มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี คว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี 2568 ด้วยการคว้า 2 รางวัลอันทรงเกียรติจากสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) ในพิธีประกาศรางวัลรถยนต์และรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดตัว Mitsubishi Pajero Sport GT รุ่นเริ่มต้นในราคา 1,139,000 บาท

All-New Xforce HEV รับดอกเบี้ยพิเศษ 0% ไม่ต้องรอถึง Motor Expo 2025

มิตซูบิชิ Xperience Day พาเรียนรู้เทคนิค
และเคล็ดลับรถ Xforce HEV

รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568

รางวัลแรกคือ รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568 (Thailand Car of The Year 2025) สำหรับรถยนต์ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ซึ่งเป็นรถยนต์คอมแพกต์เอสยูวีฟูลไฮบริดรุ่นล่าสุดที่เปิดตัวเมื่อต้นปี 2568 โดยได้รับคัดเลือกจากรถยนต์ที่เปิดตัวใหม่ทั้งหมด 20 รุ่น จาก 15 แบรนด์ โดยพิจารณาจาก 8 หัวข้อหลัก รวมถึงเครื่องยนต์, ช่วงล่าง, ระบบความปลอดภัย, ดีไซน์ และการส่งเสริมการผลิตในประเทศ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี โดดเด่นด้วยแนวคิด MITSUBISHI e:MOTION ที่ผสาน 3 สุดยอดเทคโนโลยี ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดเจเนอเรชันใหม่, โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ (7 DRIVE MODE) และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง Active Yaw Control (AYC)

รางวัลที่สองคือ รางวัลผู้บุกเบิกและวางรากฐานด้านการส่งออกยานยนต์ไทย (Pioneer of Thai Auto Export) ซึ่งเชิดชูเกียรติ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในฐานะบริษัทรถยนต์รายแรกของไทยที่เริ่มส่งออกรถยนต์ที่ผลิตในประเทศ โดยรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นแรกที่ส่งออกคือ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ แชมป์ ในปี พ.ศ. 2531 ปัจจุบันบริษัทมียอดส่งออกสะสมมากกว่า 5.7 ล้านคันไปยัง 120 ประเทศทั่วโลก

นายยอดชาย ซื่อวัฒนากุล ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักสื่อสารการตลาด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้แทนขึ้นรับรางวัลจาก ดร. ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะกรรมการจาก สรยท.

มร. เรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า รางวัลทั้งสองสะท้อนคุณค่าและความเชื่อมั่นในแบรนด์ ทั้งด้านเทคโนโลยีการขับขี่ ความปลอดภัย การออกแบบ และการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ที่ผ่านการทดสอบความทนทานและสมรรถนะกว่า 100,000 กิโลเมตรทั่วประเทศไทย เพื่อปรับแต่งระบบกันสะเทือนให้เหมาะสมกับการใช้งานบนสภาพถนนที่หลากหลายของคนไทย ความสำเร็จนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการพัฒนายนตรกรรมที่ดียิ่งขึ้นเพื่อลูกค้าชาวไทย และเป็นแรงผลักดันในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อก้าวเข้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าอย่างมั่นคง

คอนเทนต์แนะนำ

ผู้พันตึ๋ง แฉ เรือนจำคือดินแดนสนธยา เงินสะพัดกว่าข้างนอก

นายกฯ ขอชาวหาดใหญ่ อยู่ศูนย์พักพิงจนกว่าจะปลอดภัย

น้ำท่วมหาดใหญ่ยังวิกฤต เด็กติดในบ้านกับงูเหลือมยักษ์