Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ถุงลมนิรภัย ไม่ได้มีแค่ตรงพวงมาลัย ปกป้องทุกทิศทางเพื่อชีวิตที่ปลอดภัย

ถุงลมนิรภัย ไม่ได้มีแค่ตรงพวงมาลัย ปกป้องทุกทิศทางเพื่อชีวิตที่ปลอดภัย

20 มิ.ย. 68
12:00 น.
แชร์

ในโลกของยานยนต์ยุคปัจจุบัน ถุงลมนิรภัย (Airbag) คือหนึ่งในระบบความปลอดภัยที่สำคัญที่สุด ซึ่งได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้การปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารสูงสุดในกรณีเกิดอุบัติเหตุ หลายคนอาจคุ้นเคยกับถุงลมนิรภัยที่พุ่งออกมาจากพวงมาลัยหรือคอนโซลหน้าเมื่อเกิดการชนด้านหน้า แต่ในความเป็นจริงแล้ว เทคโนโลยีถุงลมนิรภัยก้าวล้ำไปไกลกว่านั้นมาก มีการติดตั้งถุงลมนิรภัยในตำแหน่งต่างๆ ทั่วทั้งห้องโดยสาร เพื่อลดความรุนแรงของการบาดเจ็บจากแรงกระแทกจากทิศทางต่างๆ ไปดูหลักการทำงาน ประเภทของถุงลมนิรภัย ตำแหน่งการติดตั้ง ประโยชน์ที่ได้รับ และข้อควรระวังที่สำคัญ เพื่อให้คุณเข้าใจระบบความปลอดภัยนี้ได้อย่างถ่องแท้

ถุงลมนิรภัยคืออะไร?

ถุงลมนิรภัยคือ อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยแบบพองตัว ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับและลดแรงกระแทกให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารในเสี้ยววินาทีที่เกิดการชน หลักการทำงานของถุงลมนิรภัยนั้นอาศัยการตรวจจับแรงกระแทกอย่างรวดเร็ว โดยอาศัย เซ็นเซอร์ตรวจจับการชน (Crash Sensors) ที่ติดตั้งอยู่บริเวณต่างๆ ของรถ เมื่อเซ็นเซอร์ตรวจพบแรงกระแทกที่รุนแรงเกินกว่าที่กำหนด จะมีการส่งสัญญาณไปยัง หน่วยควบคุมถุงลมนิรภัย (Airbag Control Unit - ACU) หรือบางครั้งเรียกว่า โมดูลควบคุมระบบเสริมความปลอดภัย (Sensing and Diagnostic Module - SDM)

ACU จะประมวลผลข้อมูลจากเซ็นเซอร์หลายตัวเพื่อยืนยันว่าการชนนั้นรุนแรงพอที่จะต้องทำงานหรือไม่ หากยืนยันแล้ว ACU จะส่งกระแสไฟฟ้าไปยัง ตัวจุดระเบิด (Igniter) ซึ่งจะทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีอย่างรวดเร็วเพื่อสร้างก๊าซไนโตรเจน (ส่วนใหญ่) อย่างมหาศาลภายในเวลาเพียง 20-60 มิลลิวินาที (เร็วกว่าการกระพริบตา) ก๊าซที่เกิดขึ้นจะทำให้ ถุงลม (Airbag Cushion) ซึ่งพับเก็บอยู่ในส่วนต่างๆ ของรถยนต์ พองตัวออกมาอย่างรวดเร็วเพื่อรองรับร่างกายของผู้โดยสารก่อนที่จะกระแทกกับส่วนต่างๆ ของรถ จากนั้นถุงลมจะยุบตัวลงอย่างรวดเร็วเช่นกันเพื่อไม่ให้ขัดขวางการเคลื่อนไหวของผู้โดยสารหลังจากแรงกระแทกครั้งแรกผ่านพ้นไป

ถุงลมนิรภัยอยู่จุดไหนบ้างในรถยนต์? (ประเภทและตำแหน่ง)

รถยนต์รุ่นใหม่ๆ โดยเฉพาะรุ่นกลางถึงสูง มักจะติดตั้งถุงลมนิรภัยหลายตำแหน่งเพื่อการปกป้องที่ครอบคลุม ซึ่งสามารถแบ่งประเภทหลักๆ ได้ดังนี้

  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า (Front Airbags) ถุงลมนิรภัยสำหรับผู้ขับขี่ ติดตั้งอยู่ในพวงมาลัย เมื่อทำงานจะพุ่งออกมาเพื่อรองรับศีรษะและหน้าอกของผู้ขับขี่ ถุงลมนิรภัยสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า ติดตั้งอยู่ในแผงคอนโซลหน้า เมื่อทำงานจะพุ่งออกมาเพื่อรองรับศีรษะและหน้าอกของผู้โดยสารด้านหน้า ประโยชน์ ลดความรุนแรงของการบาดเจ็บที่ศีรษะ ใบหน้า และหน้าอกจากแรงกระแทกด้านหน้า
  • ถุงลมนิรภัยด้านข้าง (Side Airbags) ถุงลมนิรภัยด้านข้างของเบาะ (Seat-Mounted Side Airbags) ติดตั้งอยู่ด้านข้างของพนักพิงเบาะนั่งฝั่งประตู เมื่อทำงานจะพองตัวออกมาเพื่อป้องกันลำตัวและกระดูกเชิงกรานของผู้โดยสารจากแรงกระแทกด้านข้าง มักพบในเบาะคู่หน้า และบางครั้งก็มีในเบาะหลังด้วย ถุงลมนิรภัยม่านนิรภัย (Curtain Airbags หรือ Side Curtain Airbags) ติดตั้งอยู่ตามแนวด้านบนของโครงหลังคาเหนือหน้าต่าง เมื่อทำงานจะพองตัวลงมาเหมือนม่านยาวๆ คลุมตั้งแต่เสา A ไปจนถึงเสา C หรือ D เพื่อป้องกันศีรษะของผู้โดยสารทุกแถว (ทั้งหน้าและหลัง) จากแรงกระแทกด้านข้าง และป้องกันการกระเด็นออกนอกรถ รวมถึงป้องกันเศษกระจก ประโยชน์ ลดความรุนแรงของการบาดเจ็บที่ลำตัว ศีรษะ และกระดูกเชิงกรานจากการชนด้านข้าง หรือการพลิกคว่ำ
  • ถุงลมนิรภัยหัวเข่า (Knee Airbags) ตำแหน่ง ติดตั้งอยู่ใต้แผงคอนโซลด้านล่างพวงมาลัยสำหรับผู้ขับขี่ และใต้ช่องเก็บของสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า ประโยชน์ ช่วยลดการบาดเจ็บที่ขาและหัวเข่าจากการกระแทกกับแผงหน้าปัด และช่วยยึดร่างกายส่วนล่างไว้กับที่ ซึ่งส่งผลให้การทำงานของเข็มขัดนิรภัยและถุงลมนิรภัยส่วนอื่นๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ถุงลมนิรภัยกลาง (Center Airbags) ตำแหน่ง ติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลาง หรือบางครั้งก็ติดตั้งอยู่ด้านข้างของพนักพิงเบาะคนขับ (ฝั่งเดียวกับเกียร์) ประโยชน์ ออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าชนกันเองในกรณีที่เกิดการชนด้านข้างที่รุนแรง หรือการพลิกคว่ำ
  • ถุงลมนิรภัยสำหรับเบาะหลัง (Rear Airbags) รถยนต์บางรุ่น โดยเฉพาะรุ่นพรีเมียม เริ่มมีการติดตั้งถุงลมนิรภัยสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง โดยอาจเป็นแบบที่พองตัวออกมาจากด้านหลังเบาะหน้า หรือจากคอนโซลกลางด้านหลัง เพื่อปกป้องผู้โดยสารเบาะหลังโดยเฉพาะ
  • ถุงลมนิรภัยอื่นๆ (เฉพาะบางรุ่น) ถุงลมนิรภัยสำหรับเท้า (Footwell Airbag) พบในรถยนต์บางรุ่น เพื่อปกป้องเท้าและข้อเท้า ถุงลมนิรภัยที่เข็มขัดนิรภัย (Inflatable Seatbelts) เป็นเข็มขัดนิรภัยที่พองตัวได้เมื่อเกิดการชน เพื่อกระจายแรงกระแทกบนร่างกายให้กว้างขึ้น ลดแรงกดทับ ถุงลมนิรภัยภายนอก (External Airbags) เป็นแนวคิดที่ยังอยู่ในช่วงการพัฒนา โดยมีจุดประสงค์เพื่อพองตัวออกมาจากด้านนอกรถก่อนการชน เพื่อลดแรงกระแทกที่จะส่งผลต่อตัวรถและผู้โดยสาร

ประโยชน์ของถุงลมนิรภัย

ถุงลมนิรภัยมีประโยชน์อย่างมหาศาลในการลดความรุนแรงของการบาดเจ็บและช่วยชีวิตผู้คนในกรณีเกิดอุบัติเหตุ

  • ลดแรงกระแทก ถุงลมนิรภัยจะรองรับร่างกายของผู้โดยสารในเสี้ยววินาทีของการชน ช่วยลดแรงกระแทกที่ศีรษะ ใบหน้า หน้าอก และส่วนอื่นๆ ของร่างกายโดยตรงกับชิ้นส่วนภายในรถ
  • กระจายแรง เมื่อถุงลมพองตัว จะช่วยกระจายแรงกระแทกออกไปในพื้นที่ที่กว้างขึ้นบนร่างกาย ลดความรุนแรงของแรงกดทับในจุดเดียว
  • ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บรุนแรงถึงชีวิต เป็นการเสริมการทำงานของเข็มขัดนิรภัย ถุงลมนิรภัยจะช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายพุ่งไปข้างหน้าหรือด้านข้างอย่างรุนแรง ซึ่งสามารถช่วยชีวิตหรือลดการบาดเจ็บสาหัสได้
  • ปกป้องจากเศษกระจกและวัตถุอันตราย โดยเฉพาะม่านนิรภัยจะช่วยป้องกันศีรษะจากเศษกระจกที่แตก หรือวัตถุอื่นๆ ที่อาจเข้ามาในห้องโดยสารขณะเกิดการชน

โทษและข้อควรระวังของถุงลมนิรภัย

แม้จะมีประโยชน์มหาศาล แต่ถุงลมนิรภัยก็มีข้อจำกัดและข้อควรระวังที่ผู้ใช้งานรถยนต์ควรรู้

  • ทำงานร่วมกับเข็มขัดนิรภัยเท่านั้น ถุงลมนิรภัยถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับ เข็มขัดนิรภัย (Seatbelt) อย่างเต็มประสิทธิภาพ หากไม่คาดเข็มขัดนิรภัย การพองตัวของถุงลมนิรภัยอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรง หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้ เนื่องจากร่างกายจะพุ่งเข้าชนกับถุงลมที่กำลังพองตัวด้วยความเร็วสูง
  • ความรุนแรงของการพองตัว การพองตัวของถุงลมนิรภัยนั้นรวดเร็วและมีแรงดันสูงมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บเล็กน้อย เช่น รอยฟกช้ำ แผลถลอก หรือผิวหนังไหม้จากความร้อน (จากก๊าซ) ได้
  • อันตรายต่อเด็กเล็ก เด็กเล็กและทารกไม่ควรนั่งเบาะหน้าที่มีถุงลมนิรภัย เนื่องจากแรงพองตัวของถุงลมสามารถทำให้เกิดการบาดเจ็บสาหัสถึงชีวิตได้ ควรให้เด็กนั่งใน คาร์ซีท (Child Safety Seat) ที่เบาะหลังเสมอ
  • อันตรายต่อผู้ที่มีรูปร่างเล็กหรือตำแหน่งการนั่งไม่ถูกต้อง ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารที่มีรูปร่างเล็กมาก หรือมีท่านั่งที่ไม่ถูกต้อง (เช่น นั่งใกล้พวงมาลัยหรือคอนโซลมากเกินไป) อาจมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บจากถุงลม
  • การชนที่ไม่รุนแรงพอ ถุงลมนิรภัยจะไม่ทำงานในการชนที่ไม่รุนแรงพอ หรือการชนจากด้านหลัง เนื่องจากไม่ได้ออกแบบมาเพื่อปกป้องในสถานการณ์เหล่านั้น
  • การดูแลรักษา ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบระบบถุงลมนิรภัยตามระยะเวลาที่กำหนด หากมีไฟเตือนถุงลมนิรภัยปรากฏขึ้นบนหน้าปัด ควรนำรถเข้าตรวจสอบทันที
  • การเปลี่ยนถุงลมนิรภัยหลังการใช้งาน เมื่อถุงลมนิรภัยทำงานแล้ว จะต้องเปลี่ยนชุดถุงลมและโมดูลการทำงานใหม่ทั้งหมด ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง

ถุงลมนิรภัยคือเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ช่วยยกระดับการปกป้องผู้โดยสารในรถยนต์ได้อย่างมหาศาล จากเดิมที่มีเพียงถุงลมนิรภัยคู่หน้า ปัจจุบันรถยนต์หลายรุ่นมีการติดตั้งถุงลมนิรภัยครอบคลุมทั่วทั้งห้องโดยสาร ไม่ว่าจะเป็นด้านข้าง ม่านนิรภัย หรือแม้กระทั่งถุงลมนิรภัยหัวเข่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจว่า ถุงลมนิรภัยทำงานควบคู่กับเข็มขัดนิรภัยเสมอ หากไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ถุงลมนิรภัยอาจกลายเป็นอันตรายแทนที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิต

การรู้ถึงตำแหน่งการทำงาน ประโยชน์ และข้อควรระวังของถุงลมนิรภัยจะช่วยให้เราใช้ประโยชน์จากระบบความปลอดภัยนี้ได้อย่างเต็มที่ และเพิ่มความมั่นใจในการเดินทางมากยิ่งขึ้น

แชร์
ถุงลมนิรภัย ไม่ได้มีแค่ตรงพวงมาลัย ปกป้องทุกทิศทางเพื่อชีวิตที่ปลอดภัย