Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
อัศวินผู้พิทักษ์แห่งโลกยานยนต์ ระบบช่วยเหลือที่เราควรสนิทด้วย

อัศวินผู้พิทักษ์แห่งโลกยานยนต์ ระบบช่วยเหลือที่เราควรสนิทด้วย

5 มิ.ย. 68
16:00 น.
แชร์

ในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน อุบัติเหตุบนท้องถนนจึงเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ก็เป็นสิ่งที่ต้องตระหนักและเตรียมพร้อมรับมือ เทคโนโลยีความปลอดภัยในรถยนต์จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง เปรียบเสมือนเกราะกำบังที่มองไม่เห็น คอยปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ระบบเหล่านี้ไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวหรือซับซ้อนเกินกว่าจะเข้าใจได้ หากเราลองทำความเข้าใจถึงหลักการทำงานของเทคโนโลยีเหล่านี้อย่างถ่องแท้ เราจะยิ่งตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของมัน และสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างเต็มที่

ABS (Anti-lock Braking System) เบรกฉุกเฉิน ที่ไม่ทำให้ล้อล็อก

ลองจินตนาการถึงสถานการณ์ที่คุณกำลังขับรถมาด้วยความเร็ว แล้วจู่ๆ ก็มีสิ่งกีดขวางตัดหน้า คุณตกใจและเหยียบเบรกสุดแรงเกิด สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นกับรถยนต์ที่ไม่มี ABS คือ "ล้อล็อกตาย" ทำให้รถไม่สามารถควบคุมทิศทางได้ และอาจไถลไปชนสิ่งกีดขวางอย่างน่าหวาดเสียว

ABS คืออะไร? ระบบ ABS เปรียบเสมือน "นักมวย" ที่คอย "ย้ำ" เบรกให้เราอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง แทนที่จะเหยียบเบรกค้างจนล้อล็อก เมื่อเซ็นเซอร์ตรวจจับว่าล้อกำลังจะล็อก ระบบ ABS จะสั่งให้ปั๊มเบรกทำงาน โดยการ "ปล่อย-จับ" แรงดันน้ำมันเบรกเป็นจังหวะถี่ๆ หลายครั้งต่อวินาที ทำให้ล้อไม่ล็อกและยังคงสามารถหมุนอยู่ได้

สถานการณ์จริงที่ ABS ช่วยชีวิต

  • เบรกกะทันหันบนถนนลื่น ในสภาพถนนที่เปียก หรือมีทราย ระบบ ABS จะช่วยให้คุณยังคงควบคุมทิศทางของรถได้ในขณะเบรกฉุกเฉิน ทำให้สามารถหักหลบสิ่งกีดขวางได้อย่างปลอดภัย แทนที่จะไถลออกนอกเส้นทาง
  • การเบรกขณะเข้าโค้ง หากไม่มี ABS การเบรกอย่างรุนแรงขณะเข้าโค้งอาจทำให้รถเสียสมดุลและหลุดโค้งได้ แต่ ABS จะช่วยรักษาการยึดเกาะของล้อ ทำให้คุณยังคงควบคุมรถให้อยู่ในเส้นทางได้
  • การเบรกเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง ABS ช่วยให้คุณสามารถเบรกและหักหลบสิ่งกีดขวางไปพร้อมๆ กันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสการชนได้อย่างมาก

ESP (Electronic Stability Program) ผู้ช่วยทรงตัว เมื่อรถเริ่มเสียอาการ

เคยไหมที่ขับรถแล้วรู้สึกว่ารถเริ่ม "ปัด" หรือ "หลุด" ควบคุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว หรือเจอสภาพถนนที่ลื่น? นั่นเป็นสัญญาณว่ารถกำลังเสียสมดุล และอาจนำไปสู่อุบัติเหตุได้

ESP คืออะไร? ระบบ ESP เปรียบเสมือน "นักกายกรรม" ที่คอย "ทรงตัว" ให้รถของเราอยู่ในการควบคุมเสมอ ESP ทำงานโดยการใช้เซ็นเซอร์ต่างๆ ตรวจจับการเคลื่อนไหวของรถ เช่น ความเร็วของล้อ ทิศทางการหมุนของพวงมาลัย และองศาการหมุนของตัวรถ หากระบบตรวจพบว่ารถกำลังเริ่มเสียสมดุล (เช่น ล้อหน้าเลี้ยว แต่รถกลับไม่เลี้ยวตาม หรือท้ายรถเริ่มปัด) ESP จะสั่งการให้ระบบเบรกทำงานบนล้อใดล้อหนึ่งหรือมากกว่านั้นอย่างอิสระ เพื่อสร้างแรงบิดที่ช่วยดึงรถกลับเข้าสู่สภาวะที่สมดุล

สถานการณ์จริงที่ ESP ช่วยชีวิต

  • การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงเกินไป ESP จะช่วยป้องกันไม่ให้รถหลุดโค้ง โดยการเบรกที่ล้อด้านในของโค้ง ทำให้เกิดแรงดึงรถกลับเข้าสู่เส้นทาง
  • การหักหลบสิ่งกีดขวางอย่างกะทันหัน เมื่อเราหักพวงมาลัยอย่างรวดเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง ESP จะช่วยรักษาเสถียรภาพของรถ ป้องกันไม่ให้รถหมุนคว้าง
  • การขับขี่บนถนนลื่น ในสภาพถนนที่เปียก หรือมีน้ำแข็ง ESP จะช่วยรักษาการยึดเกาะของล้อ ป้องกันไม่ให้รถลื่นไถลเสียการควบคุม

Airbag (ถุงลมนิรภัย) เกราะกำบังสุดท้าย ในวันที่เกิดการชน

แม้ว่าเราจะขับรถด้วยความระมัดระวัง และมีระบบ ABS กับ ESP คอยช่วยเหลือ แต่หากเกิดอุบัติเหตุชนขึ้นมา สิ่งที่จะช่วยลดความรุนแรงของการบาดเจ็บได้มากที่สุดก็คือ "ถุงลมนิรภัย" (Airbag)

Airbag คืออะไร? ถุงลมนิรภัยคือ "หมอน" ที่พองลมออกมาอย่างรวดเร็วในเสี้ยววินาทีเมื่อเกิดการชนที่รุนแรง โดยเซ็นเซอร์จะตรวจจับแรงกระแทกและส่งสัญญาณไปยังชุดควบคุมถุงลมนิรภัย ซึ่งจะจุดชนวนให้แก๊สในถุงลมพองตัวออกมาปกป้องศีรษะและหน้าอกของผู้ขับขี่และผู้โดยสารจากการกระแทกกับพวงมาลัย คอนโซล หรือกระจกหน้ารถ

สถานการณ์จริงที่ Airbag ช่วยชีวิต

  • การชนด้านหน้า ถุงลมนิรภัยคู่หน้าจะพองตัวออกมาช่วยลดแรงกระแทกที่ศีรษะและหน้าอกของผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า ลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บรุนแรง
  • การชนด้านข้าง รถยนต์รุ่นใหม่ๆ มักจะมีถุงลมนิรภัยด้านข้าง (Side Airbags) และม่านถุงลมนิรภัย (Curtain Airbags) ซึ่งจะพองตัวออกมาปกป้องศีรษะและลำตัวเมื่อเกิดการชนจากด้านข้าง
  • การชนด้านหลัง แม้ว่าถุงลมนิรภัยด้านหลังจะไม่แพร่หลายเท่าถุงลมด้านหน้า แต่ในรถยนต์บางรุ่นก็มีถุงลมประเภทนี้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารตอนหลัง

เพื่อนร่วมทางที่ขาดไม่ได้ เพื่อความปลอดภัยที่เหนือกว่า

ABS, ESP, และ Airbag ไม่ได้เป็นเพียงแค่อุปกรณ์เสริมในรถยนต์อีกต่อไป แต่เป็น "ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันและบรรเทา" ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการลดความเสี่ยงและผลกระทบจากอุบัติเหตุบนท้องถนน การทำความเข้าใจหลักการทำงานของระบบเหล่านี้ จะช่วยให้เราตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของมัน และมั่นใจได้ว่ารถยนต์ที่เราขับขี่นั้นมี "อัศวินผู้พิทักษ์" ที่พร้อมจะปกป้องเราในทุกสถานการณ์

ดังนั้น ครั้งต่อไปที่คุณนั่งหลังพวงมาลัย ลองนึกถึง ABS ที่ช่วยให้เบรกได้อย่างมั่นใจ ESP ที่คอยรักษาสมดุลของรถ และ Airbag ที่พร้อมจะปกป้องคุณในยามคับขัน ทำความรู้จักและให้ความสำคัญกับพวกเขา แล้วคุณจะรู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยในการเดินทางทุกเส้นทางอย่างแน่นอน

นอกเหนือจาก 3 อัศวินหลักอย่าง ABS, ESP, และ Airbag แล้ว ในโลกยานยนต์ปัจจุบันยังมีกองทัพผู้ช่วยด้านความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกอีกมากมาย ที่พร้อมจะยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของเราให้ปลอดภัยและสบายมากยิ่งขึ้น มาทำความรู้จักกับพวกเขาแบบจัดเต็มกันเลย

กองทัพผู้ช่วยไฮเทค ระบบความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกที่คุณควรรู้จัก

เทคโนโลยีในรถยนต์ก้าวหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง ระบบช่วยเหลือการขับขี่ต่างๆ ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ ลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ และเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน ลองมาดูกันว่ามีระบบอะไรที่น่าสนใจบ้าง

ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน (Active Safety Systems) ทำงานเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ

  • EBD (Electronic Brakeforce Distribution) ระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ - ทำงานร่วมกับ ABS โดยจะปรับแรงดันน้ำมันเบรกไปยังล้อแต่ละข้างอย่างเหมาะสมตามสภาพการบรรทุกและการกระจายน้ำหนักของรถ ช่วยให้เบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดโอกาสการเสียสมดุล
  • TCS (Traction Control System) / ASR (Acceleration Slip Regulation) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี - ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อหมุนฟรีเมื่อออกตัวอย่างรวดเร็ว หรือเร่งเครื่องบนพื้นผิวที่ลื่น โดยจะควบคุมกำลังของเครื่องยนต์และ/หรือสั่งเบรกที่ล้อที่มีอาการหมุนฟรี ทำให้รถออกตัวได้อย่างมั่นคง
  • BA (Brake Assist) / EBA (Emergency Brake Assist) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน - หากระบบตรวจจับว่าผู้ขับขี่เหยียบเบรกอย่างรวดเร็วและแรง (ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในสถานการณ์ฉุกเฉิน) ระบบ BA จะช่วยเพิ่มแรงดันเบรกให้มากขึ้น เพื่อให้รถหยุดได้ในระยะที่สั้นที่สุด
  • HAC (Hill-start Assist Control) / HSA (Hill Start Assist) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน - ป้องกันไม่ให้รถไหลถอยหลังขณะออกตัวบนทางลาดชัน โดยจะหน่วงแรงเบรกไว้ชั่วครู่เพื่อให้ผู้ขับขี่มีเวลาเหยียบคันเร่ง
  • DAC (Downhill Assist Control) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน - ช่วยควบคุมความเร็วของรถขณะลงทางลาดชันโดยอัตโนมัติ โดยจะสั่งเบรกที่ล้อเป็นจังหวะ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมพวงมาลัยได้อย่างมั่นคงโดยไม่ต้องเหยียบเบรกเอง
  • LDW (Lane Departure Warning) ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน - ใช้กล้องตรวจจับเส้นแบ่งเลน หากระบบตรวจพบว่ารถกำลังเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ (โดยไม่เปิดไฟเลี้ยว) จะส่งสัญญาณเตือนด้วยเสียงหรือการสั่นที่พวงมาลัย
  • LKA (Lane Keeping Assist) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน - พัฒนาต่อจาก LDW โดยจะช่วยปรับพวงมาลัยเล็กน้อยเพื่อนำรถกลับเข้าสู่เลน หากระบบตรวจพบว่ารถกำลังจะออกนอกเลน
  • BSD (Blind Spot Detection) / BSM (Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนมุมอับสายตา - ใช้เซ็นเซอร์ (เช่น เรดาร์) ตรวจจับยานพาหนะที่อยู่ในมุมอับสายตาด้านข้างและด้านหลังของรถ และจะเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีรถอยู่ในบริเวณนั้น
  • RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนเมื่อมีรถวิ่งตัดผ่านขณะถอยหลัง - ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับยานพาหนะที่กำลังเคลื่อนที่เข้ามาจากด้านข้างขณะที่เรากำลังถอยรถ ช่วยลดความเสี่ยงในการชน
  • FCW (Forward Collision Warning) ระบบเตือนการชนด้านหน้า - ใช้เซ็นเซอร์ (เช่น เรดาร์ หรือกล้อง) ตรวจจับวัตถุหรือยานพาหนะด้านหน้า หากระบบประเมินว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดการชน จะส่งสัญญาณเตือนให้ผู้ขับขี่ทราบล่วงหน้า
  • AEB (Autonomous Emergency Braking) / FCA (Forward Collision Avoidance Assist) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ - พัฒนาต่อจาก FCW หากผู้ขับขี่ยังไม่ตอบสนองต่อคำเตือน ระบบ AEB จะทำการเบรกโดยอัตโนมัติเพื่อลดความรุนแรงของการชน หรือหลีกเลี่ยงการชนโดยสมบูรณ์ (ในบางสถานการณ์)
  • ACC (Adaptive Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน - รักษาความเร็วที่ตั้งไว้ และยังสามารถปรับความเร็วโดยอัตโนมัติเพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้า
  • AHB (Automatic High Beam) ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ - สลับไฟสูงและไฟต่ำโดยอัตโนมัติตามสภาพแสงและยานพาหนะที่อยู่ด้านหน้า ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ยามค่ำคืนโดยไม่รบกวนผู้ร่วมทาง
  • TPMS (Tire Pressure Monitoring System) ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง - แจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อแรงดันลมยางในล้อใดล้อหนึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ช่วยลดความเสี่ยงจากยางระเบิดและเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่

ระบบความปลอดภัยเชิงปกป้อง (Passive Safety Systems) ทำงานเพื่อลดความรุนแรงของการบาดเจ็บเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

  • โครงสร้างตัวถังที่แข็งแรง ออกแบบมาเพื่อดูดซับและกระจายแรงกระแทกจากการชน
  • เข็มขัดนิรภัย: อุปกรณ์พื้นฐานแต่สำคัญที่สุดในการยึดรั้งผู้โดยสารไว้กับเบาะ ลดการกระแทกกับส่วนต่างๆ ของตัวรถ
  • Pre-tensioner and Load Limiter Seatbelts ระบบเข็มขัดนิรภัยที่สามารถดึงกระชับอัตโนมัติเมื่อเกิดการชน และคลายแรงดึงในระดับหนึ่งเพื่อลดการบาดเจ็บจากเข็มขัดนิรภัยเอง
  • Head Restraints (หมอนรองศีรษะ) ออกแบบมาเพื่อรองรับศีรษะและคอ ลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บที่กระดูกต้นคอเมื่อเกิดการชนจากด้านหลัง
  • Child Safety Locks ระบบล็อคประตูและหน้าต่างสำหรับเด็ก เพื่อป้องกันการเปิดจากด้านในโดยไม่ได้ตั้งใจ
  • ISOFIX / LATCH จุดยึดสำหรับติดตั้งเบาะนั่งสำหรับเด็กอย่างปลอดภัยและมั่นคง

ระบบอำนวยความสะดวกในการขับขี่ (Driver Assistance Systems): ช่วยให้การขับขี่ง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น

  • Parking Assist (ระบบช่วยจอดรถ) ช่วยในการนำรถเข้าจอดในช่องจอดต่างๆ โดยอัตโนมัติ หรือกึ่งอัตโนมัติ
  • Parking Sensors (เซ็นเซอร์กะระยะจอดรถ) ส่งเสียงเตือนเมื่อรถเข้าใกล้สิ่งกีดขวางขณะจอดรถ
  • Rearview Camera (กล้องมองหลัง) แสดงภาพด้านหลังรถขณะถอยจอด ช่วยให้เห็นสิ่งกีดขวางได้ชัดเจนขึ้น
  • 360-Degree Camera (กล้องรอบคัน) แสดงภาพมุมสูงรอบตัวรถ ช่วยให้เห็นสภาพแวดล้อมรอบข้างได้ชัดเจนขณะขับขี่หรือจอดรถ
  • Head-Up Display (HUD) แสดงข้อมูลสำคัญ เช่น ความเร็ว หรือระบบนำทาง บนกระจกหน้ารถ ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน
  • Rain-Sensing Wipers (ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ) ปรับความเร็วในการปัดน้ำฝนโดยอัตโนมัติตามปริมาณน้ำฝน
  • Automatic Headlights (ไฟหน้าอัตโนมัติ) เปิดและปิดไฟหน้าโดยอัตโนมัติตามสภาพแสงภายนอก

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของระบบช่วยเหลือต่างๆ ที่มีอยู่ในรถยนต์ปัจจุบัน ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ก็ยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป้าหมายสูงสุดคือการสร้างความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคน การทำความเข้าใจว่าระบบเหล่านี้ทำงานอย่างไร จะช่วยให้เราใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างเต็มที่ และขับขี่ได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

แชร์
อัศวินผู้พิทักษ์แห่งโลกยานยนต์ ระบบช่วยเหลือที่เราควรสนิทด้วย