ฟอร์ด ยืนยัน เปิดตัว Ranger Super Duty กระบะเฮฟวีเวท ในไทยปีหน้า

21 พ.ย. 68

10:28 น.

แชร์

ฟอร์ด ประเทศไทย เดินหน้าเขย่าวงการรถกระบะไทย ประกาศยืนยันเปิดตัว ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้ (Ford Ranger Super Duty) รถกระบะภารกิจหนัก (Heavy Duty Pickup) ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ผู้ประกอบการงานหนัก และกลุ่มนักผจญภัยสายลุย ละทำงานหนักได้จริงแบบที่รถกระบะทั่วไปทำไม่ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Ford Ranger หมายเลข 3 คว้าดับเบิลแชมป์ ปิดฉาก Thailand Super Series

จากมลพิษทิ้งขว้างเหมืองถ่านหิน สู่ Graphene Battery มันสมองเด็กไทย

ฟอร์ดฝึกทักษะขับขี่ออฟโรดสุดโหด พร้อมชม Ford Ranger Raptor ลุยศึก TRRC

Ford Ranger Super Duty จะมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย

รุ่นดับเบิ้ลแค็บ (Double Cab)
รุ่นซิงเกิ้ลแค็บแชสซี (Single Cab Chassis)

โดยผลิตจากโรงงาน ออโต้ อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (AAT) ระยอง เพื่อรองรับการขายทั้งในไทยและตลาดโลก ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยได้เลยทีเดียว หลังจากโรงงานแห่งนี้ก็มีหน้าที่ผลิต Ford Everest แห่งเดียวในโลกมาก่อนหน้านี้

ฟีเจอร์ไฮไลท์ของ Ford Ranger Super Duty

รองรับการลากจูงสูงสุด 4,500 กิโลกรัม
น้ำหนักรถสูงสุดรวมบรรทุก (GVM) สูงสุดถึง 4,500 กิโลกรัม
น้ำหนักรถสูงสุดรวมบรรทุกและลากจูง (GCM) สูงสุดถึง 8,000 กิโลกรัม
ปีกนกมีความหนามากที่สุดเท่าที่ฟอร์ดเคยพัฒนาสำหรับฟอร์ด เรนเจอร์
จุดยึดสปริงและปีกนกล่างปรับให้ยกสูง เพื่อป้องกันการกระแทกเมื่อใช้งานออฟโรด
เพลาขับหน้า และหลังที่พัฒนาใหม่ให้แข็งแรงขึ้น
เฟืองท้ายที่ใหญ่และแข็งแรงที่สุดที่เคยติดตั้งในฟอร์ด เรนเจอร์
โครงสร้างที่ได้รับการอัปเกรดใหม่ ให้แข็งแรงขึ้น มีน้ำหนักมากกว่าโครงปกติของเรนเจอร์ทั่วไปถึง 70–80 กก. เนื่องจากใช้โลหะที่มีความหนากว่าและมีจุดเสริมความแข็งแกร่งเพิ่มเติม เพื่อให้รับกับสมรรถนะเพื่อการบรรทุกและลากจูงของหนัก
กันชนเหล็กยึดกับโครงรถโดยตรง ทำให้กันชนมีความแข็งแรงและรองรับน้ำหนักได้ดีขึ้น สามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมขนาดเล็กเพิ่มเติม เช่น ไฟสปอร์ตไลท์และเสาอากาศ ลงบนกันชนได้ทันที กันชนเหล็กยังช่วยเพิ่มการป้องกันด้านหน้าจากการกระแทกและช่วยปกป้องตัวรถจากอุปสรรคต่างๆ ขณะขับขี่ออฟโรดได้
ล้อเหล็ก Heavy Duty น็อต 8 ตัว พร้อมยาง All Terrain LT ขนาด 33 นิ้ว การใช้น็อต 8 ตัว รวมถึงใช้วัสดุเหล็กช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความสามารถในการกระจายน้ำหนักได้ดีกว่า ลดโอกาสเกิดความเสียหายของล้อและดุมล้อ รับแรงกระแทกได้มากกว่าล้อทั่วไป
โครงสร้างระบบกันสะเทือนที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ระบบกันสะเทือนที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยมีโครงสร้างใหม่และแหนบหลังที่ยาวขึ้น ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อเพิ่มความสามารถในการรับน้ำหนักและการลากจูง รวมถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ และทำให้รถมีเสถียรภาพมากขึ้น ปลอดภัยมากขึ้นเมื่อขับขี่แบบออฟโรด
ห้องโดยสารภายในตกแต่งด้วยสัญลักษณ์ ‘SUPER DUTY’ ที่แผงคอนโซลหน้า
ระบบ Integrated Device Mounting System (IDMS) ที่ติดตั้งมาจากโรงงานเลย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในฟอร์ด เรนเจอร์ ที่ติดตั้ง IDMS มาให้จากโรงงาน
ระบบล็อกเฟืองท้ายหน้าและหลังแบบไฟฟ้า
ระยะความสูงจากพื้น 299 มม. และความกว้างฐานล้อ 1,710 มม.
โหมดการขับขี่ 7 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ โหมดประหยัด โหมดลากจูง โหมดถนนลื่น โหมดโคลน โหมดทราย โหมดหิน
ะบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเพื่อการขับขี่ออฟโรด (Trail Control)
ระบบช่วยเลี้ยวบนเส้นทางออฟโรด (Trail Turn Assist)
แผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถแบบ Heavy Duty ปกป้องบริเวณเฟืองหน้า เกียร์ และชุดส่งกำลัง ด้วยวัสดุเหล็กหนา 3.6 มม. โดยแผ่นกันกระแทกบริเวณถังน้ำมันมีความหนัก 130 กก. และออกแบบมาให้เป็นชิ้นเดียวกับโครงสร้าง

ขุมพลังและระบบส่งกำลัง

เครื่องยนต์ดีเซล วี 6 ขนาด 3.0 ลิตร
เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมการปรับจูนใหม่สำหรับงานหนัก
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตโนมัติ 4A พร้อมโหมด 4H และ 4L
เฟืองหน้าและท้ายทำงานแบบไฟฟ้า
โหมดการขับขี่ออฟโรด ได้แก่ โหมดปกติ โหมดประหยัด โหมดลากจูง โหมดถนนลื่น โหมดโคลน โหมดทราย โหมดหิน
ยาง All-Terrain ขนาด 33 นิ้ว LT275/70R18 พร้อมล้ออัลลอยแบบน็อต 8 ตัว ขนาด 18 x 8.5 นิ้ว
ถังน้ำมันขนาด 130 ลิตร พร้อมแผ่นกันกระแทกเหล็ก
ความสามารถลุยน้ำลึกสูงสุด 850 มม.
ผลิตในไทย ส่งออกทั่วโลก

Ford Ranger Super Duty ผลิตที่โรงงาน AAT ระยอง หนึ่งในฐานการผลิตใหญ่ที่สุดของฟอร์ดทั่วโลก ทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตรถกระบะ Heavy Duty รุ่นนี้อย่างเป็นทางการ การเปิดตัวในปี 2569