ทางด่วนและทางพิเศษถูกออกแบบมาเพื่อการเดินทางด้วยความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้พื้นที่เหล่านี้กลายเป็นสถานที่อันตรายที่สุดสำหรับสิ่งมีชีวิตที่ไม่อาจหลบหลีกได้ เมื่อผู้ขับขี่พบสัตว์ตัวน้อยที่พลัดหลง เช่น สุนัข แมว หรือแม้กระทั่งสัตว์ป่าขนาดเล็ก ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นคือความสงสารและปรารถนาจะให้ความช่วยเหลือ แต่ในทางด่วนนั้น ทุกการตัดสินใจมีเดิมพันที่สูงลิ่ว นั่นคือ ชีวิตของผู้ขับขี่เอง, ผู้ใช้ทางคนอื่น, และชีวิตของสัตว์นั้นๆ
สถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนนี้ โดยให้ความสำคัญกับ ความปลอดภัยสูงสุด ตามกฎหมายและหลักปฏิบัติสากล ก่อนจะนำไปสู่ขั้นตอนการช่วยเหลือที่ถูกต้อง
เมื่อคุณพบสัตว์บนทางด่วน คุณมีทางเลือกหลัก 3 ทาง ซึ่งแต่ละทางมีผลกระทบที่แตกต่างกัน
นี่คือขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุดที่ผู้ขับขี่ทุกคนต้องปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
ทางเลือกนี้คือสิ่งที่ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และหน่วยงานทางหลวงแนะนำมากที่สุด เพราะเป็นการโอนความเสี่ยงทั้งหมดไปให้บุคลากรที่ได้รับการฝึกอบรมมาแล้ว
เจ้าหน้าที่จะส่งหน่วยกู้ภัยหรือเจ้าหน้าที่จราจรทางพิเศษ (Traffic Officer) เข้าไปดำเนินการ จับหรือต้อนสัตว์ เพื่อนำออกจากพื้นผิวจราจรและนำไปดูแลต่อที่จุดปลอดภัย
แม้ความปรารถนาจะช่วยเหลือสัตว์นั้นเป็นเรื่องที่น่ายกย่อง แต่การกระทำนี้บนทางด่วนมีความเสี่ยงสูงมากจนไม่ควรทำ
ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย | ความเสี่ยงด้านกฎหมาย |
อันตรายต่อชีวิต: การลงจากรถเพื่อเข้าหาสัตว์บนทางด่วนที่รถใช้ความเร็วสูง อาจทำให้เกิดการชนตัวเองหรือชนซ้ำซ้อนกับรถคันอื่นทันที | การจอดรถโดยไม่มีเหตุอันควร: ตามกฎหมายเกี่ยวกับการจราจรในทางพิเศษ (พ.ศ. 2555) ห้ามบุคคลใดหยุดหรือจอดรถในทางพิเศษ เว้นแต่รถขัดข้องหรืออุบัติเหตุ การฝ่าฝืนมีโทษปรับ ซึ่งการจอดเพื่อช่วยสัตว์ถือเป็นเหตุผลที่ไม่เพียงพอตามกฎหมาย |
สัตว์ตื่นตกใจ: สัตว์ที่พลัดหลงมักอยู่ในภาวะตื่นกลัว การเข้าหาอย่างกะทันหันอาจทำให้มันวิ่งหนีออกไปกลางถนนและถูกรถชน | กีดขวางการจราจร: การจอดรถหรือการเคลื่อนไหวที่ไม่คาดคิดอาจทำให้ผู้ใช้ทางคนอื่นต้องเบรกหรือหักหลบอย่างรุนแรง นำไปสู่อุบัติเหตุใหญ่ |
กรณีอยากนำไปเลี้ยง หากคุณแจ้งเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่สามารถช่วยสัตว์ตัวนั้นออกมาจากทางด่วนได้อย่างปลอดภัยแล้ว คุณสามารถสอบถามเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับขั้นตอนการรับเลี้ยงได้ ซึ่งมักจะต้องมีการตรวจสอบว่าเป็นสัตว์มีเจ้าของหรือไม่ก่อนที่จะสามารถรับไปดูแลได้
ความท้าทายทางจริยธรรมในการเผชิญหน้ากับสัตว์บนทางด่วนนั้นหนักหน่วง แต่ในฐานะผู้ขับขี่ ความรับผิดชอบสูงสุดของเราคือ ความปลอดภัยของผู้ใช้ทางทุกคน
หลักการปฏิบัติที่ปลอดภัยที่สุดคือ
จงเชื่อมั่นในระบบการทำงานของเจ้าหน้าที่ทางพิเศษ เพราะหน้าที่ของพวกเขาคือการดูแลความเรียบร้อยและปลอดภัยบนท้องถนน รวมถึงการจัดการกับสัตว์พลัดหลงด้วยความเมตตาตามหลักมนุษยธรรมอยู่แล้ว หากคุณอยากรับสัตว์ตัวนั้นไปเลี้ยงจริง ๆ ขั้นตอนที่ปลอดภัยที่สุดคือ แจ้ง > รอเจ้าหน้าที่จัดการ > ติดต่อขอรับเลี้ยงในภายหลัง ณ จุดที่ปลอดภัย