สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไกล ไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานาน หรือมีรถหลายคันจนต้องพักจอดคันใดคันหนึ่ง การปล่อยรถทิ้งไว้เฉยๆ โดยไม่ดูแล อาจนำมาซึ่งปัญหาจุกจิกกวนใจเมื่อถึงคราวต้องใช้งานอีกครั้ง ตั้งแต่แบตเตอรี่หมด ยางแบน ไปจนถึงความเสียหายต่อระบบต่างๆ ของรถ การดูแลรถยนต์อย่างถูกวิธีในช่วงพักจอดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้รถของคุณยังคงอยู่ในสภาพดี พร้อมกลับมาโลดแล่นบนท้องถนนได้อย่างราบรื่น ไปดูขั้นตอนและสิ่งที่ต้องใส่ใจในการดูแลรถยนต์เมื่อต้องจอดทิ้งไว้นาน ๆ
หัวใจสำคัญของการดูแลรถเมื่อจอดนาน ป้องกันการเสื่อมสภาพและรักษาการทำงานของระบบต่างๆ
เป้าหมายหลักของการดูแลรถที่จอดทิ้งไว้นาน ๆ คือการ ป้องกันการเสื่อมสภาพ ของชิ้นส่วนต่างๆ อันเนื่องมาจากการไม่ได้ใช้งาน และ รักษาการทำงานของระบบ ให้ยังคงปกติเมื่อกลับมาใช้งานอีกครั้ง ลองจินตนาการว่ารถของคุณก็เหมือนนักกีฬาที่ต้องพักฟื้น หากปล่อยปละละเลย ร่างกาย (หรือชิ้นส่วนรถยนต์) ก็จะอ่อนแอและพร้อมที่จะเกิดปัญหาได้ง่าย
เลือกทำเลที่ตั้ง ปัจจัยแรกที่มองข้ามไม่ได้
สถานที่จอดรถมีผลอย่างมากต่อสภาพรถยนต์ในระยะยาว
- จอดในที่ร่ม แสงแดดและความร้อนเป็นศัตรูตัวฉกาจของสีรถ ชิ้นส่วนพลาสติก และยาง การจอดรถในที่ร่มจะช่วยลดความเสียหายจากรังสี UV และความร้อนสะสมภายในรถได้อย่างมาก หากไม่มีโรงจอดรถ ลองหาที่จอดใต้ชายคา หรือใช้ผ้าคลุมรถคุณภาพดี
- หลีกเลี่ยงใต้ต้นไม้ แม้ร่มเงาของต้นไม้จะดูดี แต่ยางไม้ ขี้นก และเศษใบไม้ที่ร่วงหล่นอาจสร้างความเสียหายให้กับสีรถและอุดตันช่องระบายน้ำต่างๆ
- อากาศถ่ายเท การจอดในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกจะช่วยลดความชื้นสะสมภายในรถ ซึ่งเป็นสาเหตุของเชื้อราและกลิ่นอับ
ระบบแบตเตอรี่หัวใจของรถ
แบตเตอรี่คือแหล่งพลังงานสำคัญ หากปล่อยทิ้งไว้นานโดยไม่มีการชาร์จไฟ อาจทำให้แบตเตอรี่หมดและเสื่อมสภาพ
- ถอดขั้วแบตเตอรี่ หากคาดว่าจะจอดรถทิ้งไว้นานเกิน 1 เดือน การถอดขั้วแบตเตอรี่ออก (เริ่มจากขั้วลบก่อนเสมอ) เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการคายประจุ หากไม่แน่ใจ ควรถ่ายรูปตำแหน่งขั้วก่อนถอดเพื่อป้องกันการต่อผิดพลาด
- สตาร์ทเครื่องยนต์เป็นระยะ หากไม่สะดวกถอดขั้วแบตเตอรี่ ควรสตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ทุกๆ 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ระบบชาร์จไฟของรถทำงานและเติมพลังงานให้กับแบตเตอรี่ การทำเช่นนี้ยังช่วยหล่อลื่นเครื่องยนต์และป้องกันการจับตัวของน้ำมันได้อีกด้วย
- ใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่แบบรักษาแรงดัน (Battery Tender) อุปกรณ์นี้จะช่วยรักษาระดับแรงดันไฟในแบตเตอรี่ให้คงที่ ทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น
ยางรถยนต์เพื่อนร่วมทางที่ต้องใส่ใจ
การจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ โดยไม่ขยับ อาจทำให้ยางรถยนต์เสียรูปทรงและเกิดรอยแบน (Flat Spot)
- เติมลมยางให้สูงกว่าปกติ เติมลมยางให้สูงกว่าแรงดันปกติที่แนะนำประมาณ 3-5 PSI เพื่อช่วยรักษารูปทรงของยางและชดเชยการรั่วซึมของลมยางตามธรรมชาติ
- ขยับรถเป็นระยะ หากสามารถทำได้ ควรขยับรถไปข้างหน้าหรือข้างหลังเล็กน้อยทุกๆ 2-3 สัปดาห์ เพื่อเปลี่ยนจุดสัมผัสของยางกับพื้น
- ใช้แม่แรงยกรถ หากต้องจอดรถทิ้งไว้นานมาก ๆ และไม่มีใครสามารถขยับรถได้ การใช้แม่แรงสามขาเพื่อยกรถให้ล้อลอยพ้นพื้นเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันยางเสียรูปทรง
ของเหลวสำคัญต่างๆ หล่อเลี้ยงชีวิตรถ
ของเหลวในรถยนต์มีบทบาทสำคัญในการทำงานของระบบต่างๆ การปล่อยทิ้งไว้นานอาจทำให้ของเหลวเสื่อมสภาพ
- ตรวจสอบระดับของเหลว ก่อนจอดรถ ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง น้ำหล่อเย็น น้ำมันเบรก และน้ำมันพาวเวอร์ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม หากระดับต่ำกว่าปกติ ควรเติมให้เรียบร้อย
- พิจารณาการเปลี่ยนถ่าย หากถึงกำหนดเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือของเหลวอื่นๆ ตามระยะเวลาหรือระยะทาง ควรดำเนินการเปลี่ยนถ่ายก่อนจอดรถทิ้งไว้ เพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกและความชื้นในของเหลวเก่า
ระบบเบรกการป้องกัน
การดึงเบรกมือทิ้งไว้นาน ๆ อาจทำให้ผ้าเบรกติดกับจานเบรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพอากาศชื้น
- หลีกเลี่ยงการดึงเบรกมือ (ถ้าเป็นไปได้) หากจอดรถในพื้นที่ราบ ควรเข้าเกียร์ P สำหรับเกียร์อัตโนมัติ หรือเข้าเกียร์ 1 หรือเกียร์ถอยหลังสำหรับเกียร์ธรรมดา แทนการดึงเบรกมือค้างไว้ หากจำเป็นต้องใช้เบรกมือ ควรปลดออกเป็นระยะ
- ใช้ตัวล็อกล้อ หากต้องการความปลอดภัยเพิ่มเติมในการจอดรถบนทางลาดชัน อาจพิจารณาใช้ตัวล็อกล้อแทนการดึงเบรกมือค้างไว้ตลอดเวลา
สุขอนามัยภายใน ป้องกันเชื้อราและกลิ่นอับ
การปล่อยให้ภายในรถสกปรกอับชื้นเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดเชื้อราและกลิ่นไม่พึงประสงค์
- ทำความสะอาดภายในรถ ก่อนจอดรถ ควรทำความสะอาดภายในให้เรียบร้อย เก็บขยะ เศษอาหาร และสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกไป
- เปิดช่องระบายอากาศเล็กน้อย: หากจอดในที่ปลอดภัย อาจเปิดกระจกหน้าต่างหรือช่องระบายอากาศไว้เล็กน้อย เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ลดความชื้นสะสม
- ใช้ผลิตภัณฑ์ดูดความชื้น วางผลิตภัณฑ์ดูดความชื้นไว้ในรถเพื่อช่วยลดความชื้น
ดูแลสีรถและชิ้นส่วนเกราะป้องกันภายนอก
การปกป้องภายนอกรถจะช่วยรักษาความสวยงามและป้องกันความเสียหายจากสภาพแวดล้อม
- ล้างรถให้สะอาด ล้างรถให้สะอาดและเช็ดให้แห้งก่อนจอด เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกที่อาจกัดกร่อนสีรถ
- เคลือบแว็กซ์ การเคลือบแว็กซ์จะช่วยปกป้องสีรถจากแสงแดดและรอยขีดข่วนเล็กน้อย
- ปิดช่องต่างๆ ตรวจสอบและปิดช่องต่างๆ ที่อาจเป็นทางเข้าของสัตว์หรือแมลง
ป้องกันแขกที่ไม่ได้รับเชิญ สัตว์และแมลง
หนู แมลง หรือสัตว์เล็กๆ อาจเข้ามาอาศัยอยู่ในรถที่จอดทิ้งไว้นาน
- วางลูกเหม็นหรือสเปรย์กันสัตว์ การวางลูกเหม็นหรือฉีดสเปรย์กันสัตว์ในบริเวณที่อาจเป็นทางเข้า จะช่วยป้องกันไม่ให้สัตว์เหล่านี้เข้ามาทำรัง
- อุดรูต่างๆ ตรวจสอบและอุดรูหรือช่องว่างที่อาจเป็นทางเข้าของสัตว์
เมื่อถึงเวลาปลุกรถให้ตื่น
เมื่อถึงเวลาที่คุณต้องกลับมาใช้งานรถอีกครั้ง อย่าเพิ่งรีบร้อนสตาร์ทเครื่องยนต์ ควรตรวจสอบสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้ก่อน
- ตรวจสอบระดับของเหลว เช็คระดับน้ำมันเครื่อง น้ำหล่อเย็น น้ำมันเบรก และน้ำมันพาวเวอร์อีกครั้ง
- ตรวจเช็คลมยาง ปล่อยลมยางกลับมาในระดับแรงดันปกติที่แนะนำ
- ตรวจสอบแบตเตอรี่ หากถอดขั้วแบตเตอรี่ไว้ ให้ต่อกลับอย่างระมัดระวัง หากสงสัยว่าแบตเตอรี่อ่อน ควรชาร์จไฟก่อนสตาร์ท
- ตรวจระบบเบรก ทดลองเหยียบเบรกเพื่อให้แน่ใจว่าทำงานปกติ
- สตาร์ทเครื่องยนต์ สตาร์ทเครื่องยนต์และฟังเสียงผิดปกติ หากมีเสียงดังหรืออาการแปลกๆ ควรรีบนำรถไปตรวจสอบโดยช่างผู้ชำนาญ
การจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล หากคุณใส่ใจดูแลรถยนต์ตามคำแนะนำข้างต้น การลงทุนเวลาและความใส่ใจเพียงเล็กน้อยก่อนและหลังการจอด จะช่วยรักษาสภาพรถของคุณให้พร้อมใช้งานในทุกสถานการณ์ ลดความเสี่ยงของปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่ไม่จำเป็น เพียงเท่านี้ รถยนต์ที่คุณรักก็จะยังคงเป็นเพื่อนคู่ใจที่พร้อมพาคุณไปทุกที่ที่คุณต้องการได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย