จากกรณี เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 64 กลายเป็นเรื่องราวร้อนฉ่าในโลกโซเชียล หลังมีชาวทวิตเตอร์ได้พร้อมใจกันติด #โรงเรียนรั้วฟ้าขาวแห่งหนึ่ง โดยเผยแพร่เรื่องราวของครูชายสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดภาคใต้ มีเพศสัมพันธ์กับนักเรียนสาว ซึ่งเป็นลูกศิษย์จำนวนหลายราย บางรายถูกขอมีเพศสัมพันธ์เพื่อแลกกับเกรดผลการเรียน นอกจากนี้ยังนำคลิปที่มีเพศสัมพันธ์กับเด็กนักเรียนบางส่วนไปเผยแพร่ในกลุ่มไลน์
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวดังกล่าวยังคงถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่อง โดยมีเด็กนักเรียนหญิงที่คาดว่าเคยเป็นลูกศิษย์ ได้ออกมาเผยแพร่วีรกรรมถึงครูท่านนี้อย่างเผ็ดร้อน ทั้งชวนนักเรียนสาวไปสวิงกิ้ง หรือส่งภาพอวัยวะเพศให้ดู และชวนนักเรียนชายเข้ากลุ่มสยิว
วันที่ 28 ธ.ค.64 เวลา 19.50 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระนอง ได้ควบคุมตัวครูเอก ผู้ก่อเหตุ มาคุมตัวไว้ที่ สภ.เมืองระนอง ก่อนในวันพรุ่งนี้จะทำการสอบสวนผู้ก่อเหตุเพิ่มเติม พร้อมนำตัวส่งศาลจังหวัดระนองในลำดับถัดไป ตามขั้นตอนของกฎหมาย
หลังจากนั้นทีมข่าวได้มีโอกาสพบกับ นางพรรณ แม่ของครูเอก หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวครูเอกเข้าห้องขัง โดยทีมข่าวพยายามสอบถาม นางพรรณถึงความรู้สึก และแผนการช่วยเหลือผู้ก่อเหตุว่ามีการเตรียมการณ์อย่างไรบ้าง แต่ทางนางพรรณตอบกลับว่า "ไม่คุย ไม่รู้ ไม่ขอตอบคำถามอะไร"
ซึ่งช่วงกลางวันที่ผ่านมา ทีมงานหมอปลา โกบอย ทนายไพศาล ทนายพิพัฒน์ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.พรพรหม จักษุรักษ์ ผกก.สภ.เมืองระนอง เพื่อสอบถามติดตามความคืบหน้าทางด้านคดี
หมอปลา กล่าวว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น ที่ได้มีการเสนอข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้นั้น ทางตนและทีมงานทนายความก็ยังได้รับข้อมูลมาว่า ยังมีนักเรียนภายในโรงเรียนที่โดนข่มขู่ และถูกสั่งห้ามให้ข้อมูลใด ๆ ผ่านสื่อ ทำให้ตนรู้สึกว่าการที่ตนและทีมทนาย เดินทางลงพื้นที่ช่วยติดตามคดี และพยายามพลักดันให้เรื่องนี้ได้ถูกกระจายผ่านสื่อ เพื่อที่ทางโรงเรียนจะได้มีการปรับปรุงแก้ไขในส่วนที่ไม่ดีหรือเกิดข้อผิดพลาด
แต่คุณครูภายในโรงเรียนกลับมีการสั่งห้ามไม่ให้เด็กให้ข้อมูลใด ๆ เพิ่มเติมผ่านสื่อหรือทีมทนาย ในส่วนนี้ตนมองว่าเป็นเรื่องที่แปลก เพราะเสมือนเป็นการปกป้องคนผิด และหากลองตั้งข้อสังเกต ครูผู้ก่อเหตุดังกล่าว ทั้งที่เป็นครูที่มีลักษณะล่อแหลมกับนักเรียนภายในโรงเรียน และยังเป็นครูอัตราจ้าง แต่ครูรายดังกล่าวกลับได้รับการต่อสัญญาให้เป็นครูสอนอยู่ภายในโรงเรียนเรื่อยมา ทั้งที่เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นภายในโรงเรียนมานานแล้ว
ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่าการที่ตนออกมาติดตามกรณีที่เกิดขึ้นจุดประสงค์เพื่อต้องการให้คุณครูที่เป็นคนไม่ดี ออกจากการเป็นคุณครู เพราะนักเรียนคืออนาคตของชาติ เมื่อหากนักเรียนที่เป็นอนาคตของชาติถูกกระทำอนาจารดังกล่าวแล้วภายในอนาคต จะสามารถพึ่งพาใครต่อไม่ได้ เพราะฉะนั้นตนจึงมองว่า ไม่อยากให้มีครูทีมเป็นมิจฉาชีพ ยังใช้ชีวิตอยู่ภายในโรงเรียนได้ ส่วนด้านคดีความหลังจากนี้ก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของตำรวจดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
Advertisement