Logo site Amarintv 34HD
อมรินทร์ทีวีแจกใหญ่ส่งท้ายปี ดูทั้งวันแจกทุกวันLogo Seagame2025Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ค้นความลับ ทำไมแมว ถึงชอบเปลี่ยนรถให้เป็นบ้าน เปิดสาเหตุและวิธีรับมือ

ค้นความลับ ทำไมแมว ถึงชอบเปลี่ยนรถให้เป็นบ้าน เปิดสาเหตุและวิธีรับมือ

23 ธ.ค. 68
10:00 น.
แชร์

เชื่อว่าคนรักรถหลายคนคงเคยเจอประสบการณ์ชวนปวดหัว ไม่ว่าจะเป็นรอยเท้าแมวบนหลังคา ขนแมวในห้องเครื่อง หรือหนักที่สุดคือเสียงร้องเมี๊ยวๆ ที่ดังมาจากใต้ซุ้มล้อในเวลาที่กำลังจะออกรถ พฤติกรรมเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และไม่ใช่แค่เพราะแมวอยากกวนใจคุณ แต่มันมีเหตุผลทางสัญชาตญาณและวิทยาศาสตร์รองรับอยู่เบื้องหลัง จะพาไปดูกันว่าทำไม "รถยนต์" ถึงเป็นแม่เหล็กดึงดูดเจ้าเหมียวได้ดีนัก

ห้องเครื่องคือ “เตาผิง” ชั้นเลิศ

สาเหตุอันดับหนึ่งโดยเฉพาะหลังจากที่คุณเพิ่งดับเครื่องยนต์ คือ ความอบอุ่น ครับ แมวเป็นสัตว์ที่ไวต่ออุณหภูมิและชอบหาที่ซุกตัวที่มีความร้อนสะสม ห้องเครื่องรถยนต์ที่เพิ่งใช้งานมาใหม่ๆ จะมีความอบอุ่นคงอยู่ได้นานหลายชั่วโมง ทำให้มันกลายเป็นที่นอนเกรดพรีเมียมในช่วงที่อากาศเย็นหรือคืนที่ฝนตก

ป้อมปราการที่ปลอดภัยจากศัตรู

ตามสัญชาตญาณ แมวเป็นทั้งผู้ล่าและผู้ถูกล่า พื้นที่ใต้ท้องรถ ซุ้มล้อ หรือภายในห้องเครื่อง มีลักษณะเป็น "พื้นที่ปิดล้อม" (Enclosed Space) ที่ทำให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยจากการถูกโจมตีโดยสุนัขหรือแมวเจ้าถิ่นตัวอื่น รถยนต์เปรียบเสมือนป้อมปราการที่มีหลังคาและผนังเหล็กคุ้มกันรอบด้าน

จุดยุทธศาสตร์ "ที่สูง" ของนักล่า

สำหรับแมวที่ชอบขึ้นไปนอนบนหลังคารถหรือฝากระโปรง นั่นเป็นเพราะสัญชาตญาณการครองพื้นที่ครับ การอยู่บนที่สูงช่วยให้พวกเขาสามารถมองเห็นทัศนียภาพรอบตัวได้กว้างไกล (High Vantage Point) ช่วยในการเฝ้าระวังภัยและมองหาเหยื่อไปพร้อมๆ กัน

กลิ่นที่คุ้นเคยและการตีตราจอง

รถยนต์มักจะมีกลิ่นยาง กลิ่นน้ำมัน หรือแม้แต่กลิ่นของเจ้าของรถที่แมวคุ้นเคย หากแมวตัวหนึ่งเริ่มเข้าไปนอนและทิ้งกลิ่น (Scent marking) ไว้ มันจะกลายเป็น "พื้นที่ส่วนตัว" ของมันทันที และนั่นจะดึงดูดให้มันกลับมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

สถิติเกี่ยวกับ "แมวและรถยนต์"

ข้อมูลสถิติเกี่ยวกับ "แมวและรถยนต์" มีแง่มุมที่น่าสนใจและขำขันในเชิงจิตวิทยาและพฤติกรรมสัตว์ครับ แม้จะไม่มีการเก็บสถิติระดับทางการว่าแมวชอบรถยี่ห้อไหนมากที่สุดในไทย แต่จากการรวบรวมข้อมูลสถิติและผลสำรวจจากต่างประเทศและข้อมูลจากบริษัทรถยนต์ พบสิ่งที่น่าสนใจดังนี้

ตำแหน่งยอดฮิต (โดย Nissan Japan)

นิสสัน มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น เคยทำการสำรวจและแชร์สถิติตำแหน่งที่แมวมักเข้าไปติดหรือแอบซ่อนตัวในรถมากที่สุด 5 อันดับ ดังนี้

  • อันดับ 1 ใต้ท้องรถ (พื้นที่บังลม บังแดด และเป็นบังเกอร์ที่ดี)
  • อันดับ 2 บนล้อรถ (เป็นมุมสงบ มีที่พิง และปลอดภัย)
  • อันดับ 3 บนฝากระโปรง (แหล่งรับไออุ่นชั้นดี)
  • อันดับ 4 บนหลังคา (จุดยุทธศาสตร์ที่มองเห็นวิวได้กว้างที่สุด)
  • อันดับ 5 ภายในห้องเครื่อง (อันตรายที่สุด แต่มิดชิดและอุ่นที่สุด)

ความสัมพันธ์ระหว่าง "ยี่ห้อรถ" กับ "เจ้าของแมว"

ผลการสำรวจจาก BestRide และ Car Talk ในอเมริกา พบข้อมูลเชิงสถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับรสนิยมของคนเลี้ยงแมว (ซึ่งมีผลให้แมวอยู่ใกล้รถยี่ห้อนั้นๆ มากขึ้น) ดังนี้

  • Subaru สถิติระบุว่า ยิ่งคนเลี้ยงแมวจำนวนมากขึ้นเท่าไหร่ มีแนวโน้มจะขับ Subaru มากขึ้นเท่านั้น จนกลายเป็นภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่คนรักแมวชื่นชอบ
  • Toyota และ Mazda เจ้าของรถสองยี่ห้อนี้มีสถิติการเลี้ยงแมวสูงกว่าค่าเฉลี่ยของคนทั่วไป
  • Hyundai, Volvo, Lincoln สถิติระบุว่าเจ้าของรถกลุ่มนี้มักจะ เลี้ยงสุนัข มากกว่าแมว

ความอึดและการเดินทางของ "แมวติดรถ" ในประเทศไทย

จากสถิติข่าวและข้อมูลกู้ภัยในประเทศไทย พบว่าแมวเป็นสัตว์ที่มีความอดทนสูงมากเมื่อติดอยู่ในรถ:

  • ระยะทาง เคยมีสถิติแมวเกาะเพลาหรือติดในห้องเครื่องเดินทางไปกับเจ้าของรถเป็นระยะทางกว่า 100 - 240 กิโลเมตร โดยที่ยังมีชีวิตรอด (แต่ส่วนใหญ่มักจะตกใจกลัวและไม่ยอมออกมาง่ายๆ)
  • การช่วยเหลือ กู้ภัยในไทยมักได้รับแจ้งเหตุ "แมวติดในห้องเครื่อง" บ่อยที่สุดในช่วง หน้าฝนและหน้าหนาว (ช่วงเดือน พฤศจิกายน - มกราคม) เนื่องจากแมวหนีความชื้นและหาความอบอุ่น

ทำไมต้องแคร์สถิตินี้?

ที่ญี่ปุ่น สถิติเหล่านี้ทำให้เกิดแคมเปญชื่อ "Knock on the Hood" (Neko Fun Fun) ซึ่งรณรงค์ให้คนขับรถ "เคาะฝากระโปรง" ก่อนสตาร์ท เพื่อลดสถิติการบาดเจ็บของแมวที่เข้าไปซ่อนตัวในห้องเครื่อง ซึ่งในญี่ปุ่นได้รับความร่วมมือจนกลายเป็นมารยาทปกติของคนขับรถไปแล้ว

วิธีป้องกันก่อนเกิดเหตุสลด

ในฐานะผู้ใช้รถ คุณควรมีนิสัย "Check before Start" ดังนี้

  • เคาะฝากระโปรง ก่อนขึ้นรถ ให้เคาะฝากระโปรงแรงๆ หรือกดแตรสั้นๆ เพื่อให้แมวที่หลับอยู่ตกใจและหนีออกมา
  • ใช้กลิ่นไล่ แมวไม่ชอบกลิ่นฉุน เช่น มะกรูด, พริกไทย หรือสเปรย์ไล่แมวสูตรธรรมชาติ ฉีดพ่นบริเวณรอบๆ ที่จอดรถ
  • ปิดช่องว่าง หากจอดรถในบ้านถาวร การหาตาข่ายมาปิดกั้นช่องว่างใต้ท้องรถก็ช่วยได้มาก

การที่แมวเข้าไปอยู่ในรถไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เป็นผลมาจาก ความต้องการพื้นฐานด้านความปลอดภัยและความอบอุ่น การเข้าใจพฤติกรรมนี้ไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องรถของคุณจากการถูกขีดข่วนหรือสายไฟขาด แต่ที่สำคัญที่สุดคือการ "รักษาชีวิต" ของเพื่อนร่วมโลกสี่ขาไม่ให้ต้องจบลงด้วยอุบัติเหตุที่คุณไม่ได้ตั้งใจ

แชร์
ค้นความลับ ทำไมแมว ถึงชอบเปลี่ยนรถให้เป็นบ้าน เปิดสาเหตุและวิธีรับมือ