เด็ก ม.ต้น ตบคาชุดนักเรียน เปิดใจนัดคุยเคลียร์ปัญหาส่วนตัวแต่เจอรุม แม่เหยื่อยันเอาผิดรับไม่ได้หลังเห็นคลิป (คลิป)
จากกรณีโซเชียลแชร์คลิปวิดีโอเด็กหญิงวัย 14 ปี สวมใส่ชุดนักเรียน ถูกหญิงสาววัยรุ่นใส่เสื้อสีเขียว กางเกงขาสั้น ตบตีจนล้มลงไปกองกับพื้น บริเวณด้านหลังร้านสะดวกซื้อ ใกล้โรงเรียนมัธยมในจังหวัดอ่างทอง ก่อนที่จะลุกขึ้นสู้จนล้มไปทั้งคู่ และมีเสียงให้ทั้งคู่ปล่อยออกจากกัน เพื่อที่จะนัดไปยังสวนน้ำที่อยู่ห่างแรกไปประมาณ 2 กม. เพื่อเคลียร์กัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีคลิปเสียงโต้เถียงระหว่างกลุ่มเด็กหญิงอายุ 14 ปี มีทั้งผู้ชายและผู้หญิงกับกลุ่มคู่กรณีที่เพิ่งตบกันมาในคลิปก่อนหน้าอย่างรุนแรงในเรื่องที่มีการด่าทอ และมีท้าทายกันทางโซเชียลก่อนที่จะเกิดการตบกันอีกครั้ง เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 7 มกราคม 2565
วันที่ 9 ม.ค. 65 ทีมข่าวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ จุดแรกบริเวณถนนข้างโรงเรียนแห่งหนึ่ง ลักษณะเป็นหน้าตึกอาคารพาณิชย์ จุดที่ 2 บริเวณประตูน้ำใกล้สวนน้ำเฉลิมพระเกียรติ สองข้างทางเป็นที่ทำการเกษตรของชาวบ้าน
ด.ญ.ไอซ์ อายุ 14 ผู้บาดเจ็บ เปิดใจทางวิดีโอคอลว่า เมื่อเดือนสิงหาคม 2564 ตนได้คบหาดูใจกับเพื่อนของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งแฟนหนุ่มได้พาตนไปรู้จักกับคามิว เพื่อนเมย์ ผู้ก่อเหตุ ต่อมาภายในเดือนเดียวกัน คามิวได้กลั่นแกล้งตน นำครีมบำรุงผิวไปเททิ้ง แล้วนำน้ำปลาไปใส่ในขวดครีมบำรุงผิวแทน ซึ่งตนก็ยอมรับไม่ได้พร้อมกับสอบถามเหตุผลที่คามิวกระทำลงไป คามิวบอกว่าไม่ชอบตน โดยไม่มีเหตุผล และไม่ชอบที่ตนได้ไปคบหาดูใจเพื่อนของเขา ตนจึงขอให้คามิวชดใช้จ่ายเงิน 200 บาท และต่างคนต่างอยู่ ขณะเดียวกันแฟนหนุ่มของตนก็พาไปรู้จักกับคนที่ชื่อเมย์ ผู้ก่อเหตุ ตนก็พูดคุยด้วยปกติ
กระทั่งต่อมาเดือนธันวาคม 2564 วันที่ 7 ธันวาคม 2564 ตนตัดสินใจเลิกลากับทางแฟนหนุ่ม เพราะเห็นว่าแฟนหนุ่มนอกใจ ปันใจให้กับเมย์ ผู้ก่อเหตุ พอเลิกกันแล้วก็ทราบว่าเมย์ก็ได้คบหาดูใจแฟนหนุ่มของตน ต่อมาคามิวได้ทักเฟซบุ๊กมาหาสอบถามว่าเลิกกับแฟนหนุ่มแล้วหรือไม่ ตนก็บอกว่าเลิกแล้ว ก่อนที่คามิวจะด่าทอตนด้วยคำหยาบคายว่า "ตอแ-ล ผู้ชายไม่เอา" ตนจึงด่ากลับไปหยาบคายเช่นกัน
จากนั้นตนได้สร้างกลุ่มทางเฟซบุ๊กขึ้นมาด่าทอกันและกัน โดยพาพวกรุ่นพี่แต่ของละฝั่งเข้าไปในกลุ่มด้วย พอด่าเสร็จก็ลบ ซึ่งสร้างบ่อยจนจำไม่ได้ นอกจากนี้วันที่ 5 ธันวาคม 2564 คามิวได้ด่าทอตนว่าเป็นลูกก-หรี่ ยอมรับว่าเป็นคำพูดที่รุนแรง ตนยอมรับว่าได้ด่าทอคนที่ชื่อพลอย ซึ่งเป็นรุ่นพี่และเป็นพี่สาวของเมย์ ตนได้หลุดปากเรียกไม่สุภาพ ภายหลังหลังจากนั้นกลุ่มของเมย์และคามิวได้นัดคุยกับตน ตนเองก็ได้ขอโทษไปแล้ว คิดว่าจบกันไป
แต่ตัวของคามิวได้นัดวันที่ 3 มกราคม 2565 ซึ่งตนไม่สะดวกเจอ เพราะกลัวมีเรื่อง นอกจากนี้ตนได้ขอโทษ เพื่อขอให้เรื่องราวจบลง จากนั้นกลุ่มของคามิวจึงบอกว่าแล้วเจอกันวันที่ 6 มกราคม 2565 ตนได้ปฏิเสธ เนื่องจากวันที่ 5 มกราคม 2565 ตนไปฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 แต่กลุ่มของเมย์ไม่ยอม ได้นัดเจอกันในวัน 7 มกราคม 2565 ด้วยความที่อยากจบเรื่องจึงไปพูดคุย พอตอนคุยกับคามิว เมย์ปรีเข้ามาทำร้ายร่างกาย เข้ามากระชากศีรษะตน เอาศีรษะของตนไปกระแทกกับพื้น ส่วนสาเหตุที่ถูกทำร้ายครั้งนี้ตนไม่มั่นใจว่าเมย์โกรธเรื่องอะไร แต่ที่ตนมีปัญหาด้วยคือคามิว นอกจากนี้แล้วคามิวยังโทรมาข่มขู่ด้วย ตนขอยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
น.ส.เมย์ อายุ 18 ปี ผู้ก่อเหตุ ยอมรับว่า ตนเป็นมือตบ ส่วนตัวแล้วรู้จักไอซ์ผ่านจากนายนุ๊ก เป็นรุ่นน้องของตน นายนุ๊กได้เป็นแฟนกับไอซ์ ขณะที่พวกเขาคบหากัน ไอซ์ได้หึงหวงตนกับนายนุ๊ก เนื่องจากนายนุ๊กมาเที่ยวบ้านตนตามประสาคนรู้จัก ยืนยันว่าขณะนั้นตนไม่ได้ คิดกับนายนุ๊กเกินเลยพี่น้อง แต่ไอซ์ได้โพสต์ด่าทอและทักมาหาอยู่บ่อยครั้ง จากนั้นเดือนธันวาคม 2564 ไอซ์ได้เลิกรากับนายนุ๊ก ตนจึงได้พูดคุยกับนายนุ๊ก และเริ่มคบหาดูใจกัน แต่ไอซ์เริ่มลามไม่รู้จักรุ่นพี่รุ่นน้อง ทักมาด่าทอตน นอกจากนี้ไอซ์ได้สร้างกลุ่มในเฟซบุ๊ก พร้อมกับโพสต์ข้อความด่าทอตนด้วยคำที่ไม่สุภาพ และยังลามไปถึงบุพการี โดยที่ผ่านมาตนพยายามนิ่ง ตนและนายนุ๊กได้พยายามบล็อกหลายครั้ง
กระทั่งไอซ์ได้นัดตนไปเจอกันวันที่ 3 มกราคม 2565 ได้นัดตนไปเคลียร์ ซึ่งตนไม่ไป เนื่องจากมองว่าไร้สาระ แต่ไอซ์ยังไม่ยอม พยายามทักมาด่าทอ และได้นัดว่าวันที่ 6 มกราคม 2565 เจอกันตนก็ไม่ไปตามนัด สุดท้ายไอซ์นัดอีกครั้งคือวันที่ 7 มกราคม 2565 โดยพูดว่ารอตนอยู่ ซึ่งตนคาดว่าจะไม่ไป แต่ไอซ์ก็ทักมาหาเรื่องจนทำให้ทนไม่ไหว นอกจากนี้ ทนไม่ไหวที่ไอซ์นัดมาหลายรอบแล้ว ขอชี้แจงว่าสาเหตุที่ทำร้ายครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องของผู้ชาย คนอย่างตนเรื่องของผู้ชายนั้นไม่ขอลดตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่ที่เดินทางจากสุพรรณบุรี ไปทำร้ายไอซ์ถึงอ่างทองนั้น เพราะเด็กมันไม่รู้จักรุ่นพี่รุ่นน้องและยังปากดี
เมื่อไปถึงตามนัดตนจึงได้ก่อเหตุตบทันที โดยยืนยันว่าไม่ได้นำหัวไปกระแทกพื้น พอตบจากจุดแรกเสร็จ ทางกลุ่มของไอซ์ได้บอกให้พวกตนไปยังตรงบริเวณจุดที่สอง ขอยืนยันว่าตนไม่ได้หลอกลวงให้ไอซ์ไปและตนไม่รู้จักจุดที่สอง เนื่องจากตนเป็นคนสุพรรณบุรีไม่ใช่คนอ่างทอง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนคิดมาดีแล้วที่ตบตีไปไม่ได้เป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เมื่อเรื่องถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วตนก็พร้อมรับผิดชอบและจ่ายค่าปรับ ขณะเดียวกันยอมรับว่าฝั่งของตนนั้นพกอาวุธมีด และเดินทางไปกัน 6 คน ส่วนฝั่งของไอซ์เองก็มีผู้ชายมาจำนวน 10 กว่าคน มีอาวุธมีดเหมือนกัน ทั้งนี้ ในส่วนเรื่องของคดีความนั้นตนไม่ได้ลำบากใจหรือกังวล ยินดีที่จะรับผิดชอบในสิ่งที่กระทำลงไป
ด้าน น.ส.ข้าวทิพย์ อายุ 32 ปี แม่ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ 16.00 น. ตนได้โทรศัพท์หาน้องไอซ์ลูกสาว บอกให้เลิกเรียนแล้วรีบกลับบ้าน ขณะนั้นไอซ์ไม่ได้บอกว่ากำลังจะมีเรื่อง ก่อนที่ตนจะวางสาย กลับไปทำงาน ต่อมาเวลา 19.00 น. ตนเลิกงาน และได้ทราบว่าไอซ์ถูกทำร้ายร่างกาย ตนจึงให้น้าที่อยู่ข้างบ้านไปที่ สภ. จากนั้นตนจึงรีบตามไป ตำรวจได้ให้ไอซ์ไปตรวจร่างกายก่อนที่จะได้นอนรักษาตัวทโรงพยาบาล โดยไอซ์มีอาการปวดเมื่อยร่างกาย ตามตัวมีรอยถลอกและฟกช้ำ นอกจากนี้ศีรษะโน ขณะนี้อาการดีขึ้น
ก่อนหน้านี้ได้ทะเลาะและโพสต์ด่าทอกันในโลกโซเชียล ส่วนตัวไม่ได้สอบถามว่าทะเลาะเรื่องอะไรกัน ซึ่งในวันที่เกิดเหตุ กลุ่มของคู่กรณีไอซ์ ทักเข้ามาด่าทอพร้อมนัดเคลียร์ ซึ่งไอซ์อยากจะจบเรื่องจึงตามไปที่เกิดเหตุ จากนั้นคู่กรณีได้หลอกไปยังจุดเกิดเหตุที่สอง จนถูกทำร้ายอีกครั้ง ขณะเดียวกันมองว่าตอนที่ไอซ์มีปัญหาคงไม่กล้ามาปรึกษาพ่อแม่และยายเนื่องจากกลัวว่าจะถูกดุด่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่รู้ว่าใครผิดใครถูกแต่ก็อยากให้พูดคุยกันดีไม่สมควรที่จะใช้ความรุนแรง เพราะฝั่งคู่กรณีก็โตโตกันแล้ว
ที่ผ่านมาไอซ์เป็นคนร่าเริงไม่เคยมีปัญหากับใคร ภายหลังจากเกิดเรื่องต้นยืนยันว่าจะดำเนินการให้ถึงที่สุด เพราะตนมีลูกสาวคนเดียว และขอรับเงินค่าเยียวยาค่าทำขวัญ ทั้งนี้ หลังจากที่ไอซ์ถูกเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ทางคู่กรณียังโทร.มาสมน้ำหน้า พร้อมทั้งขอให้ไอซ์ไปกราบเท้า ซึ่งตนมองว่าไม่ใช่ ซึ่งคนเป็นแม่ได้ยินคำพูดดังกล่าวก็เจ็บใจ
Advertisement
