ช่วงนี้ที่กรุงเทพฯ และอีกหลายจังหวัดในประเทศไทย คงหนีไม่พ้น "มรสุม" ที่มาพร้อมกับสายฝนที่โปรยปรายแบบไม่พัก บางทีก็ตกหนักจนแทบมองไม่เห็นทาง สร้างความปั่นป่วนให้กับการเดินทางไม่น้อยเลยทีเดียว ในฐานะผู้ใช้รถยนต์ แน่นอนว่าเราต้องเจอกับปัญหาที่มาพร้อมกับสายฝนเหล่านี้ แต่ไม่ต้องกังวลมากเกินไป มาดูแนวทางการรับมืออย่างฉลาด เพื่อให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยและสบายใจมากยิ่งขึ้น
ปัญหา "ยอดฮิต" ที่คนใช้รถต้องเจอในหน้าฝน
- ทัศนวิสัยแย่ มองทางไม่ชัด นี่คือปัญหาอันดับต้นๆ ที่สร้างความกังวลใจให้กับผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก หรือไอน้ำที่เกาะบนกระจก ทำให้การมองเห็นเส้นทางและสิ่งรอบข้างลดลงอย่างมาก เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
- ถนนลื่น ควบคุมรถยาก พื้นผิวถนนที่เปียกน้ำจะลดแรงเสียดทานระหว่างยางกับพื้นถนน ทำให้รถลื่นไถลได้ง่าย โดยเฉพาะเวลาเลี้ยว โค้ง หรือเบรกกะทันหัน
- น้ำท่วมขัง เส้นทางจราจรติดขัด ปัญหาน้ำท่วมขังบนถนนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากในเมืองใหญ่ ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก เสียเวลา และอาจทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย
- น้ำกระเด็น รถเลอะเทอะ เวลาขับรถผ่านแอ่งน้ำ หรือรถคันข้างๆ ขับผ่าน อาจทำให้น้ำสกปรกกระเด็นมาเปรอะเปื้อนรถของเรา ทำให้ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการล้างรถบ่อยขึ้น
- ความชื้นในห้องโดยสาร กลิ่นอับ เสื้อผ้าที่เปียก ร่มที่ชื้น หรือแม้แต่ความชื้นในอากาศที่สูงขึ้น อาจทำให้ภายในห้องโดยสารมีกลิ่นอับชื้น และเป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา
รับมืออย่างไรให้การขับขี่หน้าฝนเป็นเรื่องง่ายขึ้น
- เคลียร์ทัศนวิสัยให้ชัดเจน ตรวจสอบและเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝน หากปัดแล้วยังไม่สะอาด หรือมีเสียงดัง ควรเปลี่ยนใหม่ทันทีใช้น้ำยาเช็ดกระจก ช่วยให้คราบสกปรกและน้ำฝนเกาะติดยากขึ้นเปิดระบบไล่ฝ้า ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อให้กระจกใส มองเห็นทางได้ชัดเจนเปิดไฟหน้า ช่วยให้รถของคุณเป็นที่สังเกตได้ง่ายขึ้น แม้ในเวลากลางวันที่มีฝนตกหนัก
- ขับขี่อย่างระมัดระวังบนถนนลื่น ลดความเร็ว ขับช้าลงกว่าปกติ และเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากขึ้นหลีกเลี่ยงการเบรกและหักเลี้ยวกะทันหัน ควบคุมพวงมาลัยอย่างนุ่มนวลใช้ความเร็วคงที่ หลีกเลี่ยงการเร่งและเบรกบ่อยๆระมัดระวังบริเวณที่มีเส้นสีขาวหรือฝาท่อ พื้นผิวเหล่านี้จะลื่นเป็นพิเศษเมื่อเปียกน้ำ
- รับมือกับปัญหาน้ำท่วม หลีกเลี่ยงเส้นทางน้ำท่วม หากไม่จำเป็น ควรหาเส้นทางอื่นประเมินระดับน้ำ หากจำเป็นต้องผ่าน ให้สังเกตระดับน้ำ หากสูงเกินกว่าขอบล้อรถ ไม่ควรเสี่ยงขับด้วยความเร็วต่ำและสม่ำเสมอ ป้องกันไม่ให้น้ำเข้าเครื่องยนต์อย่าดับเครื่องยนต์กลางน้ำ หากเครื่องยนต์ดับกลางน้ำ ห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์ซ้ำ ควรรีบออกจากรถและขอความช่วยเหลือ
- ดูแลรักษารถยนต์หลังเจอฝน ล้างรถ เพื่อขจัดคราบสกปรกและน้ำฝนที่อาจทำให้เกิดสนิมทำความสะอาดภายใน นำผ้ายางปูพื้นออกมาทำความสะอาด และเช็ดบริเวณที่เปียกชื้นเปิดประตูระบายอากาศ เพื่อลดความชื้นและป้องกันกลิ่นอับ
ฤดูฝนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราสามารถเตรียมพร้อมและรับมือกับปัญหาที่มาพร้อมกับมันได้อย่างชาญฉลาด การใส่ใจดูแลรถยนต์และขับขี่ด้วยความระมัดระวัง จะช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างปลอดภัยและสบายใจ แม้ในวันที่สายฝนยังคงโปรยปราย