ในวันที่สายฝนโปรยปรายต่อเนื่อง การดูแลรักษารถยนต์ของเราเป็นพิเศษจึงสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่เพื่อความสวยงามภายนอกเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการรักษาประสิทธิภาพการทำงาน และป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากความชื้นและคราบสกปรกที่มาพร้อมกับสายฝน เคล็ดลับง่ายๆ ที่คุณสามารถลงมือดูแลรถยนต์ด้วยตัวเองได้ แม้ในวันที่ฝนยังคงตกอยู่ เพื่อให้รถยนต์ของคุณพร้อมลุยทุกสถานการณ์และคงสภาพที่ดีไปอีกนาน
ทัศนวิสัยต้องมาอันดับแรก ดูแลกระจกและใบปัดน้ำฝนให้ใสเคลียร์
ฝนตกหนักสิ่งที่สำคัญที่สุดคือทัศนวิสัยในการขับขี่ การดูแลกระจกและใบปัดน้ำฝนจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
- ทำความสะอาดกระจกอย่างถูกวิธี ขณะฝนตก หากทัศนวิสัยไม่ดี ให้ใช้ที่ปัดน้ำฝนอย่างเหมาะสม ปรับระดับความเร็วตามปริมาณน้ำฝน หากมีคราบสกปรกฝังแน่น ลองฉีดน้ำยาฉีดกระจกเพื่อช่วยชะล้างหลังฝนหยุด (หรือระหว่างฝนเบา) ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์สะอาดเช็ดคราบน้ำและสิ่งสกปรกออกจากกระจกทั้งด้านนอกและด้านใน การเช็ดด้านในจะช่วยลดปัญหาไอน้ำเกาะได้ใช้น้ำยาเช็ดกระจกคุณภาพดี เลือกน้ำยาเช็ดกระจกสำหรับรถยนต์โดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยขจัดคราบต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่ทิ้งคราบเคลือบกระจก (Rain Repellent) ผลิตภัณฑ์เคลือบกระจกจะช่วยให้น้ำฝนเกาะตัวเป็นเม็ดและไหลลงได้ง่าย ทำให้ทัศนวิสัยดีขึ้นอย่างชัดเจน ควรลงผลิตภัณฑ์ตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์
- ดูแลใบปัดน้ำฝน ตรวจสอบสภาพใบปัด สังเกตว่ายางปัดน้ำฝนยังเรียบสนิทกับกระจกหรือไม่ มีรอยแตก ขาด หรือแข็งกระด้างหรือไม่ หากพบความผิดปกติ ควรรีบเปลี่ยนใหม่ทำความสะอาดใบปัด ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดทำความสะอาดใบปัดน้ำฝนเป็นประจำ เพื่อกำจัดฝุ่นและคราบสกปรกที่อาจทำให้ประสิทธิภาพในการปัดลดลงเติมน้ำยาฉีดกระจก ตรวจสอบระดับน้ำยาฉีดกระจกและเติมให้เต็มอยู่เสมอ เลือกน้ำยาที่มีส่วนผสมของสารทำความสะอาดเพื่อช่วยชะล้างสิ่งสกปรก
ป้องกันความชื้นและกลิ่นอับในห้องโดยสาร สูดอากาศบริสุทธิ์แม้ในวันฝนพรำ
ความชื้นจากเสื้อผ้าที่เปียก ร่ม หรือแม้แต่ความชื้นในอากาศที่สูงขึ้น อาจทำให้ภายในรถมีกลิ่นอับและเป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา
- นำสิ่งของเปียกออกจากรถทันที หากเสื้อผ้าหรือร่มเปียกฝน อย่าวางทิ้งไว้ในรถเป็นเวลานาน ควรนำออกไปผึ่งให้แห้งโดยเร็วที่สุด
- ใช้ผ้ายางปูพื้น ผ้ายางจะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำหรือโคลนจากรองเท้าซึมลงพรม ทำให้ทำความสะอาดได้ง่ายกว่า
- ทำความสะอาดผ้ายางปูพื้นเป็นประจำ นำผ้ายางออกมาล้างและตากให้แห้ง เพื่อป้องกันการสะสมของความชื้นและสิ่งสกปรก
- ใช้ผลิตภัณฑ์ดูดความชื้น วางผลิตภัณฑ์ดูดความชื้น เช่น ซิลิกาเจล หรือถ่านไม้ไผ่ ไว้ในรถ เพื่อช่วยดูดซับความชื้นส่วนเกิน
- เปิดระบายอากาศ หากฝนไม่ตกหนักมาก ลองแง้มกระจกเล็กน้อยเพื่อระบายอากาศภายในรถ ช่วยลดความชื้นและกลิ่นอับ
- ใช้สเปรย์ปรับอากาศ เลือกสเปรย์ปรับอากาศสำหรับรถยนต์ที่มีกลิ่นหอมสดชื่น เพื่อช่วยดับกลิ่นอับ
ดูแลรักษาส่วนประกอบภายนอก ปกป้องสีรถและป้องกันสนิม
น้ำฝนที่มาพร้อมกับฝุ่นละอองและสิ่งสกปรก อาจทำลายสีรถและก่อให้เกิดสนิมได้
- ล้างรถเมื่อมีโอกาส หากฝนหยุดตก หรือมีช่วงเวลาที่ฝนเบาลง ควรล้างรถเพื่อกำจัดคราบสกปรกและน้ำฝนที่อาจมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ทำลายสีรถ
- เช็ดรถให้แห้ง หลังล้างรถ ควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์สะอาดเช็ดรถให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันคราบน้ำเกาะและลดความเสี่ยงของการเกิดสนิม
- เคลือบสีรถ (Waxing หรือ Sealing) การเคลือบสีรถจะช่วยสร้างชั้นป้องกันบนพื้นผิวสี ทำให้สิ่งสกปรกเกาะติดยากขึ้น และช่วยรักษาสีรถให้เงางาม
- ดูแลขอบยางประตูและหน้าต่าง ตรวจสอบขอบยางว่ายังอยู่ในสภาพดีหรือไม่ หากพบรอยแตกหรือเสื่อมสภาพ ควรรีบเปลี่ยนใหม่เพื่อป้องกันน้ำรั่วซึม
- ทำความสะอาดช่องระบายน้ำ ตรวจสอบและทำความสะอาดช่องระบายน้ำบริเวณต่างๆ ของรถ เช่น บริเวณใต้กระจกบังลมหน้าและหลัง เพื่อป้องกันการอุดตันของเศษใบไม้และสิ่งสกปรก
ตรวจสอบและดูแลส่วนประกอบสำคัญอื่น
- ระดับน้ำในระบบต่างๆ ตรวจสอบระดับน้ำในหม้อพักน้ำ น้ำล้างกระจก และน้ำมันเบรก ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
- ระบบไฟส่องสว่าง ตรวจสอบไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว และไฟตัดหมอก ให้ทำงานเป็นปกติ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
- ยางรถยนต์ ตรวจสอบแรงดันลมยางให้เหมาะสม และสังเกตดอกยางว่ายังอยู่ในสภาพดีหรือไม่
ข้อควรจำการดูแลรักษารถยนต์
- การดูแลรักษารถยนต์ด้วยตัวเองเป็นเพียงการดูแลเบื้องต้น หากพบปัญหาที่ซับซ้อน หรือไม่แน่ใจ ควรนำรถเข้าศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถยนต์ที่ไว้ใจได้ เพื่อให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบและแก้ไข
- การดูแลรักษารถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูฝนหรือไม่ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถยนต์และรักษาประสิทธิภาพในการขับขี่ให้ดีอยู่เสมอ
แม้ในวันที่สายฝนจะทำให้การดูแลรถยนต์ดูเหมือนเป็นเรื่องยาก แต่ด้วยเคล็ดลับง่ายๆ เหล่านี้ คุณก็สามารถลงมือดูแลรถยนต์ด้วยตัวเองได้ เพื่อให้รถยนต์ของคุณพร้อมรับมือกับทุกสภาพอากาศ และคงความสวยงามไปอีกนาน ขอให้สนุกกับการดูแลรถยนต์ของคุณในวันฝนพรำ