FETCO ค้านเก็บภาษีขายหุ้น ชี้้ได้ไม่คุ้มเสีย อุปสรรคขวางระดมทุน

16 ธ.ค. 64

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย(FETCO)กล่าวกับทีมข่าว "SPOTLIGHT" ว่า จากกรณีที่กรมสรรพากรอยู่ระหว่างศึกษาทบทวนแผนปฏิรูปโครงสร้างการจัดเก็บภาษีใหม่ซึ่งมีการพิจารณาศึกษาจัดเก็บภาษีในทุกประเภทนั้น รวมถึงพิจารณาเก็บภาษีจากธุรกรรมขายหุ้น(Transaction Tax) ในอัตราภาษี 0.1% จากมูลค่าการขายหุ้นเฉพาะนักลงทุนที่มีมูลค่าการซื้อขายเกิน 1 ล้านต่อเดือน

ทั้งนี้ สภาธุรกิจตลาดทุนไทยซึ่งมีสมาชิก ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.), สมาคมบริษัทจัดการกองทุน, สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย, สมาคมตราสารหนี้ไทย และ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ มีความเห็นตรงกันว่าไม่เห็นด้วย หากสรรพากรจะจัดเก็บภาษี Transaction Tax จริง เพราะจะมีผลกระทบในเชิงลบต่อภาพรวมการพัฒนาภาคตลาดทุนและเศรษฐกิจของไทยมากกว่าจะเกิดผลในทางบวก

เนื่องจากปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ฯ ของไทยยังอยู่ในช่วงระหว่างการพัฒนา ทั้งในเรื่องการสร้างเพิ่มจำนวนฐานผู้ลงทุนซึ่งรัฐบาลเองมีนโยบายต้องการส่งเสริมให้เกิดการออมภาคกับประชาชนผ่านช่องทางการออมต่างๆ โดยการออมในตลาดหุ้นเป็นช่องทางการออมในระยะยาวที่ดี ขณะที่ปัจจุบันมีประชาชนที่เปิดบัญชีซื้อขายหุ้นในระบบของไทยรวมประมาณ 2 ล้านบัญชี ถือเป็นสัดส่วนที่ยังต่ำมากเมื่อเปรียบกับจำนวนประชากรของไทยที่มีจำนวนประมาณ 70 ล้านคนจึงจะเป็นประเด็นที่เป็นอุปสรรคต่อการออมาภาคประชาชนของไทย

อีกทั้งจะเป็นการสร้างอุปสรรคในการสร้างธุรกิจใหม่ๆ คือ ธุรกิจกลุ่ม New Economy และเทคโนโลยีที่รัฐบาลมีนโยบายต้องการสนับสนุนให้เข้ามาระดมเงินทุนในการขยายธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศ

นอกจากนี้ยังมีผลกระทบต่อเม็ดเงินลงทุนของต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยซึ่งรัฐบาลต้องการดึงดูดให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในตลาดทุนไทย และผลักดันให้ไทยขึ้นเป็นศูนย์กลางการระดมทุนในภูมิภาคอาเซียนโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ กัมพูชา, ลาว, เมียนมา และเมียนมา(CLMV) เนื่องจากจะทำให้ต้นทุนการเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติเพิ่มทันที ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นที่พัฒนาแล้วอย่างตลาดหุ้นสิงคโปร์ที่ไม่มีการเก็บภาษี Transaction Tax จะทำให้ความน่าสนใจของตลาดหุ้นไทยลดลงเมื่อเปรียบกับตลาดหุ้นสิงคโปร์

ขณะที่กลุ่มนักลงทุนต่างชาติปัจจุบันถือว่ามีความสำคัญต่อตลาดหุ้นไทยอย่างมาก เนื่องจากปัจจุบันมีสัดส่วนต่อมูลค่าซื้อขายในตลาดหุ้นไทยที่สูงมากอยู่ที่ประมาณ 40% ของมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยที่ 6-7 หมื่นล้านบาทต่อวันเฉลี่ยต่อวัน ดังนั้นหากมีการเก็บ Transaction Tax ในตลาดหุ้นไทย เชื่อว่าจะมีผลกระทบให้มูลค่าการซื้อขายกลุ่มนักลงทุนต่างชาติลดลงอย่างมากทันที เพราะการซื้อขายมีต้นทุนที่แพงขึ้นมาก

"FETCO เองเคยให้เข้าไปชี้แจงให้ข้อมูลกับสรรพากรรวมถึงท่านรัฐมนตรีการคลังแล้วในเรื่องภาษี Transaction Tax มาหลายครั้งแล้วก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ที่สรรพากรมีแนวคิดปฎิรูปโครงสร้างภาษีใหม่ซึ่งเรายังคงยืนยันจุดยืนเดิมว่าไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้ เพราะผลลัพธ์ที่จะได้นั้นถือว่าได้ไม่คุ้มเสีย เพราะการเก็บภาษีขายหุ้นจะเป็นอุปสรรคที่เป็นภาระต้นทุนของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะในตาของนักลงทุนต่างชาติ เปรียบกับตลาดหุ้นสิงคโปร์ที่เขาไม่ได้เก็บภาษีส่วนนี้

ดังนั้นขอเสนอว่าควรเข้ามาใช้ประโยชน์จากตลาดทุนในด้านอื่นๆ มากกว่าเพื่อเป็นเครื่องพัฒนาระบบเศรษฐกิจของไทย ยกตัวอย่างตอนนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็กำลังจะตั้งกระดานหุ้นที่ 3 เพื่อให้ธุรกิจเอสเอ็มอีหรือสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพที่ยังเข้าไม่ถึงแหล่งทุนสามารถมาใช้เป็นช่องทางของแหล่งเงินทุนในการพัฒนาธุรกิจได้ และตอนนี้ยังไม่ใช่จังหวะเวลาที่เหมาะสมที่จะทำในเรื่องนี้ เพราะสภาพคล่องในระบบการเงินโลกกำลังเริ่มทยอยลดลงจากาการที่่เฟดกำลังจะเริ่มลดทำคิวอีด้วยซึ่งมีผลต่อเม็ดเงินลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอยู่แล้ว แต่สุดท้ายแล้วสรรพกรจะเก็บ Transaction Tax หรือไม่นั้นขึ้นกับการตัดสินใจของสรรพากร" นายไพบูลย์ กล่าว

advertisement

Powered by อมรินทร์ทีวีออนไลน์

ข่าวยอดนิยม