ในวงการโซเชียลมีเดีย มวยคู่ทุกคนจับตาก็คงหนีไม่พ้น ‘มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก’ และ ‘อีลอน มัสก์’ ที่กำลังเสี่ยงมีเรื่องฟ้องร้องกันอยู่จากการที่อินสตาแกรมเปิดแอปพลิเคชั่น ‘Threads’ ที่มีฟีเจอร์คล้ายทวิตเตอร์ขึ้นมาแข่ง ทำให้ทวิตเตอร์ที่กำลังง่อนแง่นเสี่ยงเสียฐานผู้ใช้ให้แอปตัวใหม่นี้
โดยในเนื้อหาจดหมายที่เปิดเผยครั้งแรกโดยสำนักข่าว Semafor เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ทนายของทวิตเตอร์ระบุว่า ทางทวิตเตอร์มีข้อกังวลว่า Meta Platforms ได้นำข้อมูลลับทางการค้าทรัพย์สินทางปัญญาอื่นๆ ของทวิตเตอร์ ไปใช้ในการสร้าง Threads และยังได้ให้ลูกจ้างเก่าของทวิตเตอร์ที่ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลลับของทวิตเตอร์ได้อยู่ช่วยพัฒนาแอปพลิเคชั่นดังกล่าว ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ
นอกจากนี้ อีลอน มัสก์ ยังได้ออกมาทวีตเมื่อวันพฤหัสที่ 6 ก.ค. หรือหนึ่งวันก่อนมีจดหมายเตือนอีกด้วยว่า “การแข่งขันเป็นเรื่องโอเค แต่การโกงไม่ใช่” เป็นการว่ากระทบกลายๆ ว่า Meta กำลังเอาความลับทางการค้าของทวิตเตอร์ไปใช้พัฒนาแอปที่คล้ายทวิตเตอร์ขึ้นมาแข่งในระยะเวลาสั้นๆ
ซึ่งเมื่อถูกกล่าวหาดังกล่าว ‘แอนดี้ สโตน’ ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารของ Meta ก็ได้ออกมาตอบกลับเพื่อยืนยันว่า ในทีมวิศวกรที่สร้างแอป Threads ขึ้นมาไม่มีพนักงานที่เคยทำงานที่ทวิตเตอร์มาก่อน นอกจากนี้ จากการรายงานของ The Guardian ทวิตเตอร์ยังไม่มีหลักฐานอีกด้วยว่าพนักงานเก่าของทวิตเตอร์ที่ในปัจจุบันทำงานกับ Meta ยังสามารถเข้าถึงความลับทางการค้าของทวิตเตอร์ได้หรือไม่ และเมื่อขอความเห็นกลับไปทางทวิตเตอร์ ก็ได้แต่ข้อความอัตโนมัติเป็นอิโมจิรูปอุจจาระกลับมา
ความขัดแย้งบาดหมางในครั้งนี้จึงมีสิทธิที่จะกลายไปเป็นเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลกันอีกในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแอป Threads ดูเหมือนจะไปได้ดี เพราะดึงคนมาใช้แพลตฟอร์มได้ถึง 70 ล้านคนภายในวันแรกที่ปล่อย และ 100 ล้านคนภายใน 5 วันแรก ซึ่งสาเหตุหลักๆ ก็เป็นเพราะผู้ใช้ทวิ ตเตอร์สะสมความไม่พอใจมัสก์มานานแล้ว ก่อนจะมาระเบิดในวันที่ทวิตเตอร์ออกมาจำกัดการมองเห็นโพสต์ของผู้ใช้ในไม่กี่วันก่อนอินสตาแกรมประกาศปล่อย Threads
วิกฤตของมัสก์ คือโอกาสของมาร์ก
อย่างไรก็ตาม นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่วิกฤตของอีลอน มัสก์ กลายเป็นประโยชน์กับตัวมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เพราะในช่วงปี 2022 มัสก์ก็เคยช่วยมาร์กให้พ้นจากสายตาสื่อมาแล้วด้วยการทำตัวเป็นเป้าเสียเอง
ในต้นปี 2022 เฟซบุ๊กกำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เพราะมีการเปิดเผยเอกสารลับของบริษัทจำนวนมากที่ระบุว่าเฟซบุ๊กปล่อยให้มีการเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกบิดเบือน หรือข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงในแพลตฟอร์ม ปล่อยให้มีข้อความแสดงความเกลียดชัง ปลุกระดมมวลชนจนก่อให้เกิดจลาจลในวันที่ 6 มกราคม 2022 นอกจากนี้ยังพยายามเพิ่มฐานผู้ใช้อายุน้อยทั้งที่มีการศึกษาออกมาว่าแพลตฟอร์มของ Meta ทั้งเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมทำให้สุขภาพจิตของคนอายุน้อยแย่ลง
แต่ Meta อยู่ในสายตาสื่อไม่นาน อีลอน มัสก์ ก็ดึงความสนใจจากทุกคนไปด้วยมหากาพย์แอปทวิตเตอร์ ที่สุดท้ายมัสก์ต้องเข้าไปซื้อเพราะเคยออกปากไว้จนเป็นสัญญาผูกมัดตัว ต้องเสียเงินถึง 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อซื้อแอป และต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาปิดดีล ตามมาด้วยการเลย์ออฟพนักงานขนานใหญ่ และการขาย Twitter Blue ให้คนยืนยันตัว เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มรายได้อย่างโจ่งแจ้งที่เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากทุกคน
นี่ทำให้ Meta และมาร์กหายไปจากความสนใจของผู้คนและสื่อ และกลับไปฟื้นฟูธุรกิจที่กำลังอยู่ในขาลงได้อย่างสบายใจ ในขณะที่อีลอน มัสก์ถูกสื่อจับตาทุกการเคลื่อนไหว ทำอะไรก็มีคนวิจารณ์ ซึ่งเมื่อมัสก์มาเดินเกมพลาดและจำกัดการมองเห็นโพสต์ในทวิตเตอร์จนทำให้ผู้ใช้อยากหนีอีก มาร์กก็ได้โอกาสปล่อยแอปคู่แข่งออกมาดึงผู้ใช้ เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ใช้และช่องทางหายรายได้ที่ลดลงในช่วงปีที่ผ่านมา
ในปี 2023 ผลประกอบการของ Meta อยู่ในขั้นย่ำแย่เพราะตัวแพลตฟอร์มมีรายได้จากการโฆษณาออนไลน์ลดลง และยังขาดทุนไปจำนวนมากถึง 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการดำเนินธุรกิจ Metaverse ที่ไม่ได้รับความนิยมอย่างหวัง
อย่างไรก็ตาม แอฟพลิเคชั่น Threads คือความหวังใหม่ของมาร์ก เพราะถ้าหากสามารถพัฒนาแอปจนเสถียรและดึงผู้ใช้มาได้ นอกจากจะเป็นการเพิ่มผู้ใช้อินสตาแกรมเพราะ Threads เป็นแอปที่ผู้ใช้ต้องใช้แอคเคาท์ของอินสตาแกรมในการสมัครแล้ว ยังเป็นการเปิดช่องให้ Meta หาช่องทางโฆษณาแหล่งใหม่ เพื่อมาทดแทนรายได้โฆษณาในเฟซบุ๊กที่ลดลง
ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหาก Meta ทำได้สำเร็จ ทวิตเตอร์ของอีลอน มัสก์ต้องตกที่นั่งลำบากแน่นอน เพราะในตอนนี้หากอยากให้ทวิตเตอร์อยู่รอด มัสก์ต้องทั้งรักษาผู้ใช้เดิม และเพิ่มผู้ใช้ใหม่ เพื่อที่จะได้ไปขายโฆษณาหารายได้ให้กับบริษัทได้ และการทำแบบนั้นจะเป็นเรื่องยากขึ้น ถ้าคู่แข่งทำแอปในลักษณะคล้ายกันที่มีฟีเจอร์ดีกว่าขึ้นมาสำเร็จ
ทำให้หลังจากนี้ เราก็ต้องมาดูกันว่าอนาคตของ Threads จะเป็นอย่างไร จะแย่งฐานผู้ใช้ไปจากทวิตเตอร์ได้สำเร็จหรือเปล่า เพราะถ้าหากมัสก์เดินเกมผิดพลาดจนเปิดช่องให้คู่แข่งได้รับความนิยมขึ้นมาอีก สุดท้ายแล้วมัสก์ก็อาจจะต้องแพ้ศึกมวยกรงที่เขากับมาร์กคุยกันไว้โดยที่ยังไม่ทันได้ขึ้นสังเวียนเลยก็ได้
อ้างอิง: CNN, The Washington Post, Semafor