GWM (ประเทศไทย) เผยเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชันใหม่ล่าสุดแบบเจาะลึก ในงาน “GWM DIESEL TECH NIGHT” เปิดที่มาความสำเร็จของ NEW GWM TANK 300 DIESEL นำโดย เจมส์ หยาง รองประธาน GWM ตลาดต่างประเทศ มิคาเล สกอตติ ผู้อำนวยการด้านระบบส่งกำลังและแพลตฟอร์มใหม่ GWM สำนักงานใหญ่ นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองประธานฝ่ายการตลาด และ เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) พร้อมด้วยทีมผู้บริหารจาก GWM (Thailand)
พร้อมทั้งได้ประกาศเปิดตัว TANKER CLUB คอมมูนิตี้สำหรับคนรัก GWM TANK ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พื้นที่สำหรับผู้ใช้งานจริงทั่วประเทศเพื่อทำกิจกรรม พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และร่วมกันสร้างคอมมูนิตี้ที่เข้มแข็ง สร้างสรรค์ และยั่งยืนในระยะยาว โดยมีเหล่า “TANKER” หรือผู้ใช้ GWM TANK เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมากเพื่อร่วมเฉลิมฉลองการส่งมอบ NEW GWM TANK 300 DIESEL ไปแล้วมากกว่า 1,000 คันในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา และจะมีการส่งมอบได้ครบ 2,000 คันภายในเดือนมิถุนายนนี้
เจมส์ หยาง รองประธาน GWM ตลาดต่างประเทศ กล่าวว่า
“GWM DIESEL TECH NIGHT ไม่ใช่แค่งานเปิดตัวเครื่องยนต์รุ่นใหม่ แต่เป็นเวทีที่เราตั้งใจจะถ่ายทอดให้ทุกคนได้เห็นถึงความมุ่งมั่นเบื้องหลังการพัฒนาเทคโนโลยีดีเซลของ GWM ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา เราทราบดีว่าการจะพาแบรนด์สัญชาติจีนไปสู่ระดับโลกนั้น ไม่ใช่เรื่องของกระแสหรือโชคชะตา แต่คือการเดินหน้าด้วยแนวคิดระยะยาวและการลงทุนในนวัตกรรมที่ GWM มุ่งมั่นเสมอมา รวมถึงการที่ GWM ยังเชื่อว่าเทคโนโลยีไม่ใช่เรื่องของการอวดโชว์ แต่คือความสามารถในการแก้ปัญหาให้ผู้ใช้ได้จริง เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจเนอเรชันล่าสุดของ GWM นี้คือผลลัพธ์ของหลักการนั้น เพราะเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง ประหยัดน้ำมัน ควบคุมมลพิษและเสียงรบกวนได้ดี พร้อมลุยทุกสภาพแวดล้อม สุดท้ายนี้ ผมอยากขอบคุณทุกเสียงสนับสนุนที่ร่วมเป็นแรงผลักดันให้ GWM กลายเป็นแบรนด์ที่ผู้คนในกว่า 170 ประเทศทั่วโลกไว้วางใจ เราจะยังคงยึดมั่นในคุณภาพ และบริการที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดในโลก เพราะสำหรับเรา GWM ไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่คือการเดินทางของความเชื่อและวิสัยทัศน์ที่ไปไกลอย่างยั่งยืน”
ความสำเร็จของ NEW GWM TANK 300 DIESEL ในไทย คือ เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T รุ่นล่าสุด ที่พัฒนาตลอดระยะเวลามาอย่างยาวนาน GWM พัฒนาเครื่องยนต์กว่า 50 รุ่น ครอบคลุม 6 แพลตฟอร์มหลัก วางจำหน่ายในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก
มิคาเล สกอตติ ผู้อำนวยการด้านระบบส่งกำลังและแพลตฟอร์มใหม่ GWM สำนักงานใหญ่ ได้เผย 5 จุดเด่นของนวัตกรรมเครื่องยนต์ 2.4T ที่สร้างความสำเร็จทั้งในไทยและระดับโลก โดยกว่า 20 ปีที่ GWM ทุ่มเททรัพยากรในการวิจัยและพัฒนา เพื่อสร้างขุมพลังที่ไม่ใช่แค่ ‘แรง’ แต่ต้อง ‘ล้ำหน้า’ และ ‘ยั่งยืน’ GWM
ภายในงานได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ “TANKER CLUB” ในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นการประกาศจุดเริ่มต้นของคอมมูนิตี้ผู้ใช้งาน GWM TANK ในไทย ภายใต้แนวคิดสำคัญในการสร้างพื้นที่สำหรับแลกเปลี่ยนประสบการณ์ สร้างกิจกรรม ความผูกพัน และแรงบันดาลใจของผู้ใช้งานจริง หรือเหล่า “TANKER” ทั่วประเทศ
โดย GWM (Thailand) จะทำหน้าที่เป็นเพียงผู้ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการทำกิจกรรมของคลับเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นด้านความรู้ผลิตภัณฑ์ การสนับสนุนการจัดกิจกรรม การให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลรถยนต์ หรือการเป็นสะพานเชื่อมสู่โอกาสในการร่วมกิจกรรมกับ TANKER CLUB ประเทศอื่น ๆ หรือการร่วมกิจกรรมระดับโลกของ GWM
เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) กล่าวปิดท้ายว่า
“ผมขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่มาร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จของ NEW GWM TANK 300 DIESEL ที่ได้ส่งมอบไปแล้วมากกว่า 1,000 คัน และเราจะส่งมอบครบ 2,000 คันภายในเดือนมิถุนายนนี้ ประเทศไทยคือศูนย์กลางสำคัญของ GWM ในภูมิภาคพวงมาลัยขวา และเรายืนยันเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด “In Thailand, For Thailand” โดยเรามีความเชื่อว่าการใช้ระบบขับเคลื่อนหลากหลายรูปแบบ (Multiple Powertrains) คือทางออกที่ดีที่สุดในการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย เนื่องจากพื้นฐานของตลาดในประเทศไทยยังคงอยู่ที่เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และดีเซล ซึ่งมีห่วงโซ่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีส่วนช่วยสร้าง GDP ถึง 12% และล่าสุดกับ NEW GWM TANK 300 DIESEL ที่มีการพัฒนาขึ้นมาเฉพาะเพื่อให้เหมาะสำหรับคนไทย ถนนเมืองไทย ทั้งระบบขับเคลื่อน ระบบช่วงล่าง เกียร์ และเครื่องยนต์ เรามั่นใจว่าเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ใหม่นี้ คือความลงตัวระหว่างสมรรถนะ ความเงียบ และความประหยัด เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ของรถยนต์ดีเซลในไทย ขอบคุณทุกท่านที่ให้การตอบรับอย่างอบอุ่น และขอต้อนรับพี่น้องชาว TANKER ในไทยเข้าสู่ GWM FAMILY อย่างเป็นทางการ เราจะเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงส่งมอบบริการที่ดีเยี่ยม เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้า พาร์ทเนอร์ และสังคมไทยในระยะยาว”