บางคนยังไม่ทราบเลยด้วยซ้ำว่ารถยนต์ที่ตัวเองขับนั้น เป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้าหรือล้อหลัง ซึ่งรถขับเคลื่อนล้อหน้ามีข้อดี ที่เห็นได้ชัดจากการใช้งานจริง เช่น รถขับเคลื่อนล้อหน้าสามารถเข้าโค้งได้ดีกว่า โดยเฉพาะการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง การลื่นไถลของตัวรถเกิดขึ้นน้อยกว่ารถขับเคลื่อนล้อหลัง แต่ถ้าขับรถด้วยความประมาทแล้ว ปัง! ปังพินาศ! ต่อให้การขับเคลื่อนนั้นจะมีส่วนช่วยให้ขับง่ายขึ้นยังไงก็ตาม ก็มีสิทธิ์เกิดอุบัติเหตุหลุดโค้งได้ทั้งนั้น
ข้อดีต่อมาที่เห็นก็จะเป็นเรื่องของการซ่อมบำรุง จะว่าไปจุดนี้ก็อาจจะเป็นดาบสองคมก็ว่าได้นะเออ อย่างช่างบางคนอาจจะบอกว่า รถขับเคลื่อนล้อหน้าซ่อมยากจะตายไป เนื้อที่ก็คับแคบ จะวางอะไรต่อมิอะไรเกะกะไปหมด จะล้วงมือลงไปถอดไปซ่อมอะไรก็ยาก มีเนื้อที่เป็นช่องว่างน้อยเหลือเกิน ยิ่งรถยนต์บางรุ่นแทบไม่เหลือเนื้อที่ ให้เอามือลอดลงไปซ่อมหรือถอดชิ้นส่วนต่างๆ เลยด้วยซ้ำ
ส่วนช่างบางคนก็บอกว่า รถขับเคลื่อนล้อหน้าซ่อมง่ายจะตายไป เพราะส่วนใหญ่เครื่องยนต์จะถูกออกแบบให้วางขวางกับตัวรถ จึงทำงานได้อย่างสะดวกสบาย อย่างจะยกคลัทช์ หรือถอดชุดเกียร์ออกมา ก็แค่ถอดล้อออกมาเปิดแผ่นกั้นที่ปิดไว้ คลายน็อตยึดก็สามารถถอดชุดเกียร์ออกมาได้แล้ว ผิดกับรถขับเคลื่อนล้อหลัง จะถอดเกียร์หรือยกคลัทช์กันที ต้องถอดเพลากลางถอดโน่นถอดนี่ยุ่งยากไปโม้ดดด...
จะว่าไปข้อดีของรถขับเคลื่อนล้อหน้า มากกว่าข้อเสีย เพราะการซ่อมบำรุงบางอย่างทำได้ง่ายกว่า และที่สำคัญคือ สามารถประหยัดเวลาในการซ่อมได้มากกว่า อย่างที่เห็นกันง่าย ๆ ถอดชุดเกียร์ออกมา ก็สามารถตรวจซ่อมคลัทช์ได้ พร้อมๆ ไปกับการตรวจเช็คเฟืองท้ายไปได้ด้วยในเวลาเดียวกัน เพราะรถขับเคลื่อนล้อหน้า มักออกแบบให้ชุดเกียร์กับชุดเฟืองท้ายรวมอยู่ในชุดเดียวกัน แต่ถ้าเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง ชุดเกียร์ก็แยกเป็นชุดที่ติดตั้งอยู่ท้ายเครื่องยนต์ ส่วนชุดเฟืองท้ายก็จะถูกติดตั้งไว้ที่ด้านท้ายรถยนต์ บริเวณเดียวกับล้อคู่หลัง นี่ก็เป็นข้อดีเพียงบางส่วนของรถขับเคลื่อนล้อหน้า
ส่วนข้อเสียของการขับเคลื่อนแบบนี้ก็มีไม่น้อยเหมือนกัน เช่น อายุการใช้งานของชิ้นส่วนต่าง ๆ ในระบบขับเคลื่อนจะสั้นกว่าการขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง สาเหตุเพราะการขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า ชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ใช้ในการขับเคลื่อนจะถูกติดตั้งไว้ที่ล้อคู่หน้าทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นชุดเกียร์, เพลาขับ และอื่น อีกมากมาย ในขณะเดียวกันล้อคู่หน้า ก็จะเป็นที่ติดตั้งระบบบังคับเลี้ยวด้วย แน่นอนว่าระบบบังคับเลี้ยวหรือระบบพวงมาลัย ทำหน้าที่บังคับให้ล้อคู่หน้าเลี้ยวซ้ายหรือขวาตามทิศทางที่ผู้ขับต้องการ
ในขณะที่ล้อหน้าถูกบังคับให้เลี้ยว เพลาขับเคลื่อนที่ยึดติดกับล้อหน้า ก็จำเป็นต้องเลี้ยวตามไปด้วย นั่นจึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ข้อต่อเพลาขับหรือที่เรียกว่า หัวเพลาขับ มักมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่า เมื่อนำมาเทียบกับเพลาขับของรถขับเคลื่อนล้อหลัง
ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรุนแรงก็เช่นกัน รถยนต์ที่ใช้การขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า มักจะได้รับความเสียหายมากกว่า เพราะทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นระบบขับเคลื่อน, ระบบส่งกำลัง หรือระบบบังคับเลี้ยว ทั้งหมดถูกออกแบบให้ติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของรถ เมื่อเกิดการชนทางด้านหน้าอย่างรุนแรง ทั้งชุดเกียร์, ชุดเฟืองท้ายและชุดเพลาขับ ก็ได้รับความเสียหายตามไปด้วย
และในทางกลับกันถ้าเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง ด้านหน้ารถจะได้รับความเสียหายมากมายแค่ไหน แต่ปกติแล้วจะทำให้ชิ้นส่วนการขับเคลื่อนอย่างเพลากลาง, ชุดเฟืองท้าย หรือจะเป็นเพลาขับ ที่ถูกติดตั้งในช่วงกลางตัวรถและด้านท้ายของตัวรถเสียหายน้อยกว่า