กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "เจ๊ม้อยv plus" โพสต์ข้อความระบุว่า "#โดนไรเดอร์ตบหน้าบีบคอ ถ้าคุณไม่พร้อมที่จะทำงานบริการ ควรเลือกอาชีพอื่นที่เหมาะสมกับคุณค่ะ การทำร้ายผู้หญิงยังงัยก็ไม่สมควรค่ะ สาธุประดิษฐ์ ไรเดอร์ที่ทำร้ายร่างกายนำไอดีคนอื่นมารับงาน และโกหกว่าโทรศัพท์ที่ผูกไว้กับระบบแบตหมด เลยติดต่อไม่ได้ แต่จริง ๆ ใช้อีกเบอร์
มีใครรู้จักไรเดอร์คนนี้ไหมคะ พอที่จะตามตัวได้ไหม เรา (ร้านอาหาร) โดนไรเดอร์คนนี้ทำร้ายร่างกาย ต่อยหน้า ตบบ้องหู บีบคอ จากการที่ไรเดอร์มารับอาหารช้าและติดต่อไม่ได้ (เราโทรไปตามเบอร์คนขับในระบบ แต่โดนตัดสาย ติดต่อคนขับไม่ได้ราว ๆ 20 นาที) เราก็ต่อว่าไรเดอร์ไป และก็มีปากเสียงกัน โดยที่ไรเดอร์ไม่พอใจที่โดนเราต่อว่า เพราะทำอาหารเย็นชืด จึงต่อยเราและบีบคอแรงมากเกือบครึ่งนาทีได้ ตำรวจได้มาที่จุดเกิดเหตุและให้ไรเดอร์กับเราไปที่โรงพัก แต่ไรเดอร์คนนี้ขับรถหลบหนีไปค่ะ"
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้รับกล้องวงจรปิด ขณะที่ผู้เสียหายกำลังมีปากเสียงกับไรเดอร์ กระทั่งถูกทำร้าย และมีรปภ.เข้ามาให้การช่วยเหลือ
ล่าสุดวันที่ 8 พ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี พูดคุยกับนางสาวชมิทธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลา 01.50 น. มีลูกค้าสั่งอาหารเมนูข้าวหน้าเนื้อ และสปาเก็ตตี้ ราคา 400 บาท ทางไรเดอร์โทรศัพท์ยืนยันว่าจะเข้ามารับอาหาร หากทำอาหารใกล้เสร็จแล้วให้โทรแจ้งล่วงหน้า ตนบอกว่าอีกไม่เกิน 20 นาที อาหารจะเสร็จและหากใกล้เสร็จจะโทรศัพท์แจ้งอีกครั้ง ซึ่งก็ตกลงกันด้วยดี
จากนั้น 10 นาทีต่อมา ตนทำอาหารเรียบร้อยแล้ว จึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งไรเดอร์อีกครั้ง โดยโทรไปยังเบอร์โทรศัพท์ในระบบ แต่ไม่รับสาย ซึ่งคาดว่าไรเดอร์คงจะขี่รถหรือไม่ จึงได้ยืนรอสักพักและโทรศัพท์กลับไปอีกครั้ง แต่ถูกตัดสายและไม่สามารถติดต่อได้
ทั้งนี้ ตนก็ยืนรอเกือบ 20 นาที และพยายามโทรศัพท์ตืดต่อเกือบ 10 สาย กระทั่งตัดสินใจโทรศัพท์หาลูกค้า เพื่อสอบถามว่าตอนนี้ไรเดอร์อยู่ตรงไหนแล้ว เพราะขณะนี้ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งอาหารที่สั่ง ทำเสร็จนานแล้ว ตอนนี้อาหารกำลังจะเย็น ลูกค้าจึงบอกว่าไรเดอร์อยู่แถวสาทร บริเวณใกล้เคียงกับตน ใช้เวลาเดินทาง 10 นาที เมื่อไรเดอร์มาถึงตนจึงสอบถามสาเหตุที่มารับอาหารช้า โทรศัพท์ไปก็ไม่รับสาย แต่ไรเดอร์อ้างว่าทำไมไม่โทรเบอร์แรกที่ติดต่อไป ซึ่งตนเป็นแม่ค้าปกติแล้วจะโทรศัพท์เบอร์ที่ผูกกับระบบ ไม่เคยเกิดปัญหา
โดยไรเดอร์มีท่าทีอารมณ์เสียที่ตนไม่ติดต่อไปหาเบอร์แรกที่โทรมายืนยันรับอาหาร และถกเถียงกันสักพัก กระทั่งไรเดอร์พูดจาขึ้นมึงขึ้นกู ทำให้ตนนั้นรู้สึกไม่ชอบ จึงตัดสินใจที่จะไปส่งอาหารให้กับลูกค้าเอง จากนั้นจึงได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิปวิดีโอดังกล่าวเอาไว้
นอกจากนี้ ตนยอมรับว่าพูดจาหยาบคายกับไรเดอร์ว่า "กูไปส่งเองก็ได้ แม่_มึงเอ้ยไอ้_วาย!" เพราะตนโมโห แต่ไม่ต้องการที่จะพูดจายั่วยุ จากนั้นได้หยิบอาหารมาจากไรเดอร์ แต่ถูกไรเดอร์ปรี่เข้ามาต่อย 1 ครั้ง ทำให้ตนตามมาตบบ้องหูอีกหนึ่ง ตนจึงตะโกนขอความช่วยเหลือจากรปภ. ไรเดอร์ปรี่เข้ามาบีบคอต่อ สักพอ รปภ.มาระงับเหตุ แยกให้อยู่กับคนละมุม และโทรแจ้งตำรวจ ก่อนจะตกลงว่าให้แฟนหนุ่มเป็นผู้ไปส่งอาหารให้ลูกค้า
ในช่วงนั้นตนเดินเข้าไปหาไรเดอร์ ต่อว่าไม่สมควรที่จะใช้กำลัง ไรเดอร์ตบหน้าตนอีกครั้ง พอตำรวจมาถึงให้แยกย้ายกันไปที่สน. โดยไรเดอร์อ้างว่าจะต้องเดินทางไปถึง สน.ภายในเวลา 03.00 น. หากยังไม่ไปถึงก็จะกลับบ้านก่อน ขณะนั้นเวลา 02.50 น. ตนจึงตกลงและรีบเดินทางไป
เมื่อเดินทางไปถึงที่ สน.บางโพงพาง เวลา 02.58 น. แต่กลับไม่เจอใคร ตนจึงได้สอบถามตำรวจก็ปฏิเสธว่าไม่มีใครมา ตนเชื่อว่าไรเดอร์ไม่ได้ไปตามนัด ขณะเดียวกันตนได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว และขณะนี้ได้รับบาดเจ็บโหนกแก้มซ้ายแตก หัวตาซ้ายมีบาดแผล ข้างในตาซ้ายมีเลือดออก หลังหูขวา และบริเวณลำคอมีรอยขีดข่วนสีแดง และหูขวามีเสียงวิ้ง ๆ ข้างในกกหูขวาเจ็บ นอนตะแคงไม่ได้ โดยตนขายอาหารมา 6 เดือนแล้ว ไม่เคยเกิดเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้ มีบ้างที่เจอไรเดอร์มารับสินค้าช้า แต่ได้ขอโทษแล้วต่างฝ่ายต่างแยกกันไป ไม่ได้เถียงหรือทะเลาะกันเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม ตนทราบว่าไรเดอร์คนดังกล่าวใช้ไอดีผู้อื่นมารับอาหาร เป็นเหตุทำให้ตนไม่สามารถติดต่อได้ ภายหลังตนก็ยังคงขายของตามปกติ และยังขายในแอปพลิเคชันดังกล่าว ซึ่งตนไม่ได้มีปัญหากับระบบ แต่มีปัญหากับไรเดอร์คู่กรณี ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนมองว่าไรเดอร์ตั้งใจที่จะเข้ามาทำร้าย ภายหลังจากเกิดเหตุยังไม่ได้พูดคุยกับคู่กรณี ตอนนี้อยากให้เขาเข้ามาขอโทษ ควรยอมรับในสิ่งที่กระทำผิด แม้ว่าจะมีปากเสียงกันแต่ไม่สมควรที่จะทำร้ายร่างกาย ยอมรับว่าไม่อยากจะดำเนินคดี อยากฝากบอกว่า "พี่ไรเดอร์รู้ในสิ่งที่พี่กระทำ แต่พี่จะรู้ไหมว่างานที่ทำนั้นเป็นงานบริการ ส่วนตัวแล้วก็ได้รับแรงกดดันจากลูกค้า แต่ก็ไม่เคยจำมาลงกับทางไรเดอร์"
ทีมข่าวโทรศัพท์สอบถามนายขจรศักดิ์ (สงวนนามสกุล) ไรเดอร์คนดังกล่าว เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา มีลูกค้ากดสั่งอาหารร้านของคู่กรณี ซึ่งตนก็กดรับออร์เดอร์ พร้อมกับโทรศัพท์ไปยืนยันว่าจะเดินทางไปรับอาหาร และได้สอบถามว่าจะทำอาหารเสร็จภายในกี่นาที จึงทราบว่าประมาณ 20 นาที หลังจากนั้นจึงจะสามารถเข้ามารับอาหารได้เลย
ภายหลังจากที่ตนวางสายเสร็จแล้ว ยอมรับว่าไม่ได้เดินทางมาทันที เนื่องจากร้านของคู่กรณีไม่ได้มีหน้าร้าน ตนจึงไม่อยากมานั่งรอ เพราะไม่อยากโดนยุงกัด สักพักตนก็เดินทางไปยังคอนโดฯ ของคู่กรณี เมื่อตนไปถึงเห็นคู่กรณียืนรออยู่ ซึ่งคู่กรณีก็ต่อว่าไม่สามารถติดต่อได้ ตนจึงชี้แจงว่าเบอร์ที่ผูกกับแอปพลิเคชันนั้น ได้นำโทรศัพท์ไปชาร์จแบตเอาไว้ เนื่องจากโทรศัพท์แบตจะหมด และตอนที่ยืนยันรับออร์เดอร์ได้บอกให้คู่กรณีโทรกลับมาบอกเบอร์ล่าสุด ทำไมไม่โทรมาหา ตนผิดอะไร
นอกจากนี้ ตนขอชี้แจงว่า Account ที่ตนนำมารับออร์เดอร์ลูกค้านั้น เป็นของน้องชาย แต่ได้นำโทรศัพท์น้องชายมาไว้ที่ตน โดยตนไม่เคยรับออร์เดอร์จากร้านคู่กรณีมาก่อน ภายหลังที่ตนชี้แจงเรียบร้อยแล้ว คู่กรณีก็อ้างว่าตนผิดอีกที่มารับอาหารช้า ตนจึงได้โทรศัพท์ไปหาลูกค้าซึ่งลูกค้าปฏิเสธว่าไม่ได้โทรศัพท์ไปหาใคร ทำให้คู่กรณีนั้นหน้าแตก แต่คู่กรณีก็โวยวายอ้างว่าตนนั้นมารับอาหารช้า จากนั้นก็ถกเถียงกัน
คู่กรณีอ้างว่าจะแจ้งรีพอร์ต ตนก็บอกว่าตามสบาย เพราะเป็นสิทธิ์ของคู่กรณี เมื่อรับอาหารเสร็จกำลังจะเดินไปที่รถ คู่กรณีพูดทิ้งท้ายว่า "ทำไมต้องมาเจอคนเหี้_โง่ ๆ แบบนี้ด้วย ไอ้_ตว์” คำพูดดังกล่าวยอมรับว่ารุนแรงจนทำให้ตนระงับอารมณ์ไม่ได้ เพราะตนนั้นไม่ได้ทำอะไรผิด จึงปรี่เข้าไปทำร้ายร่างกาย ส่วนกรณีที่ตนบีบคอของคู่กรณีนั้นไม่ได้บีบด้วยความรุนแรง เพียงแต่อยากให้เขาหยุดพูด ตนมองว่าคนเราไม่รู้จักกัน ไม่สมควรมาด่ากัน และหากจะด่าก็ควรที่จะไปด่ารับหลังก็ได้ เหตุการณ์ดังกล่าวตนมองว่าคู่กรณีมีเจตนาที่จะยั่วโมโห
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากเกิดเหตุตนไม่ได้เดินทางไปที่โรงพัก เนื่องจากต้องการไประงับอารมณ์ของตัวเอง แต่หลังจากนี้หากกำหนดเรียกเข้าไปสอบปากคำ ตนก็พร้อมที่จะเดินทางไป ตนสามารถขอโทษคู่กรณีได้ และก็ต้องการให้คู่กรณีขอโทษเหมือนกันที่เขาพูดจาไม่ดีกับตน ที่ผ่านมาตนไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน ตนทำงานบริการมาแล้ว 2 ปี เจอเคสที่หนักกว่านี้ แต่ครั้งนี้ตนทนไม่ได้จริง ๆ ที่ถูกด่าทอ ทั้งนี้ ต้นสังกัดได้ระงับบัญชีของตนถาวรแล้ว
Advertisement