ใครจะไปคิดว่าแค่ "จับมือ" ก็ทำให้เสี่ยงติด 7 โรคนี้แบบไม่รู้ตัว !! เข้าใจเลยว่าทำไมการล้างมืออย่างถูกวิธีจึงจำเป็นและสำคัญ
การจับมือกันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่แสดงถึงความเคารพและมิตรภาพในหลายวัฒนธรรม แต่รู้หรือไม่ว่า การจับมือเพียงครั้งเดียวอาจกลายเป็น “ช่องทางลัด” ในการแพร่กระจายเชื้อโรคที่เรามองไม่เห็น แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เชื้อโรคสามารถแฝงมากับมือและส่งผ่านจากคนสู่คนได้ง่ายกว่าที่คิด
นี่คือ 7 โรคที่อาจติดต่อผ่านการจับมือ พร้อมอธิบายเหตุผลว่า ทำไมการล้างมือทันทีหลังการสัมผัสจึงเป็นสิ่งจำเป็นต่อสุขภาพของคุณและคนรอบข้าง
เชื้อไวรัสหวัดสามารถอยู่บนมือได้หลังจากผู้ป่วยไอหรือจาม หากมีการจับมือกัน เชื้ออาจถูกถ่ายทอดโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะเมื่อผู้รับเชื้อเผลอเอามือไปสัมผัสปากหรือจมูก อาการทั่วไปได้แก่ ไข้ต่ำ น้ำมูกไหล และความอ่อนเพลีย แม้ไม่รุนแรง แต่ก็ทำให้เสียสมาธิและประสิทธิภาพในการทำงานลดลงได้
ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่มีความรุนแรงมากกว่าหวัดทั่วไป และติดต่อกันได้ง่ายผ่านการสัมผัส เช่น การจับมือ ไวรัสสามารถอยู่บนผิวหนังได้นานหลายชั่วโมง ทำให้การล้างมือหลังสัมผัสมีความสำคัญ อาการที่พบบ่อยคือ ไข้สูง หนาวสั่น ปวดเมื่อยตามร่างกาย และไอรุนแรง ซึ่งอาจทำให้ต้องหยุดงานหรือพักฟื้นนานหลายวัน
ตาแดงอาจเริ่มจากการขยี้ตาของผู้ป่วยแล้วไปจับมือผู้อื่น หากผู้ที่รับเชื้อเอามือไปขยี้ตาต่อ เชื้อไวรัสก็เข้าสู่ร่างกายได้ทันที โรคนี้แพร่กระจายได้ง่ายโดยเฉพาะในสถานศึกษาและที่ทำงาน การล้างมือจึงเป็นเกราะป้องกันสำคัญ
แม้จะเป็นโรคที่พบในเด็กเป็นส่วนใหญ่ แต่เชื้อที่ก่อโรคมือ เท้า ปาก สามารถติดจากคนสู่คนผ่านทางมือได้ง่าย บางคนอาจไม่มีอาการแต่ก็สามารถแพร่เชื้อได้ การสัมผัสมือจึงอาจเป็นจุดเริ่มของการระบาด โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงอย่างเด็กเล็กและผู้ดูแล
เชื้ออย่าง E. coli หรือ Salmonella มักอยู่ตามพื้นผิวสกปรกหรือในอาหารปนเปื้อน การจับมือกับผู้ที่ไม่ล้างมือหลังเข้าห้องน้ำหรือสัมผัสสิ่งปนเปื้อน อาจนำเชื้อเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย โดยเฉพาะหากลืมล้างมือก่อนหยิบอาหารเข้าปาก อาการที่พบได้คือ ท้องเสีย ปวดท้อง คลื่นไส้ และเสี่ยงต่อการขาดน้ำ
ไวรัสเริม (Herpes simplex) สามารถแพร่ผ่านการสัมผัสได้ แม้ไม่มีแผลหรือตุ่มพุพองปรากฏบนผิวหนัง การจับมือแล้วเผลอเอามือไปแตะบริเวณใบหน้า หรือริมฝีปาก อาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือกระตุ้นให้เชื้อเดิมกลับมาอีกครั้ง การล้างมือจึงเป็นวิธีป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสชนิดนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผิวหนังที่มีบาดแผลเล็ก ๆ อาจกลายเป็นช่องทางให้เชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราเข้าสู่ร่างกายได้ เช่น เชื้อสแตฟฟิโลคอกคัส (Staphylococcus) ที่สามารถติดต่อผ่านการสัมผัสมือ หากไม่รักษา อาจทำให้เกิดอาการบวม แดง ปวด หรือเป็นหนอง ซึ่งอาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษา
การล้างมืออย่างถูกวิธี คือการป้องกันที่ง่ายและได้ผลที่สุด แค่ล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดนานอย่างน้อย 20 วินาที หรือใช้เจลแอลกอฮอล์เมื่อไม่มีน้ำ ก็สามารถลดจำนวนเชื้อโรคบนมือได้อย่างมีนัยสำคัญ การล้างมือหลังการจับมือ หรือหลังสัมผัสพื้นผิวต่าง ๆ โดยเฉพาะก่อนกินอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ จะช่วยป้องกันโรคได้ทั้งต่อตัวเองและคนรอบข้าง
ในยุคที่โรคติดเชื้อสามารถแพร่กระจายได้ง่ายจากการสัมผัสเพียงเล็กน้อย การล้างมือจึงไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว แต่เป็น “เกราะป้องกันส่วนรวม” การมีวินัยในการรักษาความสะอาดของมือตัวเองเป็นสิ่งที่ควรปลูกฝังให้กลายเป็นนิสัยประจำวัน เพราะแค่ล้างมือให้สะอาด ก็อาจช่วยหยุดการแพร่ของโรคได้ตั้งแต่ต้นทาง
อ้างอิง : timesofindia
Advertisement