Logo site Amarintv 34HD
อมรินทร์ทีวีแจกใหญ่ส่งท้ายปี ดูทั้งวันแจกทุกวันLogo Seagame2025Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
กรุงเทพฯ ผงาดอันดับ 1 ของโลก ทุบสถิติเมืองจุดหมายปลายทางแห่งปี 2025

กรุงเทพฯ ผงาดอันดับ 1 ของโลก ทุบสถิติเมืองจุดหมายปลายทางแห่งปี 2025

24 ธ.ค. 68
14:46 น.
แชร์

กรุงเทพฯ" ผงาดอันดับ 1 ของโลก เมืองจุดหมายปลายทางที่มีผู้มาเยือนมากที่สุด จากดัชนี 100 อันดับเมืองจุดหมายปลายทางยอดนิยมของโลก ประจำปี 2025

โดยผลสำรวจจาก Euromonitor International ร่วมกับ Lighthouse ได้ทำการประเมิน 100 เมืองทั่วโลกผ่านตัวชี้วัดมากกว่า 50 รายการ ภายใต้เสาหลัก 6 ด้าน เพื่อคำนวณเป็นคะแนนความน่าดึงดูดโดยรวมของเมือง

ดัชนีนี้ครอบคลุมทั้งด้านกิจกรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ, ประสิทธิภาพด้านการท่องเที่ยว, โครงสร้างพื้นฐาน, นโยบายและความน่าดึงดูดด้านการท่องเที่ยว, สุขภาพและความปลอดภัย และความยั่งยืน นำเสนอภาพรวมที่ครอบคลุมเกี่ยวกับปัจจัยที่ขับเคลื่อนความสำเร็จและความยืดหยุ่นของเมืองใหญ่"

ในปี 2025 เมืองจุดหมายปลายทางต่าง ๆ กำลังปรับโครงสร้างกลยุทธ์การท่องเที่ยวใหม่ โดยให้ความสำคัญกับ "คุณค่า" มากกว่า "ปริมาณ" เนื่องจากตระหนักว่าการเติบโตที่ขาดการจัดการจะสร้างภาระให้กับโครงสร้างพื้นฐาน ระบบนิเวศ และความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัย เมืองต่าง ๆ จึงมุ่งเป้าไปที่กลุ่มนักท่องเที่ยวที่พำนักนานขึ้น มียอดใช้จ่ายสูงขึ้น และมีพฤติกรรมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อรับมือกับความกดดันจากปัญหาการท่องเที่ยวล้นเมือง (Overtourism) ในขณะที่ยังคงสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและมั่นคงกว่าเดิม

ความพร้อมด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI Readiness) ได้กลายเป็นข้อได้เปรียบสำคัญในการแข่งขันระหว่างเมืองทั่วโลก เมืองที่เป็นผู้นำในการนำ AI มาใช้นั้นไม่เพียงแต่สามารถจัดการโครงสร้างพื้นฐานและเครือข่ายการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาบุคลากร นวัตกรรมทางธุรกิจ และยกระดับประสบการณ์ส่วนบุคคลของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

ดัชนี 100 อันดับเมืองจุดหมายปลายทางยอดนิยมของโลก ประจำปี 2025 เผยให้เห็นว่า เมืองท่องเที่ยวชั้นนำทั่วโลกถูกคาดการณ์ว่าจะต้อนรับการเดินทางถึง 702 ล้านครั้งในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 8% โดยเมืองเหล่านี้มีสัดส่วนการท่องเที่ยวขาเข้าคิดเป็น 46% ของโลก และยังคงมีการเติบโตที่รุดหน้ากว่าการเติบโตของโลกโดยรวมซึ่งอยู่ที่ 4%

อันดับ: 10 เมืองที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุด

กรุงเทพฯ ประเทศไทย (การเดินทางระหว่างประเทศ 30.3 ล้านครั้ง)

ฮ่องกง ประเทศจีน (23.2 ล้านคน)

ลอนดอน สหราชอาณาจักร (22.7 ล้านคน)

มาเก๊า ประเทศจีน (20.4 ล้านคน)

อิสตันบูล ประเทศตุรกี (19.7 ล้านคน)

ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (19.5 ล้าน)

เมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย (18.7 ล้านคน)

อันตัลยา ประเทศตุรกี (18.6 ล้านคน)

ปารีส ประเทศฝรั่งเศส (18.3 ล้านคน)

กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย (17.3 ล้านคน)

กรุงเทพฯ ผงาดอันดับ 1 ของโลก

ยังคงรักษาตำแหน่งจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ของโลกด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 30 ล้านคน แม้ว่าจะต้องเผชิญกับปัจจัยลบ (Headwinds) จากค่าเงินในท้องถิ่นที่แข็งค่าขึ้น ความกังวลด้านความปลอดภัย และการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงขึ้นจากประเทศคู่แข่งในภูมิภาค


ฮ่องกง คว้าอันดับที่ 2

ฮ่องกงคว้าอันดับที่ 2 ของเมืองที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดในปี 2025 โดยมีการเติบโตที่ 6% เมืองนี้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวผ่านการเปิดตัวสนามกีฬาไคตั๊ก (Kai Tak Stadium) ซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดงานแข่งขันฟุตบอลระดับโลกที่สำคัญ ประกอบกับการกลับมาเปิดให้บริการของอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ที่ได้รับการขยายพื้นที่ของสนามบินนานาชาติฮ่องกง ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการเชื่อมต่อและตอกย้ำสถานะการเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำของโลก

ในขณะที่ มาเก๊า อยู่ในอันดับที่ 4 โดดเด่นในฐานะเมืองที่มีความตื่นตัวและมีพลวัตสูงสุด โดยจำนวนการเดินทางขาเข้าเพิ่มขึ้นถึง 14% ในปี 2025 ขณะที่การท่องเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ (Same-day visits) มีอัตราการเติบโตที่รวดเร็วยิ่งกว่า ทั้งนี้เกือบ 90% ของผู้มาเยือนมาจากจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง นอกจากนี้ความคิดริเริ่มด้านการท่องเที่ยวเชิงนวัตกรรม เช่น โปรแกรมการเดินทางแบบเข้า-ออกได้หลายครั้ง "หนึ่งทริปต่อสัปดาห์" สำหรับชาวเมืองจูไห่ และนโยบาย "เข้า-ออกได้หลายครั้ง" สำหรับผู้มาเยือนจากเกาะเหิงฉิน ได้ช่วยเสริมแกร่งตำแหน่งของมาเก๊าในฐานะจุดหมายปลายทางชั้นนำของภูมิภาค

อ้างอิง : euromonitor

Advertisement

แชร์
กรุงเทพฯ ผงาดอันดับ 1 ของโลก ทุบสถิติเมืองจุดหมายปลายทางแห่งปี 2025