กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "เจ๊ม้อยv plus" โพสต์ข้อความระบุว่า "ทำพฤติกรรมอย่างนี้ก็ไม่ไหว เอาผ้าอนามัยมาแขวนหน้าบ้าน เขียนป้าย คนแถวนั้นคงเดือดร้อนกับพฤติกรรม บางวันอุจจาระ เจ้าหน้าที่มาแล้วก็ด่าเจ้าหน้าที่ จะอย่างไรก็รอป้าออกมาชี้แจง ฝากหน่วยงานเข้าเจรจาด้วย ซอยสุขสวัสดิ์ 30 หลังเซเว่น #คลิปในเมนต์"
ล่าสุดวันที่ 27 เม.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่เคหะ สุขสวัสดิ์ 38 พบว่าราวตากที่ได้แขวนผ้าอนามัยเอาไว้เป็นพื้นที่จอดรถ เป็นพื้นที่สาธารณะ ส่วนห้องพักคุณแอนเจ้าของผ้าอนามัยอยู่เยื่อง ๆ ฝั่งตรงข้ามที่มีถนนกั้น มีความยาวประมาณ 6 ม.
นางอรพิณ เดชมา อายุ 38 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่วานนี้ (26 เม.ย.64) ช่วงเวลา 17.30 น. ตนจะนำรถเก๋งของตนไปจอดเข้าซอง โดยช่องดังกล่าวกลับมีราวตากผ้าที่แขวนผ้าอนามัยไว้ เมื่อเห็นแล้วตนมองว่าไม่ยุติธรรม คู่กรณีไม่สมควรกระทำแบบนี้ แล้วอีกอย่างผ้าอนามัยมีเชื้อโรค จึงได้ยกราวตากผ้าออก เพื่อจะเข้าไปจอดรถเก๋ง ส่วนตัวแล้วไม่ได้มีปัญหาอะไรกับคู่กรณี
ขณะเดียวกันคู่กรณีได้ปรี่เข้ามาผลักราวตากผ้าที่แขวนผ้าอนามัยใส่หน้ารถของตน ก่อนจะวิ่งหนีเข้าไปในบ้าน ตนทำได้เพียงตกใจ และตัดสินใจเข้าไปแจ้งความ นอกจากนี้ ตำรวจได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ ได้พูดคุยกับคู่กรณี แต่ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ไม่ยอมรับว่าทำผิด อ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นหน้าบ้านของเขาเอง
ทั้งนี้ตนทราบมาว่าคู่กรณีนำผ้าอนามัยที่ใช้แล้วมาแขวนตากไว้ 4-5 วัน ตนไม่ทราบว่าคู่กรณีต้องการอะไร ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นช่องจอดรถทุกคนที่อยู่เคหะสามารถนำรถมาจอดได้ เพราะเป็นพื้นที่สาธารณะ ตนอาศัยอยู่ที่เคหะดังกล่าวได้ 18 ปีแล้ว ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใคร แต่คู่กรณีมักมีปัญหากับผู้อื่น จนต้องให้เจ้าหน้าที่เขตมาเป็นตัวกลางช่วยเคลียร์ปัญหา แต่ไม่สามารถเจรจากันได้
อย่างไรก็ตาม ตนเคยถูกคู่กรณีใช้อุจจาระปาใส่หน้ารถเมื่อเดือนมี.ค.63 ที่ผ่านมา ขณะนี้เพื่อนบ้านต้องการให้เขาออกไป เพราะเหมือนจะได้สร้างแต่ปัญหา ไม่ยอมเป็นมิตรกับใคร การที่อยู่ร่วมกันต้องเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ คู่กรณีต้องเข้าใจว่าที่จอดรถดังกล่าวเป็นพื้นที่ส่วนรวม ไม่ใช้พื้นที่ส่วนบุคคล
ขณะเดียวกันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา คุณแอน คู่กรณีของนางอรพิณ ได้เดินออกมาจากหน้าบ้าน เพื่อจะไปเดินทางไปยังสน.ราษฎร์บูรณะ แจ้งความเอาผิดในข้อกล่าวหาพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และบุกรุกพื้นที่จอดรถ โดยคุณแอนอ้างว่าที่จอดรถเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ซึ่งทำให้เธอได้เจอกับผู้เสียหาย
โดยผู้เสียหายได้สอบถามคุณแอนเรื่องการรับผิดชอบกับเรื่องผลักราวตากผ้าใส่หน้ารถ ทำให้หน้ารถเธอเป็นรอย ซึ่งคุณแอน ระบุว่า ให้ตำรวจจัดการ ผู้เสียหายไม่ต้องมาพูดกับเธอ ก่อนที่จะเดินคุยโทรศัพท์และขึ้นรถออกไป
ขณะเดียวกันทีมข่าวได้เดินทางไปสน.ราษฎร์บูรณะ โดยคุณแอน ได้ตัดสินใจลงบันทึกประจำวันเอาไว้ก่อน จากนั้นคุณแอน ได้ออกมาจากห้องสอบสวน ทีมข่าวขอสัมภาษณ์แต่ถูกปฏิเสธ คุณแอน กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า "วันนี้เดินทางมาแจ้งความ แต่ไม่ทราบว่าแจ้งข้อหาอะไรบ้าง"
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามเรื่องผ้าอนามัยว่า เป็นประจำเดือนจริงหรือปลอม คุณแอน ระบุเพียงว่า "ลองไปชิมดูนะจ๊ะ" ก่อนปิดประตูรถ และรถเก๋งได้เคลื่อนออกตัวไป
นอกจากนี้ทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของอดีตสามีคุณแอน โดยฝ่ายชายให้ข้อมูลว่า ฝ่ายหญิงไม่ได้กลับมาที่บ้าน ตนไม่ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เท่าที่สังเกตอดีตภรรยาของตนน่าจะถูกกลั่นแกล้ง จึงทำให้จิตตก ทำอะไรลงไปโดยไม่ยั้งคิด
ทีมข่าวได้สอบถามทางนิติบุคคลเรื่องพื้นที่จอดรถ โดยนิติบุคคล ระบุว่า ที่จอดรถเป็นของส่วนรวม ไม่ใช่ของส่วนบุคคล หากใครมาก่อนสามารถจอดได้ ไม่มีการให้จองที่แต่อย่างใด ยอมรับว่าห้องของคุณแอนมักจะมีปัญหากับลูกบ้านบ่อย ๆ ครั้ง แม้ว่านิติบุคคลหรือคณะกรรมเคหะเข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจกับคุณแอนแล้ว แต่เธอยังปฏิบัติเช่นเดิม กลายเป็นปัญหาเรื้อรังมาจนถึงทุกวันนี้ และภายหลังคาดว่าทางคณะกรรมการของเคหะ น่าจะเรียกประชุมเพื่อหาทางแก้ไขอีกรอบ
