เช็กรถให้มั่นใจต้องทำอย่างไร? ก่อนจะเที่ยวไกล เดินทางปลอดภัยไร้กังวล

2 มี.ค. 67

ออกทริปท่องเที่ยวทั้งที ยานพาหนะในการเดินทางที่สะดวกสบายที่สุด คงหนีไม่พ้นรถยนต์ส่วนตัว รถสาธารณะไม่น่าจะตอบโจทย์การเดินทาง เนื่องจากต้องขนสัมภาระ คงไม่สะดวกเอาซะเลยหากต้องขนของใช้ ที่บางอย่างดูจะจำเป๊น.. จำเป็นมากสำหรับบางคน อย่างคนติดหมอนข้าง ที่พักไม่มีให้ ก็นอนหลับไม่เต็มตื่น ฝืนทนนอน ไม่สบายกาย และจะไม่สบายใจเอาซะด้วย หากยานพาหนะที่ใช้ในการเดินทางไม่พร้อมสำหรับการออกทริปท่องเที่ยวเดินทางไกล มาดูกันว่ามีอะไรเป็นหลักใหญ่ใจความสำหรับรถยนต์กันบ้าง ที่ต้องตรวจเช็กนอกจากสัมภาระที่ว่าให้เรียบร้อยก่อนออกสตาร์ท เพื่อความสบายใจไม่ให้ทริปล่มไม่เป็นท่าก่อนเที่ยว

อันดับแรก หลายคนโฟกัสแต่เรื่องเช็กรถ ลืมไปว่าเรื่องเส้นทางในการเดินทางก็สำคัญ ใช้ Google ผิด ชีวิตเปลี่ยน เดินทางไปจังหวัดไหน เส้นทางเป็นอย่างไร ระยะทางไปถึงใช้เวลานานเท่าไหร่ มีหมุด จุดให้พักรถตรงไหน เรื่องกินก็เรื่องใหญ่ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เดินทางเส้นไหนมีอะไรน่ากิน ทริกเรื่องของกิน อันนี้ขอแอบแนะนำ ให้สังเกตจากรถที่จอดในร้านอาหารมีทะเบียนท้องถิ่นอยู่เยอะมั๊ย พูดง่ายๆ คนแถวนั้นกินร้านไหน อันนี้การันตีความอร่อยได้อยู่นะ ถ้าเจอรถทะเบียนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่เค้าก็ดูมาจากรีวิวในโซเชียลนั่นแหละ อร่อยจริงไม่จริงอันนี้ก็ต้องไปเสี่ยง และการแวะสถานที่เที่ยว คาเฟ่ ทะเล น้ำตก ภูเขา เราก็ไป ตามเบี้ยบ้ายรายทาง ก่อนไปถึงที่จุดหมายที่พัก ก็ทำให้ทริปการเดินทางครั้งนี้สนุกสนานยิ่งขึ้น

untitled4

เหนือสิ่งอื่นใด ก่อนออกเดินทาง เติมน้ำมันให้เต็ม บางคนคิดว่าไปเติมน้ำมันเอาข้างหน้าก็ได้ แต่ลืมคิดไปช่วงนี้อาจะเป็นช่วง long weekend เทศกาลนั่นโน่นนี่ ที่คนเยอะต่อคิวกันยาวเหยียด เกินเวลาที่ตั้งเป้าไว้ ก็ล่าช้าไปด้วย ส่วนใครที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าชาร์จไฟจากบ้านให้เรียบร้อย อย่าไปหวังว่า ที่ชาร์จผุดขึ้นเยอะแยะ เดี๋ยวไปชาร์จตามที่จองไว้ก็ได้ แผนล่ม โดนแซง ตีกันมานักต่อนัก เช็คจุดชาร์จกันด้วย ระหว่างทางมีมากน้อยแค่ไหนจะได้ไม่เสี่ยงไฟหมด ไฟในการเที่ยวจะมอบดับ ดับฝัน เสียเวลา เสียอารมณ์ นอยด์รับประทานกลับบ้านไม่ทันนะ

สำหรับการเดินทาง ไปเที่ยวที่ไหน ดูเรื่องของศูนย์บริการไว้สักนิดก็ดี เผื่อต้องซ่อมด่วน เบอร์โทรฉุกเฉิน เบอร์ประกันภัย เตรียมให้เรียบร้อย ออกเดินทางกี่โมง กะเกณฑ์เวลา เพื่อเลี่ยงเวลารถติดรถมากกันให้ดีๆ

ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเรื่องที่สำคัญ อย่าไปหวังน้ำบ่อหน้า เตรียมรถยนต์ก่อน ถึงไม่ได้ใช้สบายใจกว่านะ มาเข้าเรื่องเริ่มเช็ครถยนต์กันดีกว่า

02_1

- เช็กระบบไฟ

แน่นอนว่าไฟในการเดินทางของผู้เดินทางมีสูงสุด แต่ระบบไฟรถยนต์สำหรับการเดินทางทุกครั้ง ที่ต้องใช้ คือ ไฟส่องสว่าง หากต้องเดินทางช่วงเช้ามืด หรือแม้แต่ในช่วงค่ำก็ตาม ไฟส่องสว่างต้องติดทุกดวง ไฟส่องสว่างมีอะไรบ้าง มีไฟหน้า ไฟท้าย ไฟสูง ไฟฉุกเฉิน ไฟถอย ไฟเบรก ไล่ไปตามลำดับ ไฟทุกดวงต้องติดหมด ดวงไหนไม่ติดทำการเปลี่ยนให้เรียบร้อย เป็นความจำเป็นหลักในระหว่างเดินทางที่ต้องใช้ ประหนึ่งในความมืดย่อมมีแสงสว่างอะไรอย่างนั้น

- เช็กระบบปรับอากาศ

การให้ความเย็นในรถกับการเดินทางก็เป็นสิ่งสำคัญ เมืองไทยมี 3 ฤดูคือ ฤดูร้อน ฤดูร้อนมาก และฤดูร้อนมากที่สุด ไม่มีใครอยากเดินทาง นั่งขับรถ หรือโดยสารแบบร้อนๆ อุณหภูมิเย็นๆ ฉ่ำๆ ก็ทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกผ่อนคลายขณะเดินทาง ระบบแอร์ต้องทำงานอย่างปกติ สตาร์ทรถเช็กระบบแอร์ทำงานปกติหรือไม่ ลมแอร์ทำงาน แอร์ทำการตัดหรือไม่ ตรวจเช็กให้เรียบร้อย

01

- ระบบของเหลวภายในรถ

เรียกง่าย ๆ พวกระบบน้ำต่าง ๆ ตั้งแต่ระดับน้ำมันเครื่อง ทำได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ ผู้หญิงก็ทำได้ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เปิดฝากระโปรงรถ ชักก้านวัดดึงออกมาในครั้งแรกก่อน ใช้กระดาษหรือผ้าสะอาดๆ เช็ดไปที่ก้านวัด แล้วใส่กลับเข้าไปที่เดิม ทำการชักก้านวัดขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อดูว่าระดับน้ำมันเครื่องอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมหรือไม่ ดูได้จากจุดที่มาร์คอยู่บนก้านวัด พร้อมกับสังเกตสีของน้ำมันเครื่องที่ติดก้านวัดขึ้นมาด้วยว่ามีสีเป็นอย่างไร หากว่าดำผิดปกติ หรือน้ำมันเครื่องไม่อยู่ในเกณฑ์ของมาร์คที่กำหนด ต้องเข้าทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องโดยเร็ว หากไม่รีบเปลี่ยนจะส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์เป็นอย่างมาก ถ้ายังฝืนใช้รถ อาจถึงขั้นต้องเปลี่ยนเครื่องกันเลยทีเดียวนะ จะหาว่าไม่เตือน

- เช็กระดับน้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์

ต้องอยู่ในระดับที่ถูกต้องไม่พร่องหรือขาด ถ้าน้ำมันขาดส่งผลต่อระบบบังคับเลี้ยวได้ ทำให้พวงมาลัยหนืด น้ำยาหม้อน้ำ อยู่ในระดับที่เต็มพอดี ถ้าระดับต่ำหรือไม่พอดี อาจะมีการรั่วซึมในระบบระบายความร้อน เช่นวาล์วน้ำหรือปั้มน้ำเสียหาย เช็คน้ำมันเบรก อยู่ในระดับที่พอดี ถ้าพร่องหรือน้อยจนเกินไป หรือน้ำมันเบรกเสื่อมสภาพ ไม่ได้เปลี่ยนนาน ต้องเปลี่ยน เพราะบางคนลืม อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นระบบเบรกจึงต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ รวมไปถึงจานเบรกต้องไม่คด ไม่สั่น และผ้าเบรกจะต้องไม่บางเกินไป

- แบตเตอรี่

เช็กขั้วแบตว่าแน่นดีหรือไม่ ดูให้แน่นทั้งสองข้างขั้วบวกและลบ ซึ่งมีผลต่อการสตาร์ทเครื่องยนต์และระบบไฟในรถยนต์ สตาร์ทไม่ติดทริปล่มได้นะ กรองอากาศเครื่องยนต์ ไส้กรองอากาศ ต้องสะอาดไม่ตัน ไม่สกปรก จะส่งผลให้รถยนต์ไม่มีกำลัง เร่งไม่ขึ้น วิ่งไม่ออก ส่วนใบปัดน้ำฝนและน้ำฉีดกระจก หลายคนละเลย การเดินทางในช่วงค่ำ ยิ่งไปต่างจังหวัด แมลงเยอะไม่เบา บินมาติดเต็มกระจกหน้า เติมน้ำฉีดกระจกให้เต็ม ใบปัดน้ำฝนต้องไม่เสื่อมสภาพ ทำงานปกติ ช่วยเรื่องทัศนวิสัยในการขับขี่ได้ในช่วงค่ำคืน หรือแม้แต่ฝนตก

- ช่วงล่าง

เช็กเองได้มั้ย? เช็กได้เบื้องต้นไม่ยาก ไม่ต้องถึงขั้นขึ้นแม่แรง ยกรถลงไปดู เราไม่ใช่ช่าง ในเบื้องต้นสำหรับเช็กนั้น มีทริกง่าย ๆ ใช้วิธีโยกรถ ออกแรงโยกอย่างแรงมาก ใช้แรงพอดีๆ ถ้าผิดปกติรถจะค่อนข้างโยกเยกมากกว่าที่ควร อาจจะมีการรั่วซึมของระบบรองรับในช่วงล่าง โช็คตาย โช็คพัง ขับไปตกหลุม ตกบ่อแรงๆ สะเทือนไปถึงหัวใจ (ใจพังต้องควักเงินเปลี่ยนโช็ค อย่าคิดไปไกล ไม่ใช่สิ เราเดินทางไกลก็ต้องไปไกล ถูกแล้ว!)

03

- ยางรถยนต์

ยางทั้ง 4 เส้น ต้องไม่มีรอยรั่วซึม ไม่มีการฉีกขาด ผิวยางไม่แตกลายงา ไม่เป็นบั้ง มีดอกยางเพียงพอ และลมยางจะต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม เสริมอีกนิด กันลืม ยางอะไหล่ อย่าลืมเติมลมให้พอดีก่อนออกเดินทางเสมอ ออ.. ยางกับล้อเป็นของคู่กัน ล้อทั้ง 4 ต้องไม่คดไม่เบี้ยว เดี๋ยวมันจะวิ่งแซงรถเอานะ

และสุดท้ายตรวจสอบเครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ฉุกเฉิน คู่มือ ต้องมีติดรถไว้ อย่าลืม! ไฟฉาย อาจจะจำเป็นเมื่อเดินทางในเวลากลางคืนก็เป็นได้ เรื่องที่ให้ต้องเช็คต้องดูก็มีประมาณนี้ เพื่อการเดินทางท่องเที่ยวอย่างสุขใจ ทริปไหน ๆ ก็สบายใจเสมอ ออ.. อย่าลืมคาดเข็ดขัดนิรภัยทุกที่นั่งด้วยนะจ๊ะ

07childrensdaytipsfortravelchildrensdaytipsfortravel_1ford_stressreductiontech_2fordeverestspaciousinterio
nissanterrasport_02-1200x90
04
02

advertisement

Powered by อมรินทร์ นิวส์ - ยานยนต์

ข่าวยอดนิยม