ฮอนด้าทำ MOU มาตรการสนับสนุน EV 3.5 การใช้ยานยนต์ไฟฟ้ารอบ 2
ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย ได้เข้าร่วม พิธีลงนามข้อตกลงการรับสิทธิตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ประเภทรถจักรยานยนต์ระยะที่ 2 หรือที่เรียกว่า มาตรการ EV 3.5 เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 ณ กรุงเทพฯ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
การลงนามครั้งนี้เป็นการทำข้อตกลงร่วมกันระหว่างกรมสรรพสามิตและผู้ประกอบอุตสาหกรรม เพื่อร่วมกันยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน พร้อมทั้งขับเคลื่อนประเทศไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว และสนับสนุนวิสัยทัศน์ของฮอนด้าที่มุ่งสู่ Carbon Neutrality (ความเป็นกลางทางคาร์บอน) ภายในปี พ.ศ. 2593
มร.ยูอิจิ ชิมิซุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด เป็นผู้ลงนามร่วมกับ ดร.พรชัย ฐีระเวช อธิบดีกรมสรรพสามิต และเจ้าหน้าที่ระดับสูงอื่น ๆ
มร.ยูอิจิ ชิมิซุ กล่าวย้ำว่า ฮอนด้ามุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตผู้บริโภคและสภาพแวดล้อมในประเทศไทย ฮอนด้าได้ทำงานร่วมกับภาครัฐมาโดยตลอด ตั้งแต่การเข้าร่วมมาตรการ EV 3.0 (พ.ศ. 2566–2568) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ การลงนามในมาตรการ EV 3.5 ครั้งนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญในการสานต่อพันธกิจดังกล่าว ฮอนด้ายืนยันที่จะเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และระบบนิเวศด้านยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสังคมที่น่าอยู่และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
มาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ารอบ 2 (EV 3.5) นี้ จะมีผลบังคับใช้ในช่วงปี พ.ศ. 2567 - 2570 โดยครอบคลุมทั้งรถยนต์ไฟฟ้า รถกระบะไฟฟ้า และ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า
สิทธิประโยชน์ในมาตรการประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ เงินอุดหนุน การลดอัตราอากรขาเข้ารถยนต์สำเร็จรูป และการลดอัตราภาษีสรรพสามิต
สำหรับกรณีของ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (EV) จะได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้
- เงื่อนไขรถ รถราคาไม่เกิน 150,000 บาท และมีขนาดแบตเตอรี่ตั้งแต่ 3 kWh
- เงินอุดหนุน ผู้ซื้อจะได้รับเงินอุดหนุนระหว่าง 5,000 - 10,000 บาท/คัน
มาตรการนี้มีเป้าหมายหลักคือการลดต้นทุนการเป็นเจ้าของยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ควบคู่ไปกับการผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่การเป็นศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค
