รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1/2024 ของ Meta ถูกเผยแพร่อย่างเป็นทางการแล้ว ในภาพรวมการนำ AI มาเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ ทำให้ผลงานทางการเงินของ Meta แข็งแกร่งเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน
โดยรายได้ทั้งหมดในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 27% อยู่ที่ 36,455 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 36,160 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่กำไรพุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ 117% แตะ 12,369 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และกำไรต่อหุ้นที่เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าเป็น 4.71 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเกินความคาดหมายของการคาดการณ์ของ Wall Street ที่ 4.32 ดอลลาร์สหรัฐฯ
Mark Zuckerberg เผยว่า เป้าหมายหลักในช่วงที่เหลือของปี 2024 และอาจยาวไปถึงปี 2025 คือการทำให้ผู้คนนับล้านใช้ ‘Meta AI’ โดยย้ำว่า Meta จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาก่อนที่จะนำไปสู่การหารายได้ ซึ่งก็เหมือนกับโมเดลของ Instagram Reels ที่ในอดีตไม่ได้สร้างรายได้ทันที แต่ตอนนี้กลายเป็นธุรกิจโฆษณาของ Meta ที่ทำกำไรได้
Zuckerberg ยังย้ำด้วยว่า “เรามองโลกในแง่ดีและมีความทะเยอทะยานในด้าน AI มากกว่าไตรมาสที่แล้ว”
อย่างไรก็ตาม สำหรับไตรมาสที่ 2/2024 Meta วางแผนที่จะใช้จ่ายกับ AI มากขึ้น โดยคาดว่ามูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 30,000-40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มากกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 35,000-37,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดว่ารายได้สำหรับไตรมาสที่จะถึงนี้ จะอยู่ที่ประมาณ 37,750 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 18% จากไตรมาสแรก ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ในระดับ 38,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ทำให้ราคาหุ้นตกลงมากกว่า 15% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการหลังการรายงานผลประกอบการ เนื่องจากการคาดการณ์ยอดขายที่อ่อนแอแลการใช้จ่ายที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อนักลงทุน
Mike Proulx รองประธานฝ่ายวิจัยของ Forrester กล่าวว่า ตอนนี้ Meta ทุ่มเทให้กับ AI แบบไร้ข้อสงสัย แต่เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ของบริษัท Meta จะต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมหาศาล ถึงแม้ Meta เคยมีความคิดแบบนี้กับ Metaverse ที่สุดท้ายไม่ได้ไปด้วยดีนัก แต่สำหรับครั้งนี้ต่างกัน เพราะ AI มีกรณีการใช้งานจริง และใช้งานได้จริงแล้ว
ถึงแม้หุ้นของ Meta เพิ่มขึ้นเกือบ 40% ในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนต่างเห็นจุดเปลี่ยนของบริษัทจากการลงทุนใน metaverse ไปสู่การพัฒนา AI แต่สิ่งสำคัญก็คือ Meta จะสามารถแข่งขันในการพัฒนา AI ในขณะที่ยังคงรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งได้หรือไม่
Max Willens นักวิเคราะห์อาวุโสของ Emarketer กล่าวว่า ถึงแม้ผลลัพธ์บริษัทจะเป็นบวก ธุรกิจโฆษณาที่กำลังคึกคัก จนกลับมาสร้างผลกำไรที่น่าอิจฉาอีกครั้ง แต่ Meta จำเป็นต้องคงโมเมนตัมที่สูงขึ้นต่อไปเมื่อเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น
ที่มา The Guardian