เคล็ดลับง่ายๆ ตรวจเช็กสภาพรถเบื้องต้น เตรียมพร้อมรถก่อนเทศกาลปีใหม่
ใกล้เข้ามาแล้วกับช่วงเวลาแห่งความสุขที่หลายคนรอคอย นั่นคือเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเป็นโอกาสที่ผู้คนส่วนใหญ่วางแผนเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือออกท่องเที่ยวพักผ่อนตามสถานที่ต่างๆ การเดินทางไกลในช่วงวันหยุดยาวนี้ ทำให้รถยนต์คู่ใจต้องทำงานหนักกว่าปกติหลายเท่าตัว เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น ปลอดภัย และถึงที่หมายอย่างสวัสดิภาพ การเตรียมความพร้อมของรถยนต์จึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ไม่ควรมองข้าม การตรวจเช็กสภาพรถด้วยตนเองเบื้องต้นก่อนออกเดินทาง ไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุหรือรถเสียกลางทางเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายจากการซ่อมฉุกเฉินที่ไม่คาดคิดในช่วงเทศกาลอันเร่งรีบนี้ การลงทุนเพียงเล็กน้อยในเรื่องเวลาและความใส่ใจในการสำรวจจุดสำคัญต่างๆ ของรถ ถือเป็นของขวัญแห่งความปลอดภัยที่ดีที่สุดที่คุณมอบให้ได้ทั้งตัวเองและคนที่คุณรักก่อนเริ่มต้นปีใหม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
การตรวจเช็กสภาพรถยนต์ด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอเป็นเรื่องพื้นฐานที่เจ้าของรถทุกคนควรทำ ไม่เพียงแต่ช่วยให้มั่นใจในความปลอดภัยขณะเดินทาง แต่ยังช่วยให้สามารถค้นพบและแก้ไขปัญหาก่อนที่ปัญหาเล็กน้อยจะลุกลามจนนำไปสู่ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่สูงขึ้น การดูแลรถยนต์เบื้องต้นไม่จำเป็นต้องอาศัยทักษะเฉพาะทางที่ซับซ้อน แต่เป็นการปฏิบัติที่เรียบง่ายและสามารถทำได้ด้วยตนเองก่อนการเดินทางหรือในวันหยุดสุดสัปดาห์
ยางรถยนต์
การเริ่มต้นตรวจเช็กควรเริ่มจากการสำรวจรอบคันและส่วนสำคัญของรถ เริ่มจาก ยางรถยนต์ ซึ่งเป็นส่วนเดียวของรถที่สัมผัสพื้นถนนโดยตรง เจ้าของรถควรตรวจสอบแรงดันลมยางให้เป็นไปตามค่าที่ผู้ผลิตกำหนด (มักระบุที่เสาประตูฝั่งคนขับหรือในคู่มือ) และอย่าลืมตรวจสอบยางอะไหล่ด้วย ในขณะเดียวกัน ควรสังเกตความลึกของดอกยาง หากดอกยางสึกหรอจนถึงขีดบอกความลึก (Tread Wear Indicator) แสดงว่าถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนยางใหม่ และต้องตรวจสอบสภาพแก้มยางเพื่อหารอยแตก รอยบวม หรือความเสียหายอื่นๆ ที่อาจนำไปสู่การระเบิดได้
เช็กของเหลว
ถัดมาคือการตรวจสอบ ระดับของเหลวสำคัญ ใต้ฝากระโปรงรถ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานของเครื่องยนต์ การตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องควรทำในขณะที่รถจอดอยู่บนพื้นราบและเครื่องยนต์ดับสนิท โดยใช้ก้านวัดน้ำมันเครื่องเพื่อดูว่าระดับน้ำมันอยู่ในช่วงที่เหมาะสมหรือไม่ หากน้ำมันพร่องควรเติมให้ถึงระดับที่กำหนด และควรสังเกตสีของน้ำมัน หากขุ่นดำมากอาจเป็นสัญญาณว่าควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแล้ว นอกจากน้ำมันเครื่องแล้ว การตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นในหม้อพักน้ำก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะน้ำหล่อเย็นมีหน้าที่ระบายความร้อนของเครื่องยนต์ การขาดน้ำหล่อเย็นอาจนำไปสู่ปัญหาเครื่องยนต์ร้อนจัดได้ และควรตรวจสอบระดับน้ำมันเบรก น้ำมันเกียร์ (ถ้ามีก้านวัด) และน้ำฉีดกระจกด้วย ซึ่งทุกส่วนควรอยู่ในระดับที่เหมาะสม
ระบบไฟส่องสว่าง
อีกส่วนที่ง่ายและสำคัญคือการตรวจสอบ ระบบไฟส่องสว่าง ทั้งหมดของรถ เพื่อให้รถมองเห็นและถูกมองเห็นในเวลากลางคืนหรือในสภาพอากาศไม่ดี ควรเปิดไฟหน้าทั้งไฟต่ำและไฟสูง ไฟเลี้ยวซ้ายขวา ไฟท้าย และไฟเบรก เพื่อดูว่าหลอดไฟทุกดวงทำงานปกติหรือไม่ หากพบหลอดไฟขาดควรเปลี่ยนทันที การเปลี่ยนหลอดไฟบางชนิดสามารถทำได้ด้วยตนเอง หากหลอดไฟเบรกเสียอาจทำให้เกิดอันตรายจากการชนท้ายได้ และอย่าลืมตรวจสอบความสะอาดของเลนส์ไฟหน้าและไฟท้ายด้วย
ใบปัดน้ำฝนและแบตเตอรี่
สุดท้ายนี้ การตรวจสอบ ระบบปัดน้ำฝนและแบตเตอรี่ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ควรทดสอบการทำงานของที่ปัดน้ำฝนว่าสามารถปัดทำความสะอาดกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ หากยางปัดน้ำฝนเริ่มแข็งหรือมีรอยแตก ควรเปลี่ยนใหม่เพื่อวิสัยทัศน์การขับขี่ที่ดี ส่วนการตรวจสอบแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ทั่วไป ควรสังเกตบริเวณขั้วแบตเตอรี่ว่ามีคราบขี้เกลือเกาะหรือไม่ หากมีให้ทำความสะอาดออก และสำหรับแบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่น ควรตรวจสอบระดับน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่กำหนดเสมอ
การดูแลรถยนต์ด้วยการตรวจเช็กเบื้องต้นเหล่านี้เป็นกุญแจสำคัญในการรักษาประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และมูลค่าของรถยนต์ การลงทุนเพียงเล็กน้อยในเรื่องเวลาและความใส่ใจ จะช่วยให้รถยนต์คู่ใจของคุณพร้อมใช้งานในทุกเส้นทางและลดความเสี่ยงของการเกิดปัญหาระหว่างการเดินทางได้เป็นอย่างดี
