กรณีพล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.สอท.2 พร้อมด้วยพ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว รอง ผบก.สอท.2, พ.ต.อ.มรกต แสงสระคู ผกก.1 บก.สอท.2 และพ.ต.ท.จิรวัฒน์ บุรีงาม สว.กก.1 บก.สอท.2 เข้าจับกุมตัวน.ส.ณัฏฐ์ชญาภา หรือ ตูน อายุ 32 ปี อดีตพริตตี้สาว ตามหมายจับศาล จ.นนทบุรี ที่ 1/2565 ลงวันที่ 2 ม.ค.65
ทั้งนี้ หมายจับดังกล่าวระบุข้อหาไว้ดังต่อไปนี้ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ และ (1) เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไป หรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก (2) ประกอบการค้าหรือมีส่วนเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชน หรือให้เช่าวัตถุหรือสิ่งของเช่นว่านั้น
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบของกลางประกอบด้วย 1.โทรศัพท์ IphoneX สีเงิน จำนวน 1 เครื่อง 2.สิ่งเทียมอวัยวะเพศชาย (Sextoy) จำนวน 2 ชิ้น 3.น้ำยาหล่อลื่น จำนวน 1 หลอด ขณะเข้าไปใช้บริการภายในร้านกาแฟ ย่านสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม.
ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ ตร.สอท.2 ตรวจสอบพบผู้ใช้บัญชีหนึ่ง ว่ามีพฤติการณ์เปิดกลุ่มลับ ก่อนจะโพสต์ข้อความเชิญชวนให้ผู้ชายเข้ากลุ่มชมคลิปวิดีโอและภาพโป๊เปลือยขณะร่วมเพศ โดยมีเงื่อนไขต้องจ่ายค่าสมัครเป็นสมาชิกในราคา 500 บาท และต้องจ่ายค่ารายเดือนอีกเดือนละ 500 บาท ก่อนจะส่งรหัสให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมกลุ่ม เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยื่นต่อศาลจ.นนทบุรี ขออนุมัติหมายจับดังกล่าว ก่อนนำกำลังเข้าจับกุมไว้ได้พร้อมของกลาง และนำตัวมาสอบสวนขยายผลต่อไป
ล่าสุดวันที่ 28 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังบ้านของผู้ต้องหา ในพื้นที่เขตประเวศ กทม. โดยนางอร (นามสมมติ) อายุ 55 ปี แม่ของน.ส.ณัฏฐ์ชญาภา เปิดเผยว่า ตนเพิ่งทราบข่าวเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ตำรวจเป็นคนโทรศัพท์มาแจ้งให้ทราบว่า ลูกสาวถูกจับ ในข้อหาทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โพสต์รูปลามกอนาจาร และเชิญชวนให้ผู้ชายเข้ากลุ่มลับเพื่อชมคลิปวิดีโอ รูปภาพโป๊เปลือยและไลฟ์สดขณะร่วมเพศ ตำรวจมีหลักฐานแน่นหนาที่จะผิดลูกสาวได้
เมื่อตนทราบเรื่อง ตนก็รู้สึกตกใจ เพราะปกติที่บ้านจะอยู่กัน 5 คน ตนเป็นแม่บ้านทำงานรับจ้าง ส่วนลูกสาวจะส่งเสียเลี้ยงดูหลานชาย เขาเป็นเงียบ ๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับคนในบ้าน เวลาไปข้างนอกกลับมาถึงบ้านก็จะปิดห้องอยู่กับหลานชาย 2 คน ทำให้ตนไม่ค่อยรู้เรื่องส่วนตัวมากนัก ส่วนใหญ่ลูกสาวจะพูดคุยกับเพื่อนที่สนิทมากกว่า ซึ่งพักหลัง ๆ ตนก็จะมีหน้าที่ส่งเสียเลี้ยงดูหลาน ๆ เนื่องจากลูกสาวมีค่าใช่จ่ายหลายทาง ทำให้เงินไม่พอใช้
ทั้งนี้ คนที่แจ้งจับลูกสาว คือ ครอบครัวของหนึ่งให้ผู้ต้องหา ที่ลูกสาวเคยตกเป็นจำเลยในคดีถูกข่มขืนมาก่อน ตนจึงได้คุยกับตำรวจ ซึ่งหากจะประกันตัวก็ต้องใช้เงินหลักแสน ครอบครัวของตนไม่สามารถหามาได้ จึงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของตำรวจ แต่ตนก็อยากให้ลูกสาวได้รับโอกาสจากสัมคมที่จะออกมาทำความดี และปรับปรุงตัวเองให้เป็นคนดี
จากนั้นทีมข่าวได้ค้นหาเฟซบุ๊กของผู้ต้องหา พบว่าส่วนใหญ่สาวรายนี้ ก็จะใช้เพื่อโพสต์กิจวัตรประจำวัน และรูปภาพของตัวเองเป็นประจำ ๆ แต่มักจะโพสต์ภาพถ่ายเซ็กซี่และวาบหวิว นอกจากนี้ ยังโพสต์ภาพโป๊เปลื่อย ภาพอุปกรณ์ sex toy และข้อความบรรยายใต้ภาพที่สื่อไปถึงการอนาจาร
ทีมข่าวได้พูดคุยกับคุณส้ม (นามสมมติ) อายุ 45 ปี พลเมืองดีที่แจ้งเรื่องราวให้ตำรวจทราบ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อปี พ.ศ.2555 พี่ชายของตนพร้อมกับเพื่อนอีก 5 คน ได้ไปเตะฟุตบอลกัน จากนั้นกลับมาที่บ้านเพื่อนั่งดื่มสังสรรค์ ซึ่งน.ส.ตูน ก็ได้เดินทางมาด้วย เนื่องจากขณะนั้นเขาเป็นแฟนสาวของเพื่อนพี่ชาย ก่อนที่ทั้งหมดจะมึนเมา
หลังจากนั้น น.ส.ตูน ก็รีบเดินทางไปแจ้งความว่าพี่ชายของตน ขณะนั้นเป็นตำรวจยศสิบตำรวจเอก พร้อมพวก 5 คน ได้ร่วมกันข่มขืนรุมโทรม พร้อมทั้งยังกล่าวอ้างว่าพี่ชายของตนได้ให้น.ส.ตูน กินยาเสียสาว กระทั่งปี พ.ศ.2562 ศาลตัดสินให้พี่ชายของตนพร้อมเพื่อนถูกจำคุก 15 ปี แต่ให้การเป็นประโยชน์จึงลดโทษเหลือจำคุกเพียง 10 ปี
ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ปักใจเชื่อว่า พี่ชายจะข่มขืนน.ส.ตูน ตนมองว่าเป็นการสมยอม เพราะหากเป็นการข่มขืนจริง ๆ ทำไมไม่ร้องขอความช่วยเหลือ และน.ส.ตูน อ้างว่าถูกบังคับกินยาเสียสาวเข้าไป แต่กลับจำเหตุการณ์ทั้งหมดได้ และยังสามารถไปแจ้งความได้ทันที
"พอศาลตัดสินแล้ว เราจึงได้ตัดสินใจติดตามน.ส.ตูน ในโลกออนไลน์ และได้สืบประวัติพบว่าเคยถูกข่มขืนมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งแรกปีพ.ศ.2552 จนตั้งท้อง จากนั้นพ.ศ.2555 มีคดีพี่ชายของเรา และปี พ.ศ.2557 ที่ถือว่าเป็นคดีดัง ที่เขาอ้างว่าถูกโมเดลลิ่งพาไปข่มขืน และยาเสียสาวที่จริงเป็นยาตระกูลเดียวกับที่รักษาโรคลมชักของเขา" คุณส้ม กล่าว
นอกจากนี้ ตนยังพบว่าน.ส.ตูน มักจะใช้คดีของพี่ชายตน ไปโพสต์อ้างในโลกโซเชียลฯ เพื่อให้บุคคลที่ติดตามเกิดความรู้สึกสงสาร และพร้อมที่จะโอนเงินเพื่อแลกเข้ากลุ่มลับ ภายหลังตนยังทราบว่าน.ส.ตูน มักจะมีพฤติกรรมโพสต์ชักชวนให้ผู้ที่ติดตามเข้ากลุ่มลับ จนตนมั่นใจจึงได้แจ้งข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
อย่างไรก็ตาม การกระทำของตนไม่ใช่การแก้แค้น.ส.ตูน แต่อย่างใด แต่หากจะพูดก็เหมือนเห็นแก่ตัว เพราะตนก็ยอมรับว่าตนช่วยพี่ชาย และอยากให้สังคมได้รับรู้พฤติกรรมของน.ส.ตูน นอกจากนี้ หากย้อนกลับไปขณะนั้นอนาคตของพี่ชายของตนกำลังจะไปด้วยดี ตำรวจยศสิบตำรวจเอกต้องมาจบเพราะน.ส.ตูน
Advertisement