หนุ่มตบสาวลั่นไม่ขอโทษ แฉเมียป่วยมะเร็งถูกแขวะให้ยกทรง เหยื่อขอหมื่นจบคดี (คลิป)

กรณีภาพวงจรปิดที่หน้าร้านจำหน่ายโทรศัพท์แห่งหนึ่ง ภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ จับภาพเหตุการณ์นายนครินทร์ เกตุทอง อายุ 30 ปี เดินเข้ามาหาผู้เสียหายที่เป็นหญิงสาว จากนั้นตบเข้าที่ใบหน้าหลายครั้งอย่างรุนแรง ต่อหน้าพนักงานคนอื่น ๆ และผู้ใช้บริการภายในห้างฯ จำนวนมาก

ขณะที่ผู้เสียหายอยู่ในอาการตกใจ หลังก่อเหตุชายคนดังกล่าวก็ไม่พูดจาอะไร จากนั้นชี้หน้าข่มขู่ผู้เสียหาย โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่าย ๆ ของวันที่ 2 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ ทำให้ผู้เสียหายกังวลเรื่องความปลอดภัย จึงตัดสินใจแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

ล่าสุดวันที่ 16 ธ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่ สภ.บางพลี อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกนายนครรินทร์ เกตุทอง คู่กรณีของ นางสาวจุฑารัตน์ เกตุเมฆ หรือ บี หญิงสาวผู้เสียหาย ตามที่ปรากฏในภาพกล้องวงจรปิด และเปรียบเทียบปรับในจำนวน 2,000 บาท ซึ่งค่าปรับดังกล่าวยังไม่รวมค่าทำขวัญ

นายนครรินทร์ เกตุทอง อายุ 30 ปี ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ในวันที่ 2 ธ.ค.64 ตนกับแฟนสาวไปเดินซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า และระหว่างนั้นตนเห็นโพสต์ของนางสาวจุฑารัตน์ ในทำนองว่ามีชุดชั้นในที่ไม่ได้ใช้แล้วเหลือเยอะ จึงอยากจะบริจาคให้ผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ซึ่งเวลาที่โพสต์นั้นไล่เลี่ยกับช่วงที่นางสาวนารีรัตน์ แฟนคนปัจจุบันของตนเพิ่งจะผ่าตัดเต้านมเสร็จ เพราะป่วยเป็นมะเร็งเต้านม ทำให้ตนมั่นใจว่าเขาโพสต์พาดพิงถึงแฟนของตนอย่างแน่นอน ตนจึงเดินไปหาที่ทำงานซึ่งอยู่ชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้าดังกล่าว 

เมื่อเดินไปถึงหน้าร้าน นางสาวจุฑารัตน์ได้พูดกับตนว่า จะมาบริจาคชุดชั้นในเหรอ ตนเลยง้างมือขึ้นตบทันที จากนั้นแฟนของตนก็รีบวิ่งเข้ามาห้าม และแยกย้ายกันออกไป อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่า ตนกับนางสาวจุฑารัตน์ ไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน แต่ตนรู้จักกันมาหลายปีแล้ว เพราะเมื่อ 3-4 ปีก่อน เคยเป็นแฟนเก่าของรุ่นน้องแต่ได้เลิกรากันไปแล้ว 

กระทั่งเมื่อช่วงปลายปี 63 ตนกำลังจะไปเที่ยวเกาะล้านกับนางสาวนารีรัตน์ แฟนคนปัจจุบันของตน เลยชวนนางสาวจุฑารัตน์ไปด้วย เพราะเห็นว่าทั้งคู่ทำงานอยู่ที่เดียวกัน และช่วงที่ไปเที่ยวด้วยกัน ตนได้แนะนำให้นางสาวจุฑารัตน์ รู้จักกับนายไก่ (นามสมมติ) เพื่อนสนิทของตน เพราะตนเห็นว่าเพื่อนของตนไม่เคยมีแฟนมาก่อน และหลังจากที่กลับมาจากเกาะล้าน ทั้งคู่ก็ตกลงเป็นแฟนกัน

จากนั้นเมื่อช่วงต้นปี 64 แฟนเก่าของตนได้ส่งข้อความมาทะเลาะกับแฟนคนปัจจุบัน ทำให้ตนต้องเรียกทั้งคู่มาเจรจาปัญหา จนเลิกแล้วกันไป กระทั่งเมื่อช่วงกลางปี 64 นางสาวจุฑารัตน์ ได้ส่งข้อความไปหาแฟนเก่าของตนว่า แฟนคนปัจจุบันของตนเป็นโรคมะเร็งเต้านม สำหรับวันที่เกิดเหตุตนตั้งใจจะไปตบอยู่แล้ว เพราะนางสาวจุฑารัตน์ มักจะเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตของตน จนทำให้ตนกับแฟนสาวต้องทะเลาะกัน และจะเลิกรากันหลายครั้ง 

ทั้งนี้ ตนไม่ได้ต้องการที่จะขอโทษ หรือพูดคุยกับคู่กรณีอีกแล้ว และตนก็ไม่เคยหนีไปไหน ตนยอมรับในการกระทำของตัวเอง แต่สิ่งที่ตนค้างคาใจคือทำไมต้องเข้ามาวุ่นวายกับตน สำหรับเรื่องที่นางสาวจุฑารัตน์ ให้ข่าวไปว่าไม่รู้จักกับตน ส่วนตัวมองว่าเขาโกหก และสุดท้ายตนอยากจะฝากบอกนางสาวจุฑารัตน์ ว่าต่างคนต่างอยู่ไม่ต้องมายุ่งกันอีก

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสาวนารีรัตน์ ศรีสมุทร อายุ 36 ปี แฟนคนปัจจุบันของมือตบ เปิดเผยว่า ในวันที่เกิดเหตุเป็นช่วงที่ตนเพิ่งจะผ่าตัดเต้านมเสร็จ และตนกับนายนครินทร์ ได้เดินทางไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า ในระหว่างที่ซื้อของด้วยกัน จู่ ๆ นายนครรินทร์ ก็เดินหายไป ก่อนจะเดินเข้าไปตบนางสาวบี พอตนเห็นก็รีบปรี่เข้าไปห้ามทันที และตอนนั้นตนยังไม่ทราบเรื่องว่าต้นเหตุมาจากโพสต์ภาพนิ่งบริจาคชุดชั้นใน

อย่างไรก็ตาม ตนไม่ทราบว่า นางสาวบีทำไปเพื่ออะไร และตนกับนางสาวบี ไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน แต่รู้จักกันเพราะทำงานอยู่ที่เดียวกัน และนางสาวบีเป็นคนแนะนำให้ตนได้รู้จักกับนายนครินทร์จนเป็นแฟนกัน ซึ่งตอนที่คบกันแรก ๆ ก็ไม่ได้มีปัญหากันแต่อย่างใด และคุยกันดีตามปกติ เพราะตนก็เอ็นดูตามประสารุ่นพี่รุ่นน้องในที่ทำงาน

กระทั่งช่วงกลางปี ตนเพิ่งจะเริ่มป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านม และตนได้แจ้งให้เพื่อนร่วมงานทราบ จากนั้นตนก็มารู้ในภายหลังว่า นางสาวบีได้นำเรื่องที่ตนป่วยไปเล่าให้กับแฟนเก่าของนายนครินทร์ฟัง เป็นเหตุให้ตนกับแฟนทะเลาะกัน และช่วงนั้นตนเพิ่งจะเริ่มป่วย สภาพจิตใจจึงค่อนข้างจะบอบบาง และยิ่งมาเจอปัจจัยจากเรื่องนี้อีกยิ่งทำใหัตนรู้สึกแย่ หลังจากนี้ ตนอยากจะให้ต่างคนต่างอยู่ ไม่ต้องมายุ่งกันอีก เพราะแค่เรื่องป่วยตนก็หนักใจพอแล้ว สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็ยอมรับว่าแฟนของตนผิดที่ไปตบ แต่ตนเชื่อว่าถ้าความอดทนไม่ถึงจุดสิ้นสุด ก็คงจะไม่ทำ เพราะตนเชื่อว่าใครทำเวรกรรมอะไรไว้ ก็ต้องได้รับผลตามนั้น

ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ห้างสรรพสินค้าดังกล่าว จึงได้พูดคุยกับ นางสาวจุฑารัตน์ เกตุเมฆ หรือ บี หญิงสาวผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อเช้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์เข้ามาแจ้งว่า คู่กรณีขอลดค่าทำขวัญเหลือ 5,000 บาท จาก 10,000 บาท ซึ่งตนมองว่าถ้าคิดได้คงจะไม่มาตบตนในที่สาธารณะตั้งแต่แรก และเขาก็คงจะไม่ต้องมานั่งเสียเงิน ตนจึงยืนยันว่าถ้ายอมจ่าย 10,000 บาทจะยอมจบเรื่อง

สำหรับสาเหตุของการตบ ตนเชื่อว่าเป็นไปตามที่มือตบสารภาพกับตำรวจว่า ตบเพราะโพสต์เรื่องบริจาคชุดชั้นใน ซึ่งเรื่องนี้อาจจะมีคนไปพูดยุแยงทำให้นายนครินทร์ เข้าใจผิดคิดว่าตนพูดถึงแฟนเขา ก่อนหน้านี้ตนเคยคุยกับแฟนเก่าของมือตบจริง แต่คุยกันนานมาแล้ว และตอนนี้ไม่ได้สนิทกันแล้ว ทั้งนี้ ตนไม่เคยไปยุ่งวุ่นวายกับนายนครินทร์ ตามที่อีกฝ่ายกล่าวอ้าง และเมื่อก่อนตนกับนายนครินทร์ ก็สนิทกันดี กระทั่งตนได้แนะนำให้นายนครินทร์ รู้จักกับนางสาวนารีรัตน์จนได้เป็นแฟนกัน

หลังจากนั้นตนกับนายนครินทร์ ก็ระหองระแหงกันมาตลอด เพราะนางสาวนารีรัตน์ นำเรื่องของตนไปพูดกับแม่ของนายนครินทร์ จนทำให้มีปัญหากัน และเลิกยุ่งกันไป ตนยืนยันว่าถ้ากลับมาทำงานด้วยกัน ก็ไม่มีปัญหากันแน่นอน เพราะตนไม่เคยไปวุ่นวายกับนางสาวนารีรัตน์ และไม่เคยโพสต์แขวะตามที่อีกฝ่ายเข้าใจ อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่านายนครินทร์ คงจะไม่กล่าวขอโทษตนอย่างแน่นอน และตนคิดว่าจะใกล้ปีใหม่แล้ว ต่างคนต่างอยู่จะดีกว่า 

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี ให้ข้อมูลว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำและบันทึกคำให้การของผู้ต้องหารายนี้เรียบร้อยแล้ว และถูกดำเนินคดีในข้อหาใช้กำลังทำร้ายร่างกาย โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ มีโทษปรับ 2,000 บาท พร้อมสั่งให้จ่ายเยียวยาผู้เสียหายเป็นเงินสดตามที่ตกลงกัน จำนวนเงิน 10,000 บาท