าตั้งใจเดินทางมาแก้กรรม เพราะถูกวิญญาณเด็กตามหลอกหลอน เพราะไปทำแท้งเอาเด็กออกมา มีการเตรียมเงินสดจำนวน 10,000 บาท ล่อซื้อ โดยจะมีการแอบถ่ายและบันทึกเสียงขณะที่หญิงแก่กำลังทำพิธีไว้เป็นหลักฐาน

หลังจากนั้น ทีมงานนำโดยภรรยาทนายไพศาลปลอมตัวได้เดินทางเข้าไปหาไปที่สำนักสงฆ์ ทำพิธีตามแผนที่วางไว้ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เห็นว่าหญิงแก่มีการทำพิธีหลอกลวงคนจริง ส่งสัญญาณให้หมอปลาและทีมข่าวจึงบุกเข้าไปทันที ทีมข่าวได้เข้าไปก่อนและถามว่ากำลังจะทำอะไร หญิงแก่รายนี้มีสีหน้าที่ตกใจอย่างเห็นได้ชัด บอกสั้น ๆ ว่า "ทำบุญ ๆ เขามาทำบุญ"

หลังจากนั้น ทางทนายไพศาลและหมอปลา สอบถามกับตัวหญิงแก่รายนี้ว่า ทำพิธีอะไร ทำไมถึงแต่งตัวห่มจีวรของสงฆ์แบบนี้ ทั้งที่เป็นหญิง รู้ไหมว่าผิด รวมถึงรูปวาดของตัวเองที่อยู่ด้านหลัง ซึ่งมีลักษณะเป็นรูปสวมชฎาที่หัวและทาปากสีแดง อ้างว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้น เป็นการทำบุญแก้กรรมเท่านั้น ส่วนจำนวนเงินที่เรียกรับมานั้นก็นำไปทำบุญสร้างวัด สร้างอุโบสถ ช่วยเหลือคนลำบาก ยืนยันเสียงเเข็งว่าไม่มีการนำเงินไปใช้เอง หรือหลอกเอาเงินชาวบ้านแน่นอน

โดยตัวเองนั้นมีความสามารถในการมองเห็นผี และวิญญาณจริง สามารถแนะแนวทางการแก้กรรมได้ นอกจากนี้ ดวงจิตที่อยู่ในร่างก็คือหลวงตามหาบัว ตัวเองไม่ตกใจเลยที่หมอปลา นักข่าว มาวันนี้ เพราะเห็นในนิมิตล่วงหน้าแล้ว แต่ตัวเองเชื่อว่าที่ผ่านมาทำแต่ความดี ช่วยเหลือคน ไม่จำเป็นที่จะต้องกลัว

ตัวเองนั้นใช้ชีวิตห่มผ้าเหลืองเป็นพระ ออกจัดงานบุญหลาย 10 ปีแล้ว ไม่เคยมีปัญหา หรือถูกร้องเรียน ตำรวจก็ไม่เคยจับ ที่ผ่านมาจัดงานบุญที่สำนักสงฆ์แห่งนี้เป็นประจำทุกเดือน มีบรรดาชาวบ้าน ผู้นำชุมชน และตำรวจ เดินทางมาร่วมงานประจำ นี่คือเรื่องธรรม เงินที่ให้ตำรวจไม่ใช่ส่วย และเป็นเงินบุญที่มอบให้ช่วยเหลือตำรวจเท่านั้น

หลังจากทีมหมอปลาบุกเข้าไปเปิดโปงพฤติกรรมของหลวงตาชฎาทองแล้ว ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก จากนั้นชาวบ้านที่เคยถูกหลอกเมื่อทราบข่าว ได้เดินทางเข้าไปที่สำนักสงฆ์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก โดยหลายคนแฉพฤติกรรมของหญิงแก่รายนี้ว่า ถูกหลอกว่าจะช่วยรักษาอาการป่วยโควิดบ้าง ช่วยแก้กรรมบ้าง รวมไปถึงหลอกนำเงินเอาไปทำบุญไปสร้างวัด ซึ่งบอกว่าหากทำบุญแล้วจะได้เงินคืนภายหลัง ซึ่งชาวบ้านต่างหลงเชื่อและแห่มาขอเงินคืน

นายประมวน บุญคำจงใจ อายุ 82 ปี บอกว่าลูก 2 คนของตัวเองป่วยติดโควิด-19 จึงมาขอให้หลวงตาคนนี้ช่วย หลวงตาบอกว่า ให้แก้กรรมด้วยการนำเงินมาทำบุญ ตนกดเงินสดจำนวน 80,000 มาถวายให้ แต่สุดท้ายลูกก็ไม่ได้หายจากโรคทันที และเมื่อเข้าโรงพยาบาล ลูกถึงหายจากโรค วันนี้ตัวเองอยากได้เงินคืน เพราะตาสว่างแล้วว่าคนที่รักษาลูกให้หายโควิดคือหมอ ไม่ใช่หลวงตาชฎาทองคนนี้

นายวาทิน สมาชิก อบต.ค้างพลู รองประธานเงินล้าน กองทุนหมู่บ้าน ระบุว่า ถูกหลอกให้นำเงินมาทำบุญเช่นกัน โดยนำเงินที่ได้จากเงินกองทุนหมู่บ้าน 100,000 บาทไปทำบุญ อ้างว่าเดี๋ยวจะได้เงินคืน แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เงินคืนสักบาท

พร้อมแฉพฤติกรรมสุดกร่างที่เวลาจัดงานบุญทุกเดือน จะมีตำรวจหลายนายคอยเดินทางมาอารักขา และมอบเงินให้ตำรวจ โดยหลวงตาคนนี้ยังมีอาวุธสั้นพกติดตัวอีกด้วย ครั้งหนึ่งตัวเองก็เคยเห็นเจ้าตัวเอาขึ้นมาโชว์โอ้อวด

ผู้เสียหายที่เสียเงินมากที่สุดคือ ยายจันทร์ กับยายอ่อง สองพี่น้องที่นำเงินเก็บมาทั้งชีวิตให้กับหลวงตา โดยนางจันทร์นำเงินไปให้ประมาณ 220,000 บาท ส่วนนางอ่อง 230,000 บาท ซึ่งยังคงเชื่อและศรัทธากับหลวงตาคนนี้ เพราะเห็นว่าเงินถูกนำไปสร้างวัด สร้างอุโบสถจริง แต่เมื่อถามหลานสาวที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ หลานบอกให้เดินทางมาเอาเงินคืน เพราะทุกวันนี้ยายทั้งสองเอาเงินเก็บไปทำบุญจนจะหมดตัวเเล้ว

ต่อมา หมอปลาได้ให้ชาวบ้านที่เสียหายทั้งหมด รวบรวมรายชื่อและแจ้งตำรวจ สภ.โนนไทย เข้ามาตรวจสอบการกระทำของหญิงรายนี้ หมอปลาได้พยายามสอบถามผู้กำกับสถานีตำรวจว่า ทราบเรื่องหรือไม่ที่ตำรวจในพื้นที่ซึ่งเป็นลูกน้องของท่านรับเงินจากหญิงคนนี้ และมองว่าเป็นการรับส่วยหรือไม่ รวมไปถึงทำไมถึงไม่ยอมจับหญิงรายนี้สักที ที่แต่งกายเลียนแบบสงฆ์ เพราะเที่ยวไปหลอกเอาเงินชาวบ้านเดือดร้อนกันทั่ว

พ.ต.อ.อิษฏ์ บุญญะฤทธิ์ ผกก.สภ.โนนไทย ชี้แจงว่า ตัวเองไม่ทราบเรื่อง แต่ก็ไม่ได้นิ่งเฉย และเดินทางเข้าไปเชิญตัวหญิงรายนี้ไปสอบปากคำที่โรงพัก พร้อมบอกให้ชาวบ้านที่เดือดร้อนเดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ. แล้ว

ด้านสำนักงานพระพุทธศาสนา เดินทางมาตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย ให้ข้อมูลว่าหญิงรายนี้แต่งตัวเลียนแบบสงฆ์ ทางสำนักพุทธไม่สามารถจัดการอะไรได้ จับสึกไม่ได้ เพราะเจ้าตัวไม่ได้เป็นพระสงฆ์ แต่จะเป็นหน้าที่ของตำรวจในการดำเนินการลงโทษทางกฎหมาย ส่วนพระสงฆ์ที่มีการนั่งสวด ภายในงานบุญต่าง ๆ โดยนั่งเสมอหญิงรายนี้ ทางสำนักพุทธจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งว่าเป็นพระวัดใด และจะมีการดำเนินการลงโทษทางสงฆ์ต่อไป

หลวงแม่ชฎาทอง เปิดใจว่า สิ่งที่หมอปลากำลังทำอยู่ดี แต่จะทำให้ชาวบ้านเข้าใจตัวเองผิด แต่ตัวเองเชื่อสิ่งที่ตัวเองทำดี พระจะช่วยคุ้มครองเอง และไม่เครียดด้วยซ้ำ หากจะไม่กลับมาแต่งเป็นพระอีก ยืนยันที่เงินทั้งหมดเอาไปทำบุญ ไม่เคยหลอกลวงใคร

ส่วนที่มาของภาพวาดชฎาปากแดง เป็นภาพวาดที่ลูกศิษย์ทำให้ ตอนแรกมีเพียงแค่ชฎาสวม ซึ่งตนก็ว่าสวยดี ส่วนที่ในรูปต้องปากแดงฉ่ำ เกิดจากก่อนหน้านี้สำนักสงฆ์น้ำท่วม และน้ำท่วมรูปภาพจนทำให้บริเวณปากของตนในรูปเป็นสีเทาดำ ตัวเองจึงเป็นคนนำสีแดงมาทาให้ดูสวยงามเท่านั้น

พระมานพ สันตะจิตโต อายุ 71 ปี พระลูกวัดวัดโนนตากลาง อำเภอโนนสูง ระบุว่า ตนที่ถูกหญิงรายนี้หลอกให้นำเงินมาทำบุญ โดยตัวเองได้นำเงินจำนวน 160,000 บาท เอามาให้อีกฝ่าย ซึ่งอ้างว่าจะเอาไปสร้างวัด และจะนำเงินมาคืนให้ แต่จนถึงตอนนี้ 3 ปีแล้วก็ยังไม่ได้เงินคืน

ผู้เสียหายชื่ออ้อม ออกมาเปิดเผยว่า ตนและครอบครัวถูกหลวงตาหญิงแก่รายนี้หลอกลวงให้นำเงินไปถวาย อ้างว่าจะสามารถช่วยแก้กรรม และไล่วิญญาณร้ายที่คอยตามหลอกหลอนคนในครอบครัวได้ ก่อนที่ครอบครัวจะไปขอความช่วยเหลือกับหญิงแก่รายนี้ น้องชายได้ขับรถไปชนคนตายมาเมื่อ 6 ปีก่อน ด้วยความที่กลัวว่าวิญญาณคนตายที่น้องขับรภชนจะตามอาฆาต จึงเดินทางไปหาหญิงแก่รายนี้ ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของคนในหมู่บ้าน ได้ทำพิธีโดยหญิงแก่จะสวมใส่ชฎา เมื่อทำเสร็จเจ้าตัวทักว่ามีวิญญาณร้ายคอยตามอาฆาตน้องชาย หวังจะเอาชีวิต เพราะโกรธแค้นที่น้องชายขับรถไปชนเขาตาย

ต่อมาหญิงแก่รายนี้จึงแนะนำให้น้องชายบวชเป็นพระแก้กรรม เสนอตัวอาสาในการเป็นประธานงานบวช และจัดพิธีบวชให้ แต่จะต้องจ่ายเงินจำนวน 50,000 บาทให้ก่อน อ้างว่าเป็นค่าทำพิธี แต่ด้วยความที่ครอบครัวยากจน และไม่มีเงิน หาเงินได้เพียง 35,000 บาท และนำเงินทั้งหมดถวายใส่บาตรให้หญิงแก่ ส่วนน้องชายทางครอบครัวไม่เห็นด้วยที่จะให้บวชกับหญิงแก่ จึงเดินทางไปบวชกับพระอุปัชฌาย์ที่วัดแทน

กระทั่งเวลาผ่านไป ทางครอบครัวไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตจะดีขึ้น และเมื่อพากันไปหาหญิงแก่คนนี้ก็ยังจะทักเหมือนเดิมว่าผียังตามอยู่ ยังไม่ไปไหน และเรียกให้ต้องทำพิธีแก้กรรมเพิ่ม จนถึงตอนนี้ครอบครัวต้องเสียเงินไปกว่า 100,000 บาท ตลอดหลายปีที่ผ่านมา และเริ่มคิดว่าตัวเองถูกหลอกลวง แต่พ่อกับแม่เชื่อ รวมถึงมีชาวบ้านในหมู่บ้านอีกหลายคนยังศรัทธา ตนอยากให้หมอปลาช่วยเหลือและอยากได้เงินที่ถูกหลอกไปเอามาคืน