กรณีพระและเณรวัดนิคมกิตติยาราม บ้านนิคมพัฒนา หมู่ที่ 18 ต.ไร่น้อย อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ร่วมกันตั้งวงดื่มสุรา พร้อมกับร้องเพลงในกฎิ อ้างว่าฉลองวันเกิดและส่งท้ายให้กับความรักที่ไม่สมหวัง เพราะอกหักจากสามเณรคู่ขา ซ้ำยังมีคลิปหลุดขณะมั่วสุมร่วมเพศกันในกุฏิ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 23 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศุภมิตร เปาริก รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยพระครูสารกิจโกศล เจ้าคณะอำเภอเมืองอุบลราชธานี และนางเพลินพิศ น้อยคนดี นักวิชาการศาสนาชำนาญการพิเศษ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุบลราชธานี เดินทางไปที่วัดนิคมกิตติยาราม ต.ไร่น้อย อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เข้าพบพระครูประโชติ กิตติคุณ เจ้าอาวาสวัดนิคมกิตติยาราม เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
เมื่อไปถึงพบว่าภายในกุฏิหลังดังกล่าว เป็นที่ตั้งวงเหล้าฉลองวันเกิดของพระลูกวัด โดยมีพระซึ่งเป็นเจ้าของวันเกิด และสามเณรที่ร่วมวงเหล้ารวม 6 รูป ขวดเหล้าขาวผสมน้ำองุ่น โซดา เหล้าหงส์ทอง เหล้าเสือดำ 28 ดีกรี และเหล้าสูตรผสมชามะนาว ซึ่งในคลิปที่ถูกถ่ายไว้ก็มีการร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้พระเจ้าของวันเกิดด้วย
จากการสอบถามข้อเท็จจริงแล้ว จึงมีคำสั่งให้สามเณร จำนวน 4 รูปต้องสึก ประกอบด้วย นายธันวา, นายธัญญา, นายอภิสิทธิ และนายรุ่งโรจน์ อีกทั้งยังมีพระท็อป และพระยอด ซึ่งหลังจากที่กลายเป็นข่าวก็ไม่ยอมกลับเข้ามาวัด แต่จะต้องสึกขาดจากควมเป็นพระด้วย ทั้งนี้ พ.ต.อ.ชาญชัย อินนรา ผู้กำกับสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ในเรื่องของคลิปหลุดมั่วสุมร่วมเพศกันภายในกุฏิ จะต้องให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุบลฯ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
นอกจากนี้ ยังปรากฏว่ามีคลิปเสียงของนายธัญญา หรือ เณรเกมส์ พูดคุยกับนายเบล ระบุว่า "เขาจะเอาผิดคนที่แจ้งข่าว ทำให้วัดเสียหาย คนที่บอกข่าวให้สื่อ ลองไปถามผู้ใหญ่บ้าน อบต.ดูเอาเด้อ ผมมีหน้าสึกก็สึกแล้ววันนี้ สึกหมดเลย"
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี โทรศัพท์พูดคุยกับนายเบล (นามสมมติ) อายุ 17 ปี อดีตเณรที่ศึกออกมาแฉเรื่องดังกล่าว เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนมีความกังวลและเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย เนื่องจากสามเณรที่ถูกจับสึก หนึ่งในนั้นคือนายธัญญา หรือ เณรเกมส์ โทรศัพท์ติดต่อมาหาตนและข่มขู่ว่า ตนเป็นผู้ที่ให้เบาะแสกับสื่อมวลชน กลุ่มเณรที่ถูกจับสึกจะเดินทางเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่ให้เบาะแสที่ทำเป็นข่าวใหญ่โต เพราะเป็นการขัดผลประโยชน์ของทุกฝ่าย
แต่อย่างไรก็ตาม จุดประสงค์หลักของตนเพียงต้องการให้นายไพศาล หรือ พระแมน ที่หนีสึกไปแล้วถูกจับกุมตัวโดยเร็ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ลบคลิปอนาจารและภาพนิ่งที่ตนถูกบังคับไว้เป็นหลักพันรูป รวมถึงคลิปวิดีโออนาจารของสามเณรรูปอื่น ๆ ที่ถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์เป็นหลักหลายร้อยคลิป เนื่องจากหากปล่อยไว้ ข้อมูลเหล่านี้อาจจะถูกนำไปเผยแพร่ต่อ และสร้างความเสื่อมเสียจนหมดอนาคตที่จะใช้ชีวิตต่อไป
หลังจากนั้น ทีมข่าวตรวจสอบเฟซบุ๊ก นายไพศาล หรือ พระแมน พบว่ามีการโพสต์เฟซบุ๊กช่วงเวลา 19.00 น. ที่ผ่านมา บรรยายข้อความระบุว่า "ก็ว่าจะผอม" คู่กับโพสต์รูปภาพขณะนั่งกินอาหารอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นกรุงเทพมหานคร เนื่องจากภายในเฟซบุ๊ก มีการเช็กอินว่าอยู่ที่กรุงเทพ
นอกจากนี้ ทีมข่าวติดต่อไปยังเฟซบุ๊กของพระท๊อป ที่เป็นต้นเรื่องในการชักชวนพระเณรตั้งวงดื่มสุรา และกำลังหลบหนีอยู่ ณ ขณะนี้ แต่ปรากฏว่าไม่มีการตอบกลับ หรือเปิดอ่านข้อความของทีมข่าวแต่อย่างใด
Advertisement