สถานการณ์ตลาดรถยนต์ไทยในปี 2568 (2025) อยู่ในสภาวะที่น่าสนใจมาก ยอดขายรวมทั้งปีคาดการณ์อยู่ที่ประมาณ 600,000 คัน แม้ตลาดโดยรวมจะชะลอตัวลงเล็กน้อยจากมาตรการคัดกรองสินเชื่อที่เข้มงวด แต่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน โดยคนเมืองหันมาใช้รถเก๋งขนาดเล็กที่ประหยัดน้ำมันและรถ SUV มากขึ้น ส่งผลให้อันดับ 1 ในปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
อันดับ 1 Toyota Yaris ATIV – "ราชาคันใหม่" แห่งถนนเมืองไทย
ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่รถเก๋ง Eco Car ขึ้นมาครองแชมป์ยอดขายรวมอันดับ 1 ในปี 2025 โดยมียอดขายรายเดือนเฉลี่ยสูงถึง 4,800 - 5,000 คัน
- รายละเอียดตัวรถ ATIV ไม่ได้ขายดีแค่เพราะชื่อแบรนด์ แต่เป็นเพราะการออกแบบสไตล์ Fastback ที่ดูหรูหราเกินตัว ภายในกว้างขวางและมีระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ที่ให้มาครบครันตั้งแต่รุ่นกลาง มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร Dual VVT-iE ที่ตอบโจทย์การใช้งานในเมืองและการจราจรที่ติดขัด นอกจากนี้ในปี 2025 ยังมีการเพิ่มรุ่นพิเศษและการปรับจูนหน้าจอ Infotainment ให้ลื่นไหลรองรับไลฟ์สไตล์ดิจิทัลมากขึ้น
- ทำไมถึงขายดีที่สุดในคราวนี้ ปัจจัยหลักคือ "ความคุ้มค่าต่อราคา" (Value for Money) ในยุคที่ค่าครองชีพสูง รถที่ประหยัดน้ำมันได้ถึง 23.3 กม./ลิตร และมีค่าบำรุงรักษาต่ำจึงกลายเป็นทางเลือกอันดับแรกของครอบครัวยุคใหม่และกลุ่มเริ่มทำงาน
- ราคาจำหน่ายปี 2025 รุ่นเริ่ม (Sport) 549,000 บาทรุ่นท็อป (HEV Premium Luxury / Nightshade) 699,000 - 719,000 บาท
อันดับ 2 Toyota Hilux Revo – พี่ใหญ่ที่ยังคงความแกร่งในยุคผลัดใบ
แม้จะเสียตำแหน่งที่หนึ่งไปให้กับรุ่นน้องอย่าง ATIV แต่ Hilux Revo ยังคงมียอดขายที่แข็งแกร่งเป็นอันดับ 2 ของประเทศ (เฉลี่ยประมาณ 4,400 คัน/เดือน) และยังคงเป็นเบอร์ 1 ในกลุ่มรถกระบะ แม้ Hilux Travo จะเพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายปี
- รายละเอียดตัวรถ ในปี 2025 Toyota ได้มีการปรับปรุง Revo ให้ทันสมัยขึ้น โดยเฉพาะเครื่องยนต์ที่ผ่านเกณฑ์ EURO 5 เพื่อตอบรับกฎหมายสิ่งแวดล้อมใหม่ และแม้ว่าจะมีการเปิดตัว Toyota Hilux Champ (Travo) ออกมาเจาะกลุ่มตลาดขนส่งเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ แต่ Revo ยังคงรักษาฐานลูกค้ากลุ่ม "กระบะไลฟ์สไตล์" และ "ครอบครัว" ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม เพราะมีออปชันความสะดวกสบายและระบบความปลอดภัยที่เหนือกว่า Champ ชัดเจน
- จุดเด่นสำคัญ ระบบช่วงล่าง Super Flex Suspension ในรุ่นยกสูงที่ปรับปรุงใหม่ให้ความนุ่มนวลใกล้เคียงรถเก๋งมากขึ้น แต่ยังคงความอึดถึกทนตามสไตล์กระบะ Toyota เป็นการแบ่งสัดส่วนการตลาดที่ลงตัว โดยให้ Champ รับบทสายลุยงานหนักราคาประหยัด และ Revo รับบทรถอเนกประสงค์ระดับพรีเมียม
- ราคาจำหน่ายปี 2025 รุ่นเริ่ม (Standard Cab) 624,000 บาทรุ่นท็อป (GR Sport 4x4) 1,499,000 บาท
อันดับ 3 Isuzu D-Max – ขวัญใจมหาชนตลอดกาล
Isuzu ยังคงรักษาตำแหน่งใน Top 3 ไว้อย่างเหนียวแน่น ด้วยยอดขายเฉลี่ยประมาณ 3,100 คัน/เดือน โดยเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าในต่างจังหวัดและกลุ่มธุรกิจขนส่ง
- รายละเอียดตัวรถ ความโดดเด่นของ D-Max ในปี 2025 คือการเปิดตัวเครื่องยนต์ใหม่ 2.2 MaxForce ที่มาเสริมทัพความแรงแต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ความประหยัดน้ำมัน พร้อมเทคโนโลยี ADAS เวอร์ชันล่าสุดที่มีกล้องหน้าคู่ตรวจจับวัตถุได้แม่นยำยิ่งขึ้น
- เสน่ห์ที่คนไทยรัก คือความเชื่อมั่นในบริการหลังการขายและ "ราคาขายต่อ" ที่ดีเยี่ยม รวมถึงการออกแบบหน้าตาที่ดุดัน โฉบเฉี่ยว ถูกใจสายแต่งรถกระบะในเมืองไทย โดยเฉพาะรุ่น X-Series ที่ยังคงทำยอดขายได้ดีในกลุ่มวัยรุ่นสร้างตัว
- ราคาจำหน่ายปี 2025 รุ่นเริ่ม (Spark ตอนเดียว) 577,000 บาทรุ่นท็อป (V-Cross 4x4 M A/T) 1,277,000 บาท
ที่มาของตัวเลขยอดขาย
"ที่มาของตัวเลขยอดขาย" ที่ทำให้รถทั้ง 3 รุ่นนี้ครองแชมป์ในปี 2025 ข้อมูลหลักๆ อ้างอิงมาจาก 3 แหล่งฐานข้อมูลสำคัญที่ใช้ชี้วัดในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ดังนี้
1. สถิติการจำหน่ายรถยนต์ภายในประเทศ (จากบริษัทผู้ผลิต)
นี่คือที่มาหลักที่เราเห็นตามหน้าข่าวเศรษฐกิจ เป็นการรวบรวมตัวเลขจาก สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และรายงานประจำเดือนของค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่าง โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ซึ่งจะคอยรายงานตัวเลขยอดขายแยกตามประเภทรถเป็นประจำทุกเดือน
- ทำไมถึงแม่นยำ เพราะเป็นตัวเลขที่รถถูกส่งออกจากดีลเลอร์ไปยังมือลูกค้าจริงๆ ทำให้เห็นภาพรวมว่าเดือนไหนรุ่นไหนมาแรง
2. ยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ (รย.1 และ รย.3) จากกรมการขนส่งทางบก
แหล่งข้อมูลนี้คือ "ความจริง" ที่เกิดขึ้นบนถนน เพราะรถทุกคันที่ขายได้ต้องไปจดทะเบียน
- รย.1 (รถยนต์นั่งส่วนบุคคล) คือที่มาของคะแนน Toyota Yaris ATIV ที่นำโด่งเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มรถเก๋ง
- รย.3 (รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล) คือที่มาของคะแนน Toyota Hilux Revo และ Isuzu D-Max ที่บดบี้กันในตลาดรถกระบะ
- ตัวเลขจากกรมการขนส่งฯ จะช่วยยืนยันว่ารถที่ค่ายรถบอกว่าขายดี มีคนเอาไปจดทะเบียนใช้งานจริงมากน้อยแค่ไหน
3. ข้อมูลจากสถาบันวิจัยการตลาดและยอดจองในงาน Big Events
ที่มาของยอดขายในช่วงไตรมาสต่างๆ ยังมาจากยอดจองในงานอีเวนต์ใหญ่ เช่น
- Bangkok International Motor Show (ช่วงต้นปี)
- Thailand International Motor Expo (ช่วงปลายปี) งานเหล่านี้คือตัวชี้วัดล่วงหน้าว่ารถรุ่นไหนจะมี "ยอดรอส่งมอบ" เท่าไหร่ ซึ่งในปี 2025 ยอดจองของ ATIV และ D-Max เครื่องยนต์ใหม่พุ่งสูงขึ้นอย่างมากจากงานเหล่านี้
บทสรุปและทิศทางตลาดรถยนต์ไทยส่งท้ายปี 2568
ปี 2025 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการยานยนต์ไทย เราเห็นได้ชัดว่า "พฤติกรรมคนไทยกำลังเปลี่ยนไป" จากที่เคยมองหาแต่รถกระบะเพื่อใช้งานอเนกประสงค์ มาเป็นการมองหารถที่ "ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต" มากขึ้น รถเก๋งและ SUV ขนาดเล็กอย่าง Toyota Yaris Cross จึงได้รับความนิยมพุ่งสูงขึ้นตามมาติดๆ
นอกจากนี้ การบุกตลาดของรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) จากค่ายจีน และรถ Hybrid (HEV) ที่เริ่มมีราคาเข้าใกล้รถน้ำมันมากขึ้น ได้กลายเป็นปัจจัยบีบให้เจ้าตลาดรถน้ำมันเดิมต้องอัดออปชันและทำราคาให้เข้าถึงง่ายขึ้นเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้
หากคุณกำลังมองหารถในปีนี้ คำแนะนำคือควรพิจารณารูปแบบการใช้งานเป็นหลัก หากเน้นใช้ในเมือง Yaris ATIV คือคำตอบที่คุ้มค่า แต่ถ้าต้องใช้งานหนัก ขนของ หรือออกต่างจังหวัดบ่อย การเลือก Revo หรือ D-Max ก็ยังเป็นทางเลือกที่มั่นคงและไว้วางใจได้มากในแง่ของการดูแลรักษาและราคาในอนาคต