
แพทย์จีนไม่ใช่เรื่องอภินิหาร? แต่คือการอ่านสัญญาณร่างกายที่ถูกบันทึกและทดสอบมากว่า 2,000 ปี เปิดมุมมองแพทย์จีนตามหลักวิทยาศาสตร์ กับ “หมอยู ธีรวัฒน์” แพทย์แผนจีนรุ่นใหม่ อธิบายทุกข้อสงสัย ทั้งเรื่องการฝังเข็ม แมะชีพจร ยาจีน สมุนไพรจีน ที่หลายคนเข้าใจผิด ผ่านรายการ On The Way With CHOM
ศาสตร์แพทย์แผนจีนแตกต่างจากแผนปัจจุบันอย่างไร
แพทย์แผนปัจจุบันจะเน้นเรื่องยกตัวอย่าง เช่น ปวดศีรษะก็กินยาแก้ปวดศีรษะ แต่แพทย์แผนจีนจะมองเป็นองค์รวม อย่างปวดศีรษะอาจจะแยกถึง 9 แบบเลยว่าต้นเหตุเกิดจากอะไร เพราะฉะนั้นกว่าจะรักษาเรื่องปวดศีรษะ ต้องหาสาเหตุก่อน ศาสตร์จีนจะดูถึงเรื่องความสมดุลของร่างกายเป็นหลัก หยินหยาง พื้นฐานทุกคนเริ่มต้นเรียนแพทย์แผนจีนก็เริ่มต้นหยินหยางก่อน
แมะชีพจร
ชีพจรสามารถบอกอะไรเราได้มากขนาดนั้นเลยเหรอ เช่น คนนี้เพิ่งเสียเลือดมา เพิ่งไปผ่าตัดมาหรือไปแท้งมา รู้ได้ยังไง ?
เป็นหลักการทางวิทยาศาสตร์อย่างหนึ่ง ซึ่งถูกจดบันทึกมาตั้งแต่สมัยหลายพันปีก่อน ยกตัวอย่าง เช่น คนนี้อุบัติเหตุเสียเลือดมา เรามองภาพหลอดเลือดของคนเรา ก็เปรียบเสมือนเป็นลูกโป่ง ถ้าลูกโป่งมีเลือดเต็ม ๆ จับแล้วจะรู้สึกว่ามันแน่น แต่ถ้าไปเจาะปล่อยน้ำในลูกโป่งออก มันก็เหี่ยวลง ลักษณะของหลอดเลือดคนเรา ไม่ใช่เป็นหลอดเลือดที่เป็นเหมือนหลอดพลาสติก ที่มีขนาดมาตรฐานตลอดเวลา มันมีการยืดหดตัว เพื่อปรับสภาพให้เข้ากับร่างกาย เพราะฉะนั้นหากคุณเสียเลือดมา ร่างกายจะปรับหลอดเลือดไม่ทัน จับปุ๊บความแน่นมันหายไปแล้ว
การฝังเข็ม
การฝังเข็ม ไม่มีใครรู้ว่าเริ่มต้นมาจากไหน แต่ตัวเข็มถูกค้นพบในสุสานจีนเมื่อ 2-3,000 ปีก่อน เริ่มจากเป็นเข็มหินสมัยก่อนเป็นแล้วก็ค่อยพัฒนาเป็นกระดูกสัตว์เรื่อย ๆ
การฝังเข็มมีหลายกระบวนการมาก Mechanism เพิ่งถูกค้นพบในแผนปัจจุบันไม่นานนี้ แต่มีประวัติศาสตร์มาหลายพันปีแล้ว ยกตัวอย่างเช่น เป็นสิว เวลาฝังเข็มไปมันเป็นสิ่งแปลกปลอมของร่างกาย มันเป็นสเตนเลส พอเข็มเข้าไปในร่างกายแล้วสิ่งที่จะวิ่งมาอันดับแรกก็เป็นพวกเลือด, Antigen (แอนติเจน), Antibody (แอนตีบอดี) จะวิ่งมาบริเวณนั้นเยอะมาก มันมีสิ่งแปลกปลอมขึ้นมาในร่างกาย ถ้าเอากล้องเทอร์โมสโคปที่วัดอุณหภูมิมาวัดจะเห็นเลยว่าจากตอนแรกมันเป็นสีฟ้าไม่ได้มีอุณหภูมิร้อนอะไร พอฝังเข็มเข้าไปสักระยะหนึ่งบริเวณนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีแดง สิ่งที่มันจะวิ่งมามันทำอะไรกับสเตนเลสไม่ได้ มันก็กำจัดเชื้อโรคบริเวณรอบ ๆ บริเวณนั้นออก เรียกพวกมาเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองอย่างหนึ่ง มันยังมีอีกหลายกระบวนการที่ถูกพิสูจน์
ฮอร์โมนก็เหมือนกัน เขามีการวัดว่าระดับฮอร์โมนพุ่งสูงขึ้นขณะที่ฝังเข็มอยู่ เพราะฉะนั้นพอมีข้อมูลพวกนี้ ก็จะถูกจดบันทึกแล้วก็ถูกพิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์ หลังๆ มีการบรรจุอยู่ใน WHO (World Health Oranization) โรค top 10 ที่รักษาได้ดีโดยการฝังเข็ม ก็เป็นพวกโรคปวด ปวดประจำเดือน ปวดศีรษะไมเกรน รวมถึงเรื่องมีบุตรยากเพราะมีบุตรยากก็เป็นเรื่องฮอร์โมน เพราะฉะนั้นเรื่องปวดประจำเดือนมันอยู่ในในโซนเดียวกัน มันมีประมาณ 10 โรคที่เขาลิสต์ไว้ top 10 พวกนี้จะช่วยใช้การฝังเข็มได้ค่อนข้างดี
สมุนไพรจีนปลอดภัยแค่ไหน ต่างจากสมุนไพรไทยอย่างไร
สมุนไพรเกิดจากธรรมชาติ ถ้าหากบอกมีสเตียรอยด์ ต้องเป็นในปริมาณที่เยอะมาก ๆ อย่างเช่น ข้าวที่คุณกินก็อาจจะมีสเตียรอยด์ตามธรรมชาติอยู่ แต่คุณจะให้ได้ปริมาณสเตียรอยด์ที่มีผลกับร่างกาย คุณอาจจะต้องกินข้าว 100 กก. มันเป็นไปไม่ได้ สเตียรอยด์ที่เขาตรวจพบมันเป็นสารสกัดออกมาแล้ว คือเป็นสเตียรอยด์ที่ใช้ในทางการแพทย์ เวลาพาดหัวข่าว เขาเขียนว่าตรวจพบยาจีนมีสารอันตราย 5 ชนิด คนก็กลัวแล้ว พอคุณไปอ่านเนื้อข่าว ยาตรวจพบไดโคลฟีแนค ไอบูโพรเฟน ยาแก้แพ้ สเตียรอยด์ ยารักษาโรคสมรรถภาพทางเพศ มันครอบจักรวาลเลย แล้วเขาใส่ในปริมาณที่มันไม่ได้เหมาะสม พูดง่าย ๆ เลยว่า เขาเอายาสารพัดโรค ก็คือยาแผนปัจจุบันทั้งหมด มารวมกันอยู่ในเม็ดเดียว แล้วเขาไปตั้งชื่อว่ายาจีน แล้วเขาไปหลอกขายคนเฒ่าคนแก่ เป็นยาชุดอะไรอย่างนี้
ยาจีนที่เป็นแคปซูล เป็นสมุนไพรธรรมชาติ แค่ผ่านกระบวนการอบแห้ง แล้วก็ผ่านความร้อน แล้วก็ทำให้มันเป็นผงจึงมีความสะดวกในการกินกับการเก็บรักษามากกว่า ยาลูกกลอนมันเป็นยาที่ดีมาก ๆ เพราะว่ามันถูกผสานด้วยน้ำผึ้ง แล้วน้ำผึ้งมันเป็นอาหารชนิดเดียวบนโลกที่ไม่ ไม่มีวันหมดอายุ เพราะฉะนั้นถ้าคุณทำลูกกลอนได้อย่างมีคุณภาพ แล้วความชื้นไม่ได้สูง มันแทบจะไม่มีวันหมดอายุเลย
แผนปัจจุบันและแพทย์จีนเป็นทางเลือก สามารถรักษาควบคู่กันไปไหม
สิ่งที่จะเป็นประโยชน์กับคนไข้มากที่สุดคือ 2 แบบต้องมาผสมผสานกัน โรคนี้ใช้ยาปัจจุบันดี โรคนี้ใช้ยาจีนดี มันแบ่งเบาภาระได้ด้วย ผลประโยชน์ที่ดีที่สุดมันจะตกอยู่กับคนไข้ มันไม่ได้ขัดกัน ถ้าเรียนรู้ซึ่งกันและกัน แต่สิ่งที่อาจจะขัดกันอาจจะมีบางตัวแต่น้อยมากๆ อย่างเช่น คนที่กินยาละลายลิ่มเลือดแบบชนิดรุนแรงมา อย่าง Warfarin (วาร์ฟาริน) ยกตัวอย่าง เราอาจจะใช้ยาบางตัวไม่ได้ แต่มันอยู่ในเคสที่ยากมากที่เขาจะใช้ยาตัวนี้
วิธีดูแลตัวเองหรือว่าสังเกตสมดุลของร่างกายตามแบบหลักของศาสตร์จีน
แบบที่สังเกตเห็นง่าย ๆ เช่น วันนี้คุณมีอาการคอแห้งหิวน้ำ แล้วคุณก็ดื่มน้ำเยอะ แล้วก็ไม่หายหิวน้ำสักที อันนั้นร่างกายอาจจะเริ่มร้อนเกินไป หรือหยินพร่อง คุณอาจจะต้องพักผ่อนเพิ่ม นอนให้เพียงพอ หรืองดของทอด ของมัน ทุเรียน อะไรที่มีฤทธิ์ร้อนต่าง ๆ หรือวันนี้ตื่นมารู้สึกหงุดหงิดเป็นพิเศษ อารมณ์ไม่ค่อยดี คุณอาจจะนอนไม่พอหรือเปล่า การฝันบ่อยก็ถือว่าร่างกายเสียสมดุลแล้ว
Advertisement