การเงิน

หุ้นทุนใหญ่ปิดช่วงเช้าในแดนเขียว ลุ้นโหวตนายกฯ 'พิธา' จะได้เก้าอี้หรือไม่

13 ก.ค. 66
หุ้นทุนใหญ่ปิดช่วงเช้าในแดนเขียว ลุ้นโหวตนายกฯ 'พิธา' จะได้เก้าอี้หรือไม่

วันนี้ (13 ก.ค.) หุ้นกลุ่มมือถือและโรงไฟฟ้าปิดภาคเช้าในแดนเขียว ในขณะที่ประชาชนทั้งประเทศกำลังจับตามองผลการโหวตนายกรัฐมนตรีในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาครั้งที่ 1 ที่จะเกิดขึ้นในเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันนี้ หลังฝ่ายวุฒิสภา (ส.ว.) อภิปราย 2 ชั่วโมง และตัวแทนพรรคจากสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) อภิปรายอีก 4 ชั่วโมง

โดยคำถามที่ทุกคนเฝ้ารอคำตอบในวันนี้ ก็คือ คำถามที่ว่า สุดท้ายแล้ว นาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกลที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคการเมือง 8 พรรค จะได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทยหรือไม่ หลังในวันที่ 12 ก.ค. เจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญได้รับเอกสารคำร้องวินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส. ของนายพิธา จากกกต. กรณี ‘ถือครองหุ้นสื่อไอทีวี’ และ ‘หาเสียงเลือกตั้งด้วยการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112’ 

ประเด็น 2 ประเด็นที่ถูก กกต.ยกขึ้นมานี้ทำให้หนทางการเป็นนายกรัฐมนตรีของ นายพิธา เจออุปสรรคใหญ่ทันที เพราะถึงแม้พิธาจะได้รับเสียงโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรีวันนี้ หากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องดังกล่าวในวันที่ 19 ก.ค.นี้ ซึ่งตรงกับกำหนดการโหวตเลือกนายกฯ ครั้งที่ 2 และออกมาตัดสินว่า พิธามีความผิดจริง สภาก็จะต้องเสนอชื่อแคนดิเดต และเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่อยู่ดี

และแน่นอนว่า เมื่อสถานการณ์อยู่ในความไม่แน่นอนแบบนี้ ตลาดหุ้นจึงมีความผันผวนหนัก เพราะยังคาดการณ์ไม่ได้ว่าคนจากพรรคใดจะได้นั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือจะมีการเปลี่ยนขั้วหรือไม่ เพราะพรรคที่ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลย่อมมีอำนาจในการกำหนดทิศทางการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งมีแนวคิดที่แตกต่างกันไปในแต่ละพรรค

โดยในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 1,491.11 จุด ลดลง 0.03% จากวันก่อนหน้า ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 22,041.2 ล้านบาท ในขณะที่หุ้นทุนใหญ่กลุ่มมือถือ และโรงไฟฟ้า มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถึงจะมีการแกว่งขึ้นลงตลอดช่วงเช้าจากความไม่แน่นอนในระหว่างที่ ส.ส. กำลังอภิปรายกันอยู่ว่าสมควรจะให้พิธาขึ้นเป็นนายกหรือไม่

‘หุ้นกลุ่มมือถือ’ อย่าง TRUE และ INTUCH ปรับตัวขึ้น 0.77% และ 2.4% ไปปิดที่ 6.55 และ 74.75 บาทตามลำดับ ในขณะที่ ADVANC ที่ INTUCH ถือหุ้นอยู่ 40.44% มีการปรับตัวขึ้นลงตลอดช่วงเช้า ก่อนปิดช่วงเช้าด้วยราคาเดียวกับราคาปิดวันก่อนหน้าที่ 217 บาท

ในขณะเดียวกัน ‘หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า’ ก็มีการปรับตัวขึ้นเช่นกัน เช่น GPSC และ BGRIM ที่ขึ้นไป 0.94% และ  0.71% ไปปิดที่ 53.5 บาท และ 35.50 บาท ตามลำดับ ในขณะที่ EGCO มีการแกว่งตัวขึ้นลงตลอดเช้าเช่นเดียวกัน ก่อนไปปิดที่ 131 บาท ระดับเดียวกับวันก่อนหน้า

618719

ก่อนหน้านี้ หุ้นในกลุ่มทุนใหญ่ได้รับแรงกดดันมาตลอดจากนโยบายทางเศรษฐกิจของพรรคก้าวไกลที่มุ่งเน้น ‘ทลายทุนผูกขาด’ เพื่อช่วยให้กลุ่มธุรกิจขนาดเล็กมีโอกาสขึ้นมาแข่งขัน แย่งส่วนแบ่งในตลาด ซึ่งจะลดความเหลื่อมล้ำ และกระจายรายได้ในประเทศอย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ภายหลังจากมีข่าวว่า เจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญได้รับเอกสารคำร้องวินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส. ของนายพิธา จาก 2 ประเด็นดังกล่าว หุ้นทุนใหญ่ก็มีการปรับตัวขึ้นทันที สะท้อนว่า นักลงทุนในหุ้นเหล่านี้เริ่มคลายความกังวล เพราะนโยบายทางเศรษฐกิจของหัวหน้ารัฐบาลใหม่ชุดนี้อาจไม่กระทบพวกเขา

อย่างไรก็ตาม จนกว่าจะมีผลการโหวตนายกรัฐมนตรีที่แน่นอน และผลวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญออกมา แน่นอนว่า ตลาดหุ้นไทยน่าจะตกอยู่ในภาวะความไม่แน่นอน และมีความผันผวนไปอีกซักพัก 

advertisement

SPOTLIGHT