หมอหมู เผยเคสเตือนภัยสุขภาพ ชายวัย 68 ปี มีโรคประจำตัว ท้องผูกเบ่งถ่ายแรงเกินไป ความดันในร่างกายพุ่งสูง หลอดเลือดสมองแตก กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง
วันที่ 22 กันยายน 2568 หมอหมู รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช เผยรายละเอียดผ่านเฟซบุ๊ก หมอหมู วีระศักดิ์ โดยระบุว่า
คืนหนึ่ง ญาติพาคุณลุงวัย 68 ปี มาที่ห้องฉุกเฉินด้วยอาการหมดสติ พบว่าลุงนอนฟุบอยู่ในห้องน้ำตั้งแต่เช้ามืด กว่าคนในบ้านจะเจอ ก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว
คุณลุงมีโรคประจำตัวคือ ความดันโลหิตสูงและเบาหวาน แต่ไม่ได้ควบคุมโรคดีนัก ก่อนเกิดเหตุ ญาติเล่าว่าลุง มีปัญหาท้องผูกหลายวัน พอไปเข้าห้องน้ำก็มักต้องเบ่งแรงมาก
ทีมแพทย์ตรวจ CT สมอง พบว่าเกิด เส้นเลือดสมองแตก (Hemorrhagic stroke) สาเหตุสำคัญคือการ เบ่งถ่ายแรงเกินไป ทำให้ความดันในร่างกายพุ่งสูง หลอดเลือดสมองที่เปราะบางแตกทันที
แม้จะได้รับการรักษาเต็มที่ แต่ลุงก็ไม่สามารถกลับมาเดินได้เหมือนเดิม ต้องนอนติดเตียง ญาติทุกคนเสียใจ เพราะคิดว่าเป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ แค่ท้องผูก
1. เมื่อเราเบ่งอุจจาระ จะทำให้เกิดแรงดันในช่องท้องและช่องอกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้นชั่วขณะ
2. หลังจากนั้น เมื่อการเบ่งสิ้นสุดลง ความดันโลหิตจะลดลงอย่างฉับพลัน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้รู้สึกวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือเป็นลมได้
1. อาการวิงเวียนนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย แต่เป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายกำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงของความดันโลหิตอย่างรุนแรง
2. สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น โรคความดันโลหิตสูง หรือโรคหัวใจและหลอดเลือด การเปลี่ยนแปลงนี้อาจกระตุ้นให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หรือเส้นเลือดสมองแตก (stroke) ได้
1. ไม่เบ่งแรงเกินไป: พยายามปล่อยให้ร่างกายขับถ่ายตามธรรมชาติ
2. ให้เวลาตัวเอง: หากมีอาการท้องผูก ควรหาทางแก้ไขด้วยการทานอาหารที่มีกากใยสูง ดื่มน้ำให้เพียงพอ และออกกำลังกาย
3. ไม่รีบร้อน: หลังจากขับถ่ายเสร็จ ควรลุกขึ้นอย่างช้าๆ เพื่อให้ร่างกายปรับความดันโลหิต
4. ปรึกษาแพทย์: หากมีอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือเจ็บหน้าอกขณะเข้าห้องน้ำ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพหัวใจอย่างละเอียด
1. ท้องผูกไม่ใช่เรื่องเล็ก โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคประจำตัว
2. การเบ่งแรง ทำให้ความดันขึ้นสูง หัวใจและสมองรับภาระเสี่ยงมาก
3. หลายเคสทั่วโลกพบว่า “การเบ่งอุจจาระ” กระตุ้นให้เกิดเส้นเลือดสมองแตกและหัวใจวาย
อ้างอิงข้อมูลจาก:
1. Mittal, S. R. (2018). Valsalva maneuver, transient cerebral ischemia and cardiac arrhythmia. Indian Heart Journal, 70(6), 882-883.
2. Zheng, B., et al. (2018). The effect of defecation on blood pressure and heart rate in healthy people. Journal of Clinical Hypertension, 20(6), 1104-1109.
Advertisement