เมื่อวันที่ 16 พ.ย.64 เวลา 13.30 น. พ.ต.อ.วิษณุ อาภรณ์พงษ์ ผกก.สภ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.ต.ต.ชินวัส โคนาโล สารวัตรสืบสวน สภ.กระสัง, ร.ต.อ.ยุทธพงศ์ ทรงศิริ รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน พร้อมด้วยร้อยเวรฯ เจ้าของดี และตำรวจชุดสืบ สภ.กระสัง ควบคุมตัวนายธเนศ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี อาชีพผู้รับเหมาก่อสร้าง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.กระสัง อ.กระสัง
เนื่องจากนายธเนศ ได้ก่อเหตุบุกเข้าไปในโรงเรียน แล้วใช้กำลังทำร้ายร่างกาย หวังกระทำอนาจารเด็กนักเรียนชั้น ม.1 บนอาคารเรียนชั้น 3 แต่นักเรียนหญิงผู้เสียหายต่อสู้ขัดขืน และร้องขอความช่วยเหลือ จนคนร้ายตกใจยอมปล่อย ก่อนจะวิ่งลงจากอาคารที่เกิดเหตุ ไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ด้านหลังอาคารแล้วขับหลบหนีไป
จากการตรวจสอบนายธเนศ ลงมือก่อเหตุช่วงเวลา 07.00 น. ของวันที่ 15 พ.ย.64 หลังจากผู้ปกครองมาส่งที่หน้าโรงเรียน แล้วเด็กเดินขึ้นไปบนอาคารเรียน ขณะที่ ผอ. และครูก็ยืนอยู่ตามจุดต่าง ๆ ภายในโรงเรียน แต่ไม่คาดคิดว่าคนร้ายจะกล้าขึ้นไปก่อเหตุถึงบนอาคารเรียนดังกล่าว
ทั้งนี้ หลังจากตำรวจ สภ.กระสัง ได้รับแจ้งเหตุจากผู้บริหารโรงเรียน ว่ามีคนร้ายเข้าไปก่อเหตุกระทำอนาจารเด็กนักเรียนในโรงเรียน พ.ต.อ.วิษณุ ได้นำทีมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่แกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งภายในโรงเรียน พื้นที่ใกล้เคียง และตามเส้นทางต่าง ๆ ที่สภ.กระสัง ได้ติดตั้งเอาไว้ ตามโครงการ SMART SAFETY ZONE 4.0 ของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมกว่า 40 ตัว จนพบภาพบุคคลต้องสงสัยเป็นชายอายุประมาณ 30 – 35 ปี สวมเสื้อสีกีฬาขาว กางเกงกีฬาสีเทา รองเท้าผ้าใบสีขาว สวมแมสก์สีดำ เข้ามาในบริเวณโรงเรียนที่เกิดเหตุ และขี่รถวนมาจอดอยู่หลังอาคาร เดินตาม ด.ญ.ม.1 ขึ้นไปบนชั้น 3 แล้วใช้กำลังประทุษร้าย จากนั้นวิ่งลงจากอาคารมายังจุดจอดรถ แล้วขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวออกจากโรงเรียนไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ตามที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด พบว่าปัจจุบันชื่อผู้ครอบครองรถอยู่ที่ ต.สูงเนิน อ.กระสัง จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นภรรยาของชายต้องสงสัย แต่ได้เลิกรากันไปนานแล้ว จากนั้นสืบสวนต่อก็ทราบว่าชายคนดังกล่าว ไปมีภรรยาใหม่อยู่ที่บ้านาหลังหนึ่งใน ต.สูงเนิน จึงได้นำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด และรูปพรรณตามที่ผู้เสียหายให้ข้อมูลเข้าจับกุมตัวนายธเนศ
เมื่อนายธเนศ เห็นภาพดังกล่าว รวมถึงเสื้อผ้า รองเท้า และรถจักรยานยนต์ที่ขี่ในวันเกิดเหตุ ก็ดิ้นไม่หลุดต่อหลักฐานและยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุบุกเข้าไปในโรงเรียน เพื่อใช้กำลังทำร้ายร่างกาย หวังปลุกปล้ำกระทำชำเรานักเรียนหญิง ม.1 จริง
โดยนายธเนศ ให้การรับสารภาพอ้างว่า ตนเสพยาบ้าแล้วเกิดอารมณ์จึงได้ก่อเหตุ แต่ตนไม่รู้ว่าทำไมถึงเลือกเหยื่อเป็นเด็กนักเรียน และก่อเหตุในโรงเรียน ตนไม่ได้เจาะจง เป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ หลังก่อเหตุแล้วนึกเห็นหน้าลูกและเมียก็รู้สึกผิด จึงอยากฝากขอโทษเด็กและครอบครัวของผู้เสียหายด้วย
นางรัมภา ศรีวรานันท์ ผู้ช่วย ผอ.โรงเรียนที่เกิดเหตุ กล่าวว่า เมื่อตนเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก็ตกใจเพราะผู้ต้องหาเป็นศิษย์เก่า และตนก็เคยเป็นครูประจำชั้นด้วย ตนก็ไม่คิดว่าเขาจะกล้าเข้ามาก่อเหตุถึงในโรงเรียนและกระทำกับรุ่นน้อง
หากจะถามถึงพฤติกรรมและนิสัยของผู้ต้องหา เขาค่อนข้างเกเรตามประสาวัยรุ่น แต่ไม่มีประวัติเสพยาหรือกระทำลักษณะนี้ ในฐานะที่ตนเคยเป็นครูสอน ก็รู้เสียใจและอยากฝากให้ผู้ต้องหาว่า กลับตัวกลับใจ อย่าทำแบบนี้อีก ส่วนเรื่องคดีก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากทำแผนฯ เสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหากลับห้องขับ สภ.กระสัง โดยเบื้องต้นถูกแจ้ง 3 ข้อหา “กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” ทั้งนี้ หากผู้เสียหายรายใดเคยถูกกระทำในลักษณะดังกล่าว ก็สามารถมาชี้ตัวหรือแจ้งความเพิ่มเติมได้ที่สภ.กระสัง จ.บุรีรัมย์
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยัง สภ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ จึงได้พบกับ น.ส.ส้ม (นามสมมติ) ภรรยาของนายธเนศ ที่มานั่งร้องไห้รอประกันตัวสามี อยู่ที่หน้าห้องสืบสวน เปิดใจทั้งน้ำตาว่า ในวันที่สามีไปก่อเหตุ ตนไม่รู้เรื่องจริง ๆ ว่าสามีออกจากบ้านไปทำอะไร ซึ่งวันเกิดเหตุสามีก็กลับมากินข้าวกินปลาใช้ชีวิตปกติ มารู้อีกทีว่าสามีไปก่อเหตุทำอนาจารเด็ก ก็ตอนที่ตำรวจบุกมาจับที่บ้าน พังประตูเอาปืนมาจ่อศีรษะ ขณะที่ตนกำลังนั่งกินข้าวกับสามี ตอนนั้นตกใจมาก ๆ ก็ได้นั่งร้องไห้
จากนั้นพอตามมาที่โรงพัก ก็ถามกับสามีว่าไปทำกับเด็กตามที่ตำรวจกล่าวหาจริงหรือไม่ สามีก็บอกว่าทำ ควบคุมตัวเองไม่อยู่ แต่ไม่ได้ข่มขืน แค่หยอกเล่นเฉย ๆ ไม่ได้ตั้งใจ สามีบอกว่า "พอคิดถึงหน้าเมียกับลูกก็หยุดทำน้อง"
อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่าตอนนี้เครียดมาก ๆ ที่ผ่านมาสามีไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้ แต่ช่วงนี้รู้แค่ว่าสามีเครียดเพราะตกงานและถูกทางบ้านกดดันให้หาเงินมาสู่ขอตน จึงหันไปเล่นยาเสพติดจนมาก่อเหตุในครั้งนี้ ตนก็อยากจะวิงวอนขอให้สังคมหยุดโจมตีและต่อว่าสามี เพราะตอนนี้สามีก็สำนึกผิดแล้ว สามีไม่ได้ตัังใจที่ทำ เพราะอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น
นอกจากนี้ ในวันนี้ตำรวจได้สอบปากคำนายธเนศ จนถึงช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. หลังจากสอบปากคำแล้วเสร็จ ตำรวจก็ได้นำตัวนายธเนศ เข้าห้องขัง ทีมข่าวก็พยายามถามนายธเนศ ที่มีสีหน้าเคร่งเครียด และบอกเพียงว่า "ผมไม่ได้ตั้งใจ และอยากจะขอโทษกับครอบครัวน้องครับ"
Advertisement