Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เปิดโลกศาสตร์แพทย์จีน แค่มองหน้า ดูลิ้น จับชีพจร บอกโรคได้หมด?

เปิดโลกศาสตร์แพทย์จีน แค่มองหน้า ดูลิ้น จับชีพจร บอกโรคได้หมด?

6 ก.ย. 68
08:00 น.
แชร์

เปิดโลกศาสตร์แพทย์จีนผ่านรายการ Tucktalk กับ "หมอกานต์ ณัฐกานต์" แพทย์จีนผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับสมดุลร่างกายและจิตใจ แค่มองหน้า ดูลิ้น จับชีพจร บอกโรคได้หมด? อยากลดความเครียด นอนหลับง่าย ทำได้แค่ใช้ปลายนิ้ว? มาทำความเข้าใจพลังภายในร่างกาย และวิธีดูแลสุขภาพแบบแพทย์จีนที่สืบทอดมากว่าหลายพันปี

แพทย์แผนจีนกับแพทย์แผนปัจจุบันต่างกันอย่างไร

แพทย์แผนจีนแต่โบราณมาจะดูคนไข้เป็นองค์รวม จะไม่ได้มองว่าโรคของทางศาสตร์แพทย์แผนปัจจุบันเขาให้อะไรมา แต่ว่าจะตรวจคนไข้ใหม่หมดเลย ดูสีหน้า จับชีพจร ดูลิ้น แล้วก็ดูองค์รวม บางครั้งคนไข้อาจจะได้รับคำวินิจฉัยว่า พลังชีพของตับติดขัด ทั้งๆ ที่คนไข้อาจจะเป็นโรคไต เป็นต้น ยกตัวอย่าง เวลาศัพท์ของทางศาสตร์แพทย์แผนจีน พอเรามีความรู้ก็จะเข้าใจว่ามันไม่ได้เท่ากัน กับแผนปัจจุบันเสียทีเดียว เวลาเราตรวจรักษาก็จะใช้ทางศาสตร์แพทย์แผนจีนในการวิเคราะห์แล้วก็จ่ายยาแล้วจะไม่ได้อ้างอิงของทางศาสตร์แพทย์แผนปัจจุบันทั้งหมด

พฤติกรรมการรักษาแตกต่างกัน เช่น สมมุติว่าปวดท้อง แพทย์แผนปัจจุบันก็เจาะไปเลย จะเป็นกระเพาะหรือจะเป็นอะไร แต่ถ้าแพทย์แผนจีนก็จะต้องไล่ดูทั้งหมด ถ้าเกิดว่าปวดท้องมาก็จะดูว่ากินอะไรมา ถามซักประวัติเบื้องต้นทั่วไป แต่บางครั้งคนไข้ไม่ได้มาจากอาหารเลย ก็คือกินปกติเหมือนเดิมทุกครั้ง แต่ถ้าถามลึกลงไปคนไข้อาจจะนอนดึก นอนไม่หลับช่วงนี้มีความเครียด คือจะมองว่า พลังชี่ของตับที่ติดขัดจะไปกระทบพลังของม้าม กระเพาะโดยตรง จนทำให้บางครั้งกรดไหลย้อน หลายคนอาจจะกินยาลดกรด แต่ว่าไม่หายซะที เพราะว่าบางครั้งมันไม่ได้เกิดขึ้นจากทางเดินอาหารตัวของเขามีปัญหา แต่ว่าในทางศาสตร์จีนจะมองถึงพลังงานของตับที่คอยช่วยในการไหลเวียนของม้าม กระเพาะ พลังงานของตับเขาติดขัดปุ๊บ ม้าม กระเพาะมันก็เลยติดขัดตาม เพราะฉะนั้นหลายๆ คนที่แบบพอเครียดแล้วจะเจ็บกระเพาะ เครียดแล้วตีขึ้น ก็จะไปรักษาที่พลังงานของตับ พอรักษาได้อย่างตรงจุดคนไข้หลายๆ คนก็จะรู้สึกผ่อนคลายขึ้น

การรักษาของแพทย์แผนจีนจริงๆ ภาษาจีนจะเรียกว่า ปิ้งหยิน กับ ปิ้งจี ก็คือกลไกการเกิดโรคกับสาเหตุการเกิดโรค จะไม่ได้ดูว่าอวัยวะนี้มีปัญหา แต่ก่อนที่อวัยวะมีปัญหาคนไข้อาจจะมีระบบอื่นที่มีปัญหาก่อนมากระทบ แล้วคนไข้ไปตรวจเจอโรคนี้ ก็จะดูถึงสาเหตุแล้วก็กลไกการเกิดโรคของเขา ถึงไปรักษากลไกตรงนี้ พอกลไกการเกิดโรคหายไปมันก็ไม่มีโรคตามมาคนไข้ก็เลยดีขึ้น

ศาสตร์การแพทย์จีนให้ความสำคัญกับพลังชี่ ต้องสมดุล ต้องไม่ติดขัด พลังชี่คืออะไร ?

คือการหายใจ ปอดเป็นตัวควบคุมกำหนดลมหายใจ แล้วก็ดูแลการไหลเวียนของพลังชี่เพราะตอนที่ทุกคนกำลังมีความเจ็บปวดอยู่ไม่ว่าอะไรก็ตามของร่างกายกำลังบาดเจ็บ ออกกำลังกายมาแล้วเจ็บ แล้วถ้าเราจับไม่ทัน แล้วก็ไปกระวนกระวายกับอาการเจ็บนั้นจะยิ่งเป็นหนักมาก ยกตัวอย่างเช่นคนไข้ที่ได้รับการบาดเจ็บ จะได้ข่าวว่าทนพิษบาดแผลไม่ไหว เพราะว่าเขาช็อกก่อน ทีนี้ถ้าเกิดว่าเราดูแลพลังชี่ได้ดีก็คือกำหนดลมหายใจจะทำให้หัวใจไม่ดีดคือจะไม่ช็อกง่าย จะควบคุมความเจ็บปวดนั้นได้เหมือนพระท่านเขาบอกว่าเราจะเห็นความเจ็บปวด อันนี้ก็คือทางศาสตร์แพทย์แผนจีนก็มองแบบนั้น ถ้าเกิดว่ารู้ลมหายใจ หายใจได้ดี จะสามารถทนความเจ็บปวดนั้นได้โดยที่ไม่ทรมาน แล้วความเจ็บปวดนั้นไม่เอาชีวิตเราไปได้

การออกกำลังกาย การหายใจสมาธิ หรือแม้กระทั่งการนอน ช่วงเวลาที่คนเราจะมีลมหายใจที่สม่ำเสมอ จะมีออกกำลังกายจะหายใจลึกขึ้น ทำสมาธิแล้วก็การนอนหลับสนิท ถ้าไม่ออกกำลังกาย ไม่เคยทำสมาธิ แถมยังอดหลับอดนอน ไปสังเกตลมหายใจของคนกลุ่มนี้ได้ เขาจะไม่รู้ตัวว่าหายใจอยู่หรือเปล่า หรือหยุดหายใจ หรือหายใจสั้นเขาจะแทบไม่รู้ตัว ปัญหาของโรคของคนกลุ่มนี้ กรดไหลย้อน ซึมเศร้า แพนิค อารมณ์แปรปรวน วิตกกังวล ก็จะสะท้อนต่ออารมณ์ออกมาได้

พลังชี่ที่อยู่ในหลอดเลือดของเรา ตัวที่เป็นชี่จะคอยดันเลือดเหมือนหัวใจที่ปั๊มมันมีแรงก็จะเป็นตัวดัน เลือดจะเปรียบเป็นพลังหยิน ชี่จะเปรียบเป็นพลังหยาง คือกำลังแรงการขับเคลื่อน หยินจะเป็นแบบสารน้ำความสงบนิ่ง เพราะฉะนั้นในเลือดของเรามันมีทั้งหยินและหยางคอยแบบคอยไหลเวียนแล้วก็มีสารน้ำไหลเวียนไป ทีนี้ถ้าเกิดว่าชี่ชะงักก็คือติดขัดไม่ไหลเวียน เลือดก็จะกลายเป็นก้อน อาจจะไม่ได้เป็นก้อนทางร่างกายขนาดนั้น อย่างเรานั่งนานๆ บางคนจะปวดคอ บ่า ไหล่ เพราะเลือดบริเวณนี้ติดขัด หลายคนไปกัวซาหรือไปครอบแก้ว เคยเห็นนักกีฬาที่ไปครอบแก้วแล้วจะเป็นม่วงๆ อันนี้ก็คือจะมีเลือดติดขัดบริเวณนี้ ก็เลยเห็นเป็นสีม่วงๆ ขึ้นมา มีชี่ติดขัดก่อนเริ่มต้นเลือดถึงจะติดขัดส่วนใหญ่ อย่างออกกำลังกายไม่ดีหนักเกินไป อยู่เฉยๆ นานๆ ก็จะทำให้เลือดลมไหลเวียนไม่ดี

"แมะ" จับชีพจรวิเคราะห์โรค-การกดจุดบรรเทาอาการ

การจับชีพจรจะมีหลายตำแหน่ง แต่ว่าตำแหน่งที่นิยมก็คือตำแหน่งข้อมือ มันจะมี 3 จุดที่เราจะต้องสังเกต กระดูกที่นูนขึ้นมาตรงนี้จะเป็นนิ้วกลางจับ แล้วก็วางข้างกันคือจุดแรกข้างซ้ายก็จะเป็น หัวใจ ตับ แล้วก็ไต ในการสังเกตเต้นดีอยู่ ถ้าเราอยากจับเป็นประจำ ได้ ทำไมมันช้าเกินไป หรือว่าจับแล้วอยู่ๆ หายไปไม่ขึ้นมาก็อาจจะพูดถึงแรงเรามันไม่ถึงในช่วงนั้น หรืออาจจะมีปัญหาอะไรอยู่ เราจะจับอยู่ 3 ระดับ

สำหรับคนเป็นกรดไหลย้อน คนที่เป็นกรดไหลย้อน รู้สึกจุกเสียด แน่น แสบร้อนทรวงอก หมอชอบให้กดจุดเพราะว่าเป็นการแก้ปัญหาและดูแลตัวเองเบื้องต้น แต่ในการรักษาโรคจะใช้การฝังเข็ม มันจะลงลึกกว่า การกดจุดช่วยให้คนไข้สามารถบรรเทาไปได้เบื้องต้นเหมือนเราอาจจะไม่ต้องไปกินยา เอาบรรเทาก่อน วิธีการคือเอา 3 นิ้วของเราทาบที่ตรงข้อมือ แล้วก็ปลายนิ้วอยู่ระหว่างเส้นเอ็น กดคลึง ใครที่แสบร้อนทรวงอกก็ให้กดจุดนี้ได้ กดจนกว่าจะเบาขึ้นแต่ละคนไม่เท่ากันไม่เหมือนกัน

สำหรับคนนอนไม่หลับ จุดแรกที่หมอแนะนำว่าให้คนอื่นช่วยกดให้จะเห็นผลดีสุด เพราะกดเองอาจจะกดไปตื่นไป จุดแรกคือ จุดยินถาง จุดนี้จะเป็นจุดที่ช่วยลดความเครียดกว่าสมองแบบมันคิดไม่หยุดซะที เรากดคลึงนวดไปจนถึง จุดเสินถิง จะอยู่ระหว่างเส้นผมกับหน้าผาก เสินคือตัวจิต ถ้าเกิดว่าจิตของเรามันไม่กลับบ้าน ถิงมันเหมือนเป็นที่อยู่ ทีนี้ถ้าเกิดว่าตัวจิตของเรามันฟุ้งตลอดเราก็มากดตรงนี้ แล้วก็คือนวดขึ้นไปแค่ทำแค่นี้เราก็จะผ่อนคลาย แล้วก็อีกจุดหนึ่งจะเป็น จุดอันเหมิน อันนี้จะไม่ได้อยู่บนเส้นลมปราณหลัก จะเป็นจุดพิเศษ อยู่ระหว่างปุ่มกะโหลกตรงนี้ ปุ่มตรงหลังหูวนจุดนั้น นวดคลึงเราจะสบายมาก อันนี้ช่วยนอนหลับมันจะทำให้แบบเราสงบง่าย จุดนี้ตำราจะบอกว่าจะทำให้นอนหลับได้ยาวขึ้นไม่ตื่นกลางดึกค่ะ ถ้าจิตเราไม่พร้อมที่จะเปิดรับ มันก็จะ ไม่รับ หัวใจเป็นตัวนำกาย ใจเป็นตัวกำหนด ทีนี้ถ้าเกิดว่าหัวเราเปิดหัวใจ การรักษาจะง่ายขึ้น

สำหรับคนนอนกรน การนอนกรนเป็นปัญหามาก จะเรียกว่า จุดเทียนถู กดเข้าไปข้างหลังตรงนี้จะเป็นหลอดลม พอกดไปจุดนี้จะไม่ได้อันตรายมากคือกดแล้วจะกระตุ้นหลอดลมให้มันไม่ติดขัด ถ้าเกิดว่าอยากบรรเทาอาการนอนกรนของตัวเองให้ดูแลตั้งแต่การกิน เพราะว่าถ้ากินไม่ดีมันจะเกิดเสมหะแล้วทำให้หลอดลมหลอดเลือดของเราไหลเวียนไม่สะดวก แล้วก็สามารถตบเส้นลมปราณปอด กระตุ้นเส้นลมปราณปอดให้เขามีกำลัง ทำในตอนกลางวันทุกๆ วันก็จะพลังงานของปอดเพียงพอ ปอดดูแลลมหายใจ ดูแลหลอดลม ก็คือบางจุดมันเป็นจุดระงับ มันไม่ใช่จุดรักษาเหมือนเรากินยาแก้แพ้ ถามว่าหายไหม ไม่ได้หายมันแค่ระงับ ส่วนในการรักษามันก็เลยต้องต่อเนื่องยาวนาน

คำแนะนำการใช้ศาสตร์แพทย์แผนจีนในเรื่องการดูแลสุขภาพ

ถ้าเป็นศาสตร์แพทย์แผนจีนในการดูแลสุขภาพปกติไม่ว่าจะเราป่วยแล้ว หรือยังไม่ป่วยดูแลจริงๆ ดูแลเหมือนกันหมด คือ ใช้ชีวิตตามธรรมชาติ ตำราจีนโบราณมันจะมีตำราหนึ่งที่ฮ่องเต้คุยกับหมอหลวง ฮ่องเต้ถามว่าทำยังไงให้เราแบบใช้ชีวิตแบบอย่างเป็นปกติ ได้อายุนานๆ อายุยืนเป็น 100 ปี หมอหลวงก็บอกให้ใช้ชีวิตตามหยินหยาง ก็คือใช้ชีวิตตามเวลาธรรมชาติ ตื่นเช้า กินข้าว พักผ่อน คือมีจังหวะชีวิตที่ดีมันก็ทำให้พลังงานของเรายืนยาว ถึงเวลาพระอาทิตย์ตกก็เข้าบ้าน ทำตามนาฬิกาชีวิต

Advertisement

แชร์
เปิดโลกศาสตร์แพทย์จีน แค่มองหน้า ดูลิ้น จับชีพจร บอกโรคได้หมด?