Ferrari สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว Ferrari Amalfi ยนตรกรรมสปอร์ตคูเป้แบบ 2+ รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 วางหน้ากึ่งกลางพร้อมระบบอัดอากาศแบบทวินเทอร์โบ โดยเข้ามาแทนที่ Ferrari Roma ด้วยแนวคิดหลักในการนิยามความสปอร์ตยุคใหม่ ที่รวมเอาสมรรถนะระดับสูง ความอเนกประสงค์ และความงามอันประณีตเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ Ferrari Amalfi ได้รับการพัฒนาให้เป็น Grand Tourer ยุคใหม่ ที่สามารถผสานความแรงเร้าใจเข้ากับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว
Ferrari Amalfi โดดเด่นด้วยการเป็นหนึ่งในโมเดลที่น่าจับตามองที่สุดทั้งในไลน์อัปของ Ferrari และในตลาดรถสปอร์ตระดับโลก ด้วยความลงตัวระหว่างความสง่างามร่วมสมัยและสมรรถนะระดับสูง
ขุมพลัง V8 ทวินเทอร์โบ หัวใจสำคัญของ Ferrari Amalfi คือเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 3,855 ซีซี ที่พัฒนาต่อยอดจากตระกูล F154 อันเลื่องชื่อ รีดกำลังสูงสุดถึง 640 แรงม้า ที่ 7,500 รอบต่อนาที พร้อมอัตราส่วนน้ำหนักต่อแรงม้าเพียง 2.29 กก./แรงม้า ซึ่งนับว่าดีที่สุดในคลาส แรงบิดสูงสุด 760 นิวตันเมตร ถ่ายทอดผ่านเกียร์คลัตช์คู่ (Dual-Clutch Transmission) 8 จังหวะ มอบอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.3 วินาที และ 0-200 กม./ชม. ใน 9.0 วินาที
ดีไซน์ภายนอกอันเป็นเอกลักษณ์ งานออกแบบภายนอกได้รับแรงบันดาลใจจากการเคลื่อนที่ของน้ำ เน้นรูปลักษณ์แบบมินิมอล ด้วยเส้นสายที่เฉียบคมและพื้นผิวตัวถังที่สะอาดตา ด้านหน้าโดดเด่นด้วยช่องดักอากาศขนาดใหญ่ ฝากระโปรงหน้ายาว รองรับเครื่องยนต์ V8 ขณะที่ด้านท้ายติดตั้งสปอยเลอร์แบบแอคทีฟที่ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในความเร็วสูง สีเปิดตัว Verde Costiera ซึ่งเป็นสีเขียวอมฟ้าสดใส ได้แรงบันดาลใจจากท้องทะเลชายฝั่ง Amalfi ช่วยเน้นเส้นสายของตัวถังให้โดดเด่นและน่าหลงใหล
ห้องโดยสาร Dual-Cockpit ที่เน้นผู้ใช้งาน ภายในออกแบบตามแนวคิด Dual-Cockpit ที่แยกพื้นที่ผู้ขับและผู้โดยสารอย่างมีเอกลักษณ์ มาพร้อมพวงมาลัยใหม่ที่กลับมาใช้ปุ่มควบคุมแบบกด เพื่อความแม่นยำในการใช้งาน และปุ่มสตาร์ตที่เป็นเอกลักษณ์ การจัดวางจอแสดงผลและปุ่มควบคุมออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ภายในตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์และงานเย็บตะเข็บด้ายเพิ่มความหรูหรา พร้อมเบาะนั่งแบบ 2+ ที่สามารถใช้งานได้จริง เพิ่มความอเนกประสงค์สำหรับการเดินทางร่วมกับเด็กหรือสัมภาระ
Ferrari Amalfi อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ
ระบบควบคุมสมรรถนะ มาพร้อมระบบเบรกไฟฟ้า (Brake-by-Wire) พร้อมระบบควบคุมเบรกป้องกันล้อล็อก ‘ABS Evo’ ที่พัฒนาให้เหมาะกับทุกสภาพพื้นผิวถนน และระบบ Side Slip Control (SSC) 6.1 ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและเสถียรภาพสูงสุด พวงมาลัยได้รับการปรับใหม่เพื่อให้การควบคุมแม่นยำและตอบสนองลื่นไหลยิ่งขึ้น
อากาศพลศาสตร์อัจฉริยะ สปอยเลอร์หลังแบบแอคทีฟที่ซ่อนกลมกลืนกับตัวถัง สามารถปรับระดับการยกตัวได้อัตโนมัติตามความเร็วและโหมดการขับขี่ เพื่อเพิ่มแรงกดอากาศสูงสุดถึง 110 กิโลกรัม ที่ความเร็ว 250 กม./ชม. โดยมีแรงต้านอากาศเพิ่มขึ้นไม่เกิน 4% ช่วยรักษาเสถียรภาพในทุกสถานการณ์
ระบบ HMI และความบันเทิง ภายในห้องโดยสารมี HMI (Human-Machine Interface) เจเนอเรชันล่าสุด ประกอบด้วยหน้าปัดดิจิทัล 15.6 นิ้ว, หน้าจอสัมผัสกลาง 10.25 นิ้ว และหน้าจอผู้โดยสาร 8.8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay® และ Android Auto® พร้อมแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนไร้สาย เพื่อการเชื่อมต่อที่สมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ ยังมีระบบเครื่องเสียง Burmester® Premium Audio System (อุปกรณ์เสริม) ที่มอบประสบการณ์เสียงระดับไฮเอนด์ด้วยลำโพง 14 ตำแหน่ง กำลังขับรวมกว่า 1,200 วัตต์
Ferrari Amalfi มาพร้อม โปรแกรมบำรุงรักษา 7 ปีจากโรงงาน (7-Year Genuine Maintenance) ครอบคลุมการบำรุงรักษาตามระยะทางทุก 20,000 กิโลเมตร หรือปีละหนึ่งครั้ง โดยไม่จำกัดระยะทางสะสม มั่นใจได้ว่ารถจะได้รับการดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์โดยช่างผู้ชำนาญจาก Ferrari
Ferrari Amalfi เหมาะสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ที่รวมความสง่างาม สมรรถนะอันเร้าใจ และความอเนกประสงค์ไว้ด้วยกัน เพื่อประสบการณ์ขับขี่ที่ไร้ขีดจำกัดในทุกบริบทการใช้งาน
เครื่องยนต์
มิติและน้ำหนัก
สมรรถนะ