เดนคุกฆ่ามั่วแทงญาติคนจีบเมีย ครอบครัวคนตายสุดช็อกรับเคราะห์แทน (คลิป)

กรณีพ.ต.ต.พงษ์วุฒิ วุฒิพงษ์ สว.(สอบสวน) สภ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ประจำตึกอุบัติเหตุ รพ.ร่อนพิบูลย์ ว่ามีคนถูกทำร้ายร่างกายมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.วรจิตร วรศรี รอง ผกก.ป. และ พ.ต.ท.นครินทร์ มุกรินละไมมาด รองผกก.(สอบสวน) สภ.ร่อนพิบูลย์ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ 

เมื่อไปถึงพบศพ นายนุกูล พรหมมณี อายุ 49 ปี ชาว อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช มีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดเข้าที่หน้าอกขวา 1 แผล หน้าท้อง 1 แผล และแขนซ้าย 1 แผล โดยจากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ประมาณ 18.00 น. นายนุกูลได้ขี่รถจักรยานยนต์ สีน้ำเงิน ทะเบียน 1กณ 3987 นครศรีธรรมราช กลับจากทำงานรับจ้างในตลาดร่อนพิบูลย์ มาตามถนนสายร่อนพิบูลย์ – บ้านเถลิง ซึ่งเป็นถนนระหว่างหมู่บ้าน ท้องที่หมู่ 3 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อกลับบ้านพัก

ล่าสุดวันที่ 29 ก.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ เป็นถนนสายร่อนพิบูลย์ – บ้านเถลิง ซึ่งเป็นถนนระหว่างหมู่บ้าน ท้องที่หมู่ 3 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ลักษณะเป็นถนนสวนเลน สองข้างทางเป็นป่าหญ้าสลับกับบ้านเรือนประชาชน 

ทีมข่าวสอบถามชาวบ้านใกล้จุดเกิดเหตุ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ วันที่ 28 ก.ย.64 ประมาณ 17.00 น. ตนได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาขอความช่วยเหลือ สภาพเลือดอาบบอกว่าตนถูกแทง ตนจึงรีบไปประคองเข้ามาข้างใน ขณะนั้นเห็นเลือดออกเยอะมาก มีรอยแผลถูกแทง 3 แผลลึก บริเวณใต้ราวนม และบริเวณแขน ซ้ายอีก 1 แผล

ขณะนั้นตนสอบถามกับนายนุกูล ผู้เสียชีวิต ยังคงสามารถโต้ตอบได้ตามปกติ จึงรีบพาขึ้นรถกระบะเพื่อจะไปส่ง แต่รถกู้ภัยเข้ามาพอดี เลยนำส่งต่อให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัย กระทั่งทราบข่าวว่านายนุกูล เสียชีวิตแล้ว ก็รู้สึกตกใจ เพราะในพื้นที่ไม่เคยเกิดเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้ ส่วนตัวไม่รู้จักกับใครเลยทั้ง 2 คน คาดว่าเขาทั้ง 2 คน น่าจะมีปัญหาชกต่อยกันก่อนที่จะใช้อาวุธมีดแทงหรือไม่ 

ทีมข่าวเข้าไปพูดคุยกับนางก้อย (นามสมมติ) พี่สาวผู้ต้องหา กล่าวว่า น.ส.พลอย กับนายนัฐพงศ์ ผู้ต้องหา น้องชายของตน น่าจะคบกันมาประมาณ 6 ปี มีลูกชายด้วยกัน 2 คน คนโตอายุ 5 ปี คนเล็ก 3 ปี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาน้องชายของตนเป็นเสาหลักของครอบครัว ทำงานรับจ้างหาเงินมาเลี้ยงดูลูกและภรรยา โดยที่ภรรยาไม่ต้องทำงาน

แต่พอช่วงเดือน ก.ย.62 นายนัฐพงศ์ ถูกดำเนินคดีเรื่องยาเสพติดไว้ในครอบครอง จึงถูกฝากขังอยู่ในเรือนจำ ซึ่งขณะนั้นน.ส.พลอย ก็ได้มีการไปทำงาน เป็นแม่บ้านที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะได้เจอกับนายเจนวิทย์ แล้วมีสัมพันธ์กัน แล้วไปอยู่ด้วยกัน ตนก็เข้าใจว่าเลิกกับน้องชายแล้ว เพราะเขาไปมีสามีคนใหม่

พอหลังจากที่น้องชายตนพ้นโทษ ออกจากเรือนจำ ช่วงประมาณ เดือนมีนาคม 2564 ก็น่าจะมีการตามหาน.ส.พลอย ตอนนั้นตนก็สงสารน้องชาย เพราะก่อนหน้านี้ดูแลดี พอติดคุกดันไปมีคนอื่น ซึ่งปกติน้องชายเป็นคนไม่ค่อนสุงสิงกับใคร แต่เป็นคนอารมณ์ร้อนและไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง แต่ทางครอบครัวก็สามารถรับรู้ปัญหานี้ได้ จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ช่วงเช้าวันเกิดเหตุ ตนก็ยังเห็นน้องชายปกติ กระทั่งมาทราบเรื่องในช่วงเย็นว่าไปก่อเหตุแทงนายนุกูล เสียชีวิต ก็รู้สึกตกใจ แต่ก่อนหน้านี้มีคนโทรมาข่มขู่ให้น้องชายเลิกยุ่งกับน.ส.พลอย ถ้ายังไม่หยุดตื้อ เจอที่ไหนจะเก็บทิ้งที่นั่น 

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุตนไม่รู้ว่านายนัฐพงศ์ น้องชายของตนไปอยู่ที่ไหน ก็อยากให้เขามอบตัว เพราะกลัวถูกวิสามัญ สภาพจิตใจทางครอบครัวก็รู้สึกเครียด นอนไม่หลับ กังวลใจเรื่องคดีความ และคงจะไม่ได้ไปร่วมงานศพผู้เสียชีวิต

ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของนายเจนวิทย์ สงพรามณ์ ผู้ถูกกล่าวหา อยู่ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช พบว่าเป็นบ้านชั้นเดียว รอบข้างเป็นสวนปาล์มถูกล็อกปิดตัวเงียบไม่มีคนอยู่ มีแค่สุนัข 1 ตัวนอนอยู่หน้าบ้าน

ทีมข่าวสอบนางแก้ว (นามสมมติ) เพื่อนร่วมงานน.ส.พลอย กล่าวว่า ตนเคยทำงานที่เดียวกัน กับน.ส.พลอย และนายเจนวิทย์ โดนนายเจนวิทย์ เป็นพนักงานดูแลและทำความสะอาด ส่วนน.ส.พลอย ก็เพิ่งเข้ามาทำงาน หลังจากที่นายนัฐพงศ์ติดคุก เพราะทราบว่าน.ส.พลอย เป็นแม่ม่าย มีลูกชาย 2 คน ให้แม่ฝั่งสามีเป็นคนดูแล ตนไม่แน่ใจว่าทั้ง 2 คนมีความสัมพันธ์แบบไหน เพราะทำงานคนละส่วนกัน ตนอยู่หมู่บ้านเดียวกันกับนายเจนวิทย์ ปกติก็เป็นคนนิสัยดี ขยันทำงาน มีลูกกับภรรยาเก่า แต่ให้แม่เป็นคนเลี้ยง ซึ่งหลังจากลาออกมาก็พบเจอกับนายเจนวิทย์บ้าง แต่ไม่เจอน.ส.พลอย ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเขาเลิกกันหรือไม่ หลังเกิดเหตุตนก็ตกใจที่อดีตสามีของน.ส.พลอย ก่อเหตุแทงนายนุกูล ผู้เสียชีวิต และก็ไม่เห็นนายเจนวิทย์ อีกเลย ไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาไปอยู่ที่ไหน

พ.ต.อ.สงบ จันทร์สิงห์ ผกก.สภ.ร่อนพิบูลย์ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า นายนุกูล ผู้เสียชีวิต ได้ขี่รถจักรยานยนต์ สีน้ำเงิน กำลังกลับบ้านจากที่ทำงาน มาตามถนนสายร่อนพิบูลย์ – บ้านเถลิง ซึ่งเป็นถนนระหว่างหมู่บ้าน ท้องที่หมู่ 3 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นได้มี นายนัฐพงศ์ เขียวเสน อายุ 33 ปี ผู้ต้องหา ขับขี่รถจักรยานยนต์สีเทาดำ ไม่ทราบทะเบียน ไล่ติดตามมา ประกบแล้วใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์ของนายนุกูล จนล้มลง ก่อนจอดรถชักมีดพกออกจากเอว กระหน่ำจ้วงแทงนายนุกูลอย่างบ้าระห่ำ นายนัฐพงศ์ ผู้ก่อเหตุได้ตะโกนว่า “กูฝากน้องมึง ๆ” จากนั้นได้ขึ้นรถจักรยานยนต์ขับขี่หลบหนีไป

อย่างไรก็ตาม ศาลอนุมัติออกหมายจับนายนัฐพงศ์ ในข้อหาฆ่าผู้อื่น และพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังเร่งติดตามการจับกุมตัวอยู่ 

ขณะเดียวกันทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านของนายนุกูล พรหมมี อายุ 49 ปี ผู้เสียชีวิต อยู่ในพื้นที่หมู่ 15 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช โดยทางครอบครัวกำลังเตรียมจัดงานศพอยู่ที่บ้าน ยังไม่มีรูปตั้งหน้าศพ และทางญาติผู้เสียชีวิตก็เดินทางมาแสดงความเสียใจ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ

จากนั้นทีมข่าวได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับนายสุเทพ พรหมมี พี่ชายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนไม่มีลางสังหรณ์อะไร เจอกันล่าสุดก็ตอนเช้าของวันเกิดเหตุ เพิ่งนั่งกินข้าวด้วยกัน ซึ่งปกติแล้ว นายนุกูล มีอุปนิสัยที่เป็นคนดี มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือคนอื่น และขยันทำงาน เช้าไปทำงาน ตกเย็นกลับบ้าน ไม่เคยประพฤติไม่ดี และเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีมาก ๆ เพราะเขาทำงานคนเดียว แต่หาเลี้ยงลูกสาว 2 คน คนโตอายุ 23 ปี คนเล็ก 18 ปี ส่วนภรรยาให้เป็นแม่บ้านช่วยเลี้ยงดูลูก และเป็นคนรักเพื่อนมาก ใครขอความช่วยเหลืออะไรก็ไปช่วยเขาหมด ซึ่งไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อน

ส่วนผู้ก่อเหตุ ตนก็ไม่รู้จัก ตนมองว่าทำเกินกว่าเหตุมาก ๆ ซึ่งการแทงทั้ง 3 แผล มันแน่นอนอยู่แล้วว่าเขาเตรียมตัวมาก่อเหตุ ซึ่งน้องชายของตนไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย ส่วนปัญหาของนายเจนวิทย์ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ตนก็ไม่ได้รู้เรื่องปัญหา ตอนนี้สภาพจิตใจของครอบครัว กำลังอยู่ในความเสียใจอย่างมาก เพราะเป็นการจากไปอย่างกะทันหัน โดยเฉพาะภรรยา ซึ่งอยู่ในอาการเสียใจมาก ร้องไห้ทั้งคืนยังไม่ได้พักผ่อน เพิ่งเป็นลมหลับไป ส่วนพี่น้องเองก็ไม่ค่อยอยากพูดถึงการเสียชีวิตของน้องชาย เพราะยังทำใจไม่ได้ ทั้งนี้ ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมตัวคนก่อเหตุให้ได้ และขอให้ลงโทษอย่างสูงสุด เพราะทางครอบครัวไม่มีทางให้อภัย