ความปลอดภัยบนท้องถนน เมื่อผู้โดยสารต้องเผชิญการขับขี่ที่ "ขาดจริยธรรม"
การเดินทางในเมืองใหญ่ปัจจุบัน พึ่งพาบริการขนส่งสาธารณะหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันเรียกรถยนต์และจักรยานยนต์ (ไรเดอร์) รถแท็กซี่ รถจักรยานยนต์รับจ้าง และรถโดยสารประจำทาง บริการเหล่านี้เข้ามาอำนวยความสะดวกและเติมเต็มความต้องการในการเดินทางของผู้คน แต่ในอีกด้านหนึ่ง ปัญหาพฤติกรรมการขับขี่ที่แย่ของ "ผู้ให้บริการ" บางส่วน ยังคงเป็นเงาที่บดบังความสะดวกสบายและความปลอดภัยของผู้โดยสาร สร้างความหวาดระแวงและบั่นทอนความเชื่อมั่นในการใช้บริการเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ให้บริการจำนวนมากปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตและใส่ใจในความปลอดภัยของผู้โดยสาร แต่ก็มีผู้ให้บริการบางส่วนที่มีพฤติกรรมการขับขี่ที่น่าหวาดเสียวและสร้างความไม่สบายใจอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็น การขับขี่ด้วยความเร็วเกินกำหนด ราวกับว่าทุกนาทีคือนาทีสุดท้ายของชีวิต การปาดซ้ายป่ายขวา เปลี่ยนเลนอย่างกะทันหันโดยไม่คำนึงถึงรถรอบข้าง การฝ่าไฟแดง ราวกับว่ากฎจราจรไม่มีความหมาย การใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่ จนละเลยความปลอดภัยของผู้โดยสาร หรือแม้กระทั่ง การขับขี่ในลักษณะที่ประมาท จนผู้โดยสารต้องนั่งตัวเกร็งด้วยความหวาดกลัว
สำหรับผู้โดยสารแล้ว การใช้บริการขนส่งสาธารณะควรเป็นประสบการณ์ที่สะดวกสบายและปลอดภัย พวกเขาฝากชีวิตไว้กับผู้ให้บริการเหล่านั้น แต่เมื่อต้องเผชิญกับพฤติกรรมการขับขี่ที่อันตรายและขาดความรับผิดชอบ ความรู้สึกหวาดกลัว ไม่มั่นใจ และไม่พอใจ ย่อมเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับผู้ที่ต้องใช้บริการเหล่านี้เป็นประจำ ความกังวลดังกล่าวอาจกลายเป็นความเครียดสะสมที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต
ปัญหาพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่เหมาะสมนี้ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ผู้ให้บริการประเภทใดประเภทหนึ่ง เราอาจพบเห็นไรเดอร์ที่เร่งรีบจนเกินเหตุ แท็กซี่ที่ขับปาดหน้าอย่างน่าตกใจ หรือแม้แต่รถจักรยานยนต์รับจ้างที่หวาดเสียวกับการแทรกซอนในช่องว่างเล็กๆ เหล่านี้ล้วนสร้างความหวาดหวั่นให้กับผู้โดยสารทั้งสิ้น
ผลกระทบจากพฤติกรรมการขับขี่ที่แย่เหล่านี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่ความรู้สึกไม่สบายใจของผู้โดยสารเท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการโดยรวมอีกด้วย เมื่อผู้โดยสารได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดี พวกเขามักจะลังเลที่จะกลับมาใช้บริการซ้ำ และอาจบอกเล่าประสบการณ์ดังกล่าวให้ผู้อื่นฟัง ซึ่งเป็นการบ่อนทำลายความไว้วางใจที่ควรจะมีระหว่างผู้ให้บริการและผู้รับบริการ
ตัวอย่างพฤติกรรมการขับขี่ที่ละเลยกฎหมายและข้อกำหนด
- ไรเดอร์และรถจักรยานยนต์รับจ้าง ขับขี่บนทางเท้า เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายจราจรอย่างชัดเจน สร้างความเดือดร้อนและอันตรายต่อผู้สัญจรบนทางเท้า (ผิด พ.ร.บ. จราจรทางบก มาตรา 43 (7) ปรับไม่เกิน 500 บาท) ย้อนศร เป็นการกระทำที่อันตรายอย่างยิ่ง เสี่ยงต่อการชนกับรถที่สัญจรมาตามปกติ (ผิด พ.ร.บ. จราจรทางบก มาตรา 43 (1) ปรับไม่เกิน 500 บาท) ขับขี่ด้วยความเร็วเกินกำหนด โดยเฉพาะในเขตชุมชนหรือเขตจำกัดความเร็ว (ผิด พ.ร.บ. จราจรทางบก มาตรา 67 ปรับไม่เกิน 1,000 บาท) ไม่สวมหมวกนิรภัยให้ผู้โดยสาร ละเลยความปลอดภัยของผู้โดยสาร (ผิด พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ มาตรา 4 (2) ปรับไม่เกิน 500 บาท) แซงในที่ห้ามแซง เช่น บริเวณทางโค้ง ทางขึ้นลงสะพาน หรือเส้นทึบ (ผิด พ.ร.บ. จราจรทางบก มาตรา 45 ปรับไม่เกิน 1,000 บาท) ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่ ทำให้เสียสมาธิในการควบคุมรถ (ผิด พ.ร.บ. จราจรทางบก มาตรา 43 (9) ปรับ 400 - 1,000 บาท)
- รถยนต์โดยสารสาธารณะและรถแท็กซี่: ขับปาดซ้ายป่ายขวา เปลี่ยนเลนกะทันหัน สร้างความหวาดเสียวและอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ (อาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ. จราจรทางบก มาตรา 43 (8) ปรับไม่เกิน 2,000 บาท) จอดรถในที่ห้ามจอด กีดขวางการจราจร (ผิด พ.ร.บ. จราจรทางบก มาตรา 57 ปรับไม่เกิน 500 บาท) ปฏิเสธผู้โดยสารโดยไม่มีเหตุอันสมควร เป็นการผิดข้อกำหนดการให้บริการ (มีบทลงโทษตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์) คิดค่าโดยสารเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เอาเปรียบผู้บริโภค (มีบทลงโทษตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์) ไม่แสดงใบอนุญาตขับขี่สาธารณะ: เป็นการผิดกฎหมาย (มีบทลงโทษตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์)
บทลงโทษทางกฎหมาย (ตัวอย่าง)
บทลงโทษสำหรับพฤติกรรมการขับขี่ที่ผิดกฎหมายนั้นมีหลากหลาย ตั้งแต่ การปรับเงิน ในอัตราต่างๆ ตามความร้ายแรงของความผิด ไปจนถึง การพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ สำหรับผู้กระทำผิดซ้ำ หรือกระทำผิดร้ายแรงที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
นอกจากบทลงโทษตามกฎหมายจราจรแล้ว ผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะบางประเภท เช่น รถแท็กซี่และรถโดยสารประจำทาง ยังมีกฎหมายและข้อกำหนดเฉพาะที่ควบคุมการให้บริการ หากฝ่าฝืนก็อาจถูกลงโทษตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ เช่น การปรับเงิน พักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการ
สำหรับ ไรเดอร์ ที่ให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน บริษัทผู้ให้บริการแอปพลิเคชันเองก็มีข้อกำหนดและบทลงโทษสำหรับพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่เหมาะสม เช่น การระงับบัญชีชั่วคราว หรือถาวร หากได้รับการร้องเรียนจากผู้โดยสารและตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดจริง
สิ่งที่ผู้ใช้บริการสามารถทำได้
เมื่อเผชิญกับพฤติกรรมการขับขี่ที่แย่ของผู้ให้บริการ ผู้โดยสารไม่ควรนิ่งเฉย และสามารถดำเนินการดังนี้
- บันทึกหลักฐาน หากเป็นไปได้ ให้บันทึกภาพ วิดีโอ หรือเสียง ที่แสดงให้เห็นพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่เหมาะสม วัน เวลา สถานที่ และหมายเลขทะเบียนรถ
- แจ้งบริษัทผู้ให้บริการ (สำหรับไรเดอร์และแอปพลิเคชันเรียกรถ) ติดต่อช่องทางร้องเรียนของแอปพลิเคชัน พร้อมแนบหลักฐานที่บันทึกไว้ ให้ข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
- ร้องเรียนต่อหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง: กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) สำหรับรถแท็กซี่ รถจักรยานยนต์รับจ้าง และรถโดยสารประจำทาง สามารถร้องเรียนได้ผ่านสายด่วน 1584 หรือช่องทางออนไลน์ของกรมการขนส่งทางบก สถานีตำรวจ หากพฤติกรรมการขับขี่นั้นเป็นอันตรายอย่างยิ่ง หรือก่อให้เกิดอุบัติเหตุ สามารถแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หากพบว่ามีการเอาเปรียบผู้บริโภค เช่น การคิดค่าโดยสารเกินราคา
- ให้คะแนนและแสดงความคิดเห็น ผ่านแอปพลิเคชันหรือช่องทางที่ผู้ให้บริการจัดไว้ เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้ให้บริการปรับปรุง และเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของผู้ใช้บริการรายอื่น
- หลีกเลี่ยงการโต้เถียงหรือเผชิญหน้าโดยตรง หากผู้ให้บริการมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว หรืออยู่ในสภาวะที่ไม่พร้อมให้บริการ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารเอง
การใช้บริการขนส่งสาธารณะควรเป็นประสบการณ์ที่ปลอดภัยและสะดวกสบาย ผู้โดยสารมีสิทธิที่จะได้รับการบริการที่ดีและได้รับการปกป้องจากพฤติกรรมการขับขี่ที่ประมาทและผิดกฎหมาย การไม่นิ่งเฉยต่อพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และการใช้ช่องทางการร้องเรียนที่มีอยู่ จะเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้ผู้ให้บริการตระหนักถึงความรับผิดชอบ และนำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพการให้บริการในภาพรวม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยในการเดินทางสำหรับทุกคน
