ครั้งแรกในโลก! Honda เผยโฉม Super-ONE Compact EV ต้นแบบ

บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ได้เผยโฉมรถยนต์ Compact EV ต้นแบบ Super-ONE เป็นครั้งแรกของโลก ณ งาน Japan Mobility Show 2025 (จัดแสดงตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม ถึง 9 พฤศจิกายน 2025) รถคันนี้พัฒนาภายใต้แนวคิด “e: Dash BOOSTER” โดยมุ่งเน้นการส่งมอบ “ความสนุกในการขับขี่” (fun of driving) ให้กับรถยนต์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด ผ่านการกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของผู้ขับขี่ พร้อมขนทัพยนตรกรรมอีกมากมายมาจัดแสดงในงาน

แนวคิดและสมรรถนะของ Super-ONE

ชื่อ Super-ONE สื่อถึงความมุ่งมั่นของฮอนด้าที่จะสร้างยนตรกรรมที่ก้าวข้ามขีดจำกัด ("super") และส่งมอบคุณค่าอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ("one and only")

• แพลตฟอร์ม ใช้แพลตฟอร์มน้ำหนักเบาที่พัฒนาต่อยอดมาจากรถในกลุ่ม N Series มอบการขับขี่ที่คล่องตัวและสปอร์ต
• เสถียรภาพการขับขี่ การออกแบบให้มีช่วงล่างที่กว้าง ระยะฐานล้อที่ขยายออกไป และมีซุ้มล้อโป่งนูนโดยเฉพาะ ช่วยให้รถมีเสถียรภาพและมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทรงพลังและเร้าใจ
• การทดสอบ โมเดลต้นกำเนิดคือ Super EV Concept เคยร่วมการขับขี่เชิงไดนามิกในสนามแข่งไต่เขาในงาน Goodwood Festival of Speed 2025 มาแล้ว และ Super-ONE ได้ผ่านการทดสอบบนพื้นผิวถนนและสภาพอากาศที่หลากหลายในญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย เพื่อพัฒนาสมรรถนะให้ดียิ่งขึ้น

Boost Mode การจำลองประสบการณ์รถสปอร์ตสันดาป

Super-ONE มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ “Boost Mode” ที่พัฒนาขึ้นพิเศษเพื่อยกระดับความตื่นเต้นเร้าใจในการขับขี่ EV ผ่านการผสานเทคโนโลยีหลัก 3 อย่าง

1. เพิ่มกำลังขับเคลื่อน ช่วยให้เครื่องยนต์ปลดปล่อยสมรรถนะได้อย่างเต็มที่ มอบอัตราเร่งที่ทรงพลังและเฉียบคม
2. ระบบจำลองเกียร์ 7 สปีด ถ่ายทอดความรู้สึกในการเปลี่ยนเกียร์ที่เฉียบคม เหมือนกับรถยนต์ที่ใช้ระบบเกียร์หลายจังหวะแบบดั้งเดิม
3. ระบบ Active Sound Control สร้างเสียงเครื่องยนต์เสมือนจริงภายในห้องโดยสารตามการเหยียบคันเร่งและเบรก

การกระตุ้นประสาทสัมผัส Boost Mode มีการตั้งค่าพิเศษสำหรับฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น มาตรวัดแบบสามช่อง และการปรับเปลี่ยนโทนแสงภายในห้องโดยสาร ซึ่งรวมถึงการมองเห็น การได้ยิน และความรู้สึกด้านสัมผัสจากการเร่งความเร็วและการสั่นสะเทือน เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ตื่นเต้น เร้าใจในรูปแบบใหม่

ดีไซน์ภายนอกและภายใน

ดีไซน์ภายนอก

• รูปลักษณ์ เน้นความเร้าใจด้วย ซุ้มล้อแบบลิสเตอร์ ที่โดดเด่นโอบล้อขนาดใหญ่ ทำให้ตัวรถมีลักษณะเตี้ยและกว้าง
• ฟังก์ชัน ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ พร้อมช่องระบายอากาศด้านหน้าและด้านหลังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการไหลเวียนของอากาศและระบายความร้อน

ดีไซน์ภายใน

• บรรยากาศ ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นความรู้สึกตื่นเต้นและให้ผู้ขับดื่มด่ำกับทุกช่วงเวลาของการขับขี่
• เบาะนั่ง เป็น เบาะนั่งสไตล์สปอร์ต ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อโอบกระชับลำตัวและมอบตำแหน่งการขับขี่ที่มั่นคง
• ลูกเล่นและทัศนวิสัย การเลือกใช้วัสดุพื้นผิวสีฟ้าและลักษณะ Asymmetric Layout เพิ่มความสนุกสนานในห้องโดยสาร และการออกแบบแผงหน้าปัดในแนวระนาบช่วยลดสิ่งรบกวนสายตา ทำให้ผู้ขับขี่มีสมาธิมากยิ่งขึ้น

แผนการเปิดตัวรุ่นผลิตจริง

ฮอนด้ามีแผนเปิดตัวรถยนต์รุ่นผลิตจริงที่พัฒนาต่อยอดจากรถยนต์ต้นแบบ Super-ONE โดย

• เริ่มจำหน่ายในประเทศ ญี่ปุ่น ในปี 2026 เป็นต้นไป
• ตามด้วยภูมิภาคอื่น ๆ ที่มีความต้องการรถ EV ขนาดกะทัดรัด เช่น สหราชอาณาจักร และประเทศต่าง ๆ ใน เอเชีย

หมายเหตุเกี่ยวกับชื่อรุ่นผลิตจริง จะมีการใช้ชื่อแตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาค ดังนี้

• ญี่ปุ่น และ ภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ใช้ชื่อว่า ‘Super-ONE’
• บางประเทศในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ใช้ชื่อว่า ‘Honda Super-ONE’
• สหราชอาณาจักร จะเปิดตัวภายใต้ชื่อ ‘Super-N’

Honda CR-V e:HEV RS (Prototype/รุ่นผลิตจริง)

ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุดของ Honda CR-V เจเนอเรชันที่ 6 ที่มาพร้อมขุมพลังฟูลไฮบริด และดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมที่ยกระดับความหรูหราและความดุดันไปอีกขั้น

Honda CR-V e:HEV RS คือยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียม SUV ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นรุ่นเรือธงในตลาด C-SUV โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชีย โดดเด่นด้วยชุดแต่ง RS รอบคันที่เพิ่มความแข็งแกร่งและดุดัน ด้วยองค์ประกอบสีดำ Piano Black เช่น กระจังหน้า กระจกมองข้าง และล้ออัลลอยขนาดใหญ่ดีไซน์เฉพาะรุ่น ทำให้รูปลักษณ์ภายนอกสื่อถึงสมรรถนะอันทรงพลังอย่างชัดเจน

หัวใจสำคัญของรุ่น RS คือ ขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์ Direct Injection Atkinson-Cycle ขนาด 2.0 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและแรงบิดสูง พร้อมอัตราเร่งที่รวดเร็ว ตอบสนองทุกการขับขี่ในเมืองและทางไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Real Time AWD (สำหรับรุ่น 4WD) เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการควบคุมในทุกสภาพถนน

ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบอย่างประณีตและเน้นบรรยากาศสปอร์ตพรีเมียม ด้วยเบาะหนังสีดำพร้อมการเดินตะเข็บสีแดง (ในบางประเทศ) และเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสบายระดับสูง ไม่ว่าจะเป็น

• ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-Up Display - HUD)
• หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof)
• ระบบเครื่องเสียง BOSE (พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง)
• ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (MVCS)

Honda Prelude ใหม่

คือรถสปอร์ตคูเป้ e:HEV ฟูลไฮบริด ที่กลับมาพร้อมดีไซน์ต่ำกว้าง และเน้นแนวคิด “Unlimited Glide” เพื่อความรู้สึกเร้าใจในการขับขี่

รถคันนี้ติดตั้งเทคโนโลยี S+ Shift จำลองเกียร์ 8 สปีด และ Active Sound Control สร้างเสียงเครื่องยนต์ เพื่อมอบประสบการณ์สปอร์ตเต็มรูปแบบ โครงสร้างใช้พื้นฐานแชสซีส์จาก Civic Type R เสริมด้วยเบรก Brembo และมีพื้นที่เก็บสัมภาระแบบ Liftback ที่ใช้งานได้จริง พร้อมระบบความปลอดภัย Honda SENSING และ Google built-in ครบชุด

ยนตรกรรมรุ่นอื่นๆ ในงาน Japan Mobility Show 2025

นอกจากนี้ฮอนด้าได้เผยโฉม Honda 0 Series ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เจเนอเรชันใหม่ ภายใต้แนวคิดที่มุ่งสู่จุดกำเนิดของการเป็นผู้ผลิตรถยนต์ของฮอนด้า โดยจะสร้างสรรค์รถ EV จาก "ศูนย์" ด้วยแนวคิดการพัฒนาอันเป็นเอกลักษณ์คือ “บาง เบา และชาญฉลาด” (“Thin, Light, and Wise”) เพื่อท้าทายกรอบความคิดเดิมที่ว่ารถ EV ต้อง "หนาและหนัก" และสร้างคุณค่าใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

รถยนต์ใน Honda 0 Series ทุกรุ่นมาพร้อมกับ ASIMO OS ซึ่งเป็นระบบ Vehicle OS ที่ฮอนด้าพัฒนาขึ้นเองโดยเฉพาะ โดยระบบนี้จะช่วยให้รถยนต์สามารถเรียนรู้และพัฒนาจากพฤติกรรมการใช้งานของผู้ขับขี่ เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางเฉพาะบุคคลได้อย่างเหนือระดับ

รุ่นต้นแบบใน Honda 0 Series

• Honda 0 Saloon Prototype เป็น Flagship Model มาพร้อมแพลตฟอร์มพื้นที่ต่ำ ดีไซน์สปอร์ต และตัวรถที่มีความสูงต่ำ แต่มีพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวางเกินคาด
• Honda 0 SUV Prototype เป็นรถต้นแบบ SUV ไฟฟ้าขนาดกลาง และเป็นรุ่นแรกที่เตรียมเปิดตัวสู่ตลาด โดดเด่นด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวาง ทัศนวิสัยโปร่งโล่ง และความยืดหยุ่นของพื้นที่
• Honda 0 α (ฮอนด้า ซีโร่ อัลฟ่า) รถ SUV ไฟฟ้าต้นแบบรุ่นใหม่ล่าสุดในซีรีส์นี้ มาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยวและสัดส่วนที่ปราดเปรียว การออกแบบแพ็กเกจตัวรถเน้นแนวคิด “Thin” (บาง) ทำให้ความสูงของตัวรถต่ำแต่ไม่กระทบต่อความสูงจากพื้นถนน ฮอนด้ามีแผนจำหน่ายรุ่นผลิตจริงทั่วโลกโดยเน้นที่ตลาดญี่ปุ่นและอินเดียก่อนในปี 2027 ในฐานะ “Gateway Model” ทั้งนี้ ในประเทศญี่ปุ่นจะมีการวางจำหน่ายรถยนต์ Honda 0 Series ครบทั้งสามรุ่นก่อนสิ้นสุดปีงบประมาณวันที่ 31 มีนาคม 2028

ยนตรกรรมไฟฟ้าอื่น ๆ

• Acura RSX Prototype รถ EV เจเนอเรชันใหม่ของแบรนด์ Acura ซึ่งจัดแสดงครั้งแรกในญี่ปุ่น โมเดลนี้ใช้แพลตฟอร์ม EV เจเนอเรชันใหม่ที่พัฒนาโดยฮอนด้า พร้อมระบบปฏิบัติการ ASIMO OS
• Honda Micro EV Concept ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (Micro-Sized EV) ที่ฮอนด้าเผยโฉมล่าสุด รถต้นแบบคันนี้มีขนาดเล็กกะทัดรัดคล้าย Citroën Ami หรือรถ Kei Car ในญี่ปุ่น โดยเน้นดีไซน์น่ารักและใช้งานในเมือง (City Use)
• EV OUTLIER Concept นิยามใหม่ของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า และเป็นวิสัยทัศน์สำหรับรถจักรยานยนต์หลังปี 2030 แนวคิดนี้ใช้เทคโนโลยีมอเตอร์ในล้อ (In-wheel Motor) ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง เพื่อยกระดับความคล่องตัวและสมรรถนะที่เหนือชั้น

ฮอนด้าเน้นย้ำว่า แม้จะก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า แต่ “ความสนุกในการขับขี่” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ยังคงเป็นหัวใจสำคัญ โดยความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวระหว่างผู้ขับและตัวรถจะไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะผ่านเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนรูปแบบใดก็ตาม