จากกรณี นายตั้ม อายุ 19 ปี ผู้ต้องใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นแบบไทยประดิษฐ์ยิง นายพันยศ หรือ น้องปลื้ม อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 ที่บริเวณศาลาริมทางถนนสายบายพาสสามแยกเอ็กซเรย์-สี่แยกบ้านกร่าง ต.ท่าทอง อ.เมืองพิษณุโลก หน้าทางเข้าโรงเรียน กระสุนปืนฝังในบริเวณศีรษะ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อมานายตั้มเข้ามอบตัวต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อเย็นวันที่ 2 เม.ย. ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด วันที่ 5 เม.ย. 64 มีรายงานว่า น้องปลื้มได้เสียชีวิตลงแล้ว ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ต้องรอใบรับรองการเสียชีวิตจากแพทย์ จากนั้นจึงจะตั้งข้อหาแก่นายพัฒนกรเพิ่มเติมในชั้นศาล ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พร้อมนำตัวไปฝากขังต่อไป
ที่วัดแสงดาว ต.ปากโทก อ.เมือง จ.พิษณุโลก บรรยากาศงานรดน้ำศพน้องปลื้มเป็นไปอย่างโศกเศร้า นางอมร เวหาธนโชติ อายุ 66 ปี ยายที่เลี้ยงน้องปลื้มมาตั้งแต่เด็ก กล่าวทั้งน้ำตาว่า น้องปลื้มเป็นเด็กดี มีสัมมาคารวะ ไม่เคยดื้อ ตั้งใจเรียน เรียนเก่ง มุ่งมั่นว่าจะเป็นนายร้อยทหารให้ได้ จะคว้าดาวมาติดบ่าให้พ่อแม่และแม่ใหญ่ชื่นชมให้ได้
โดยมีกำหนดไปสอบเข้าเรียนทหารช่างเมื่อวันเสาร์ที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ทันได้สอบตามตั้งใจหมาย เพราะหลานมาถูกคนใจเหี้ยมยิงเสียก่อน อีกทั้งจะบวชให้ครอบครัวแต่ก็ไม่มีโอกาสแล้ว
สำหรับตอนที่น้องยังมีชีวิตอยู่ ตนสวดมนต์ภาวนาทุกวัน ขอให้มีปาฏิหาริย์ ส่วนตัวไม่มีโอกาสได้ไปเยี่ยมหลา นเพราะมีปัญหาเรื่องสุขภาพ พ่อแม่น้องปลื้มเองก็บอกตลอดว่าน้องอาการดีขึ้นแล้ว จนมาวันนี้ ตนได้รับข่าวร้าย เสียใจมาก หลานยังไม่ได้ทำตามฝัน ตนจะไม่มีวันอโหสิกรรมให้คนร้ายเด็ดขาด เพราะเขาเหี้ยมโหดเกินไป แค่คนทะเลาะกันต่อยกันก็น่าจะเพียงพอแล้ว ทำไมต้องถึงขั้นลงไม้ลงมือฆ่าแกงกันด้วย ขอให้เขาได้ชดใช้กรรมตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
สำหรับพิธีศพของน้องปลื้ม นางอัมพันธ์ เวหานราพงศ์ แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนอยากให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะว่าอย่างน้อยจะได้เป็นคดีตัวอย่าง ทำให้นักเรียนไม่กล้าจะทำอย่างนี้อีก โหดร้ายเกินไปไหน เด็กเสียขวัญ พ่อแม่ไม่มีใครอยากจะสูญเสีย แต่มันเกิดขึ้นแล้วเราก็ต้องรับสภาพ
ตนอยากให้จัดการให้กับคนร้ายให้ถึงที่สุด ไม่อยากให้มีคนแบบนี้ในแผ่นดินบ้านเรา อยากฝากเตือนสังคม อย่าทำอะไรที่มันรุนแรงแบบนี้อีก เราอยู่ด้วยกัน เป็นนักเรียน เป็นพี่น้องกัน ไม่น่าจะทำกันถึงขนาดนี้ การตัดสินปัญหาทุกอย่างมีทางออก
จากการตรวจสอบพบว่า เฟซบุ๊กของ "สมาคมนักเรียนเก่า พิษณุโลกพิทยาคม" มีการโพสต์รูปน้องปลื้มในสีขาวดำ พร้อมระบุว่า "นายกสมาคมนักเรียนเก่า พิษณุโลกพิทยาคมและคณะกรรมการสมาคมนักเรียนเก่า พิษณุโลกพิทยาคม นักเรียนเก่า พิษณุโลกพิทยาคมทุกท่าน ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวเจริญภักดีที่สูญเสียบุตรชาย นายพันยศ เจริญภักดี นักเรียนชั้น ม.5/2"
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้รับคลิปวิดีโอของน้องปลื้ม เป็นคลิปที่น้องปลื้มถ่ายคู่กับเพื่อน ๆ พร้อมลงสถิติทดสอบการวิ่ง ก่อนจะเข้ารับการทดสอบเกณฑ์ทหารก่อนที่จะเสียชีวิต
จากการตรวจสอบเฟซบุ๊กของน้องปลื้ม พบว่า วันที่ 16 มี.ค. 64 น้องปลื้มได้แชร์ข้อมูลจากเพจ "ปั้นดาวพิษณุโลก นายร้อย" เป็นข้อมูลเกี่ยวกับการเปิดรับสมัครนักเรียนของโรงเรียนเตรียมทหาร วันที่ 17 มี.ค. น้องปลื้มได้แชร์ข้อมูลกฎของการออกกำลังกาย แชร์รูปภาพของตัวเองจากเพจ "ปั้นดาวพิษณุโลก นายร้อย" เป็นภาพขณะที่ตัวเองกำลังฝึกเตรียมความพร้อมของร่างกาย
วันที่ 20 มี.ค. น้องปลื้มได้แชร์รูปภาพของตัวเองจากเพจ "ปั้นดาวพิษณุโลก นายร้อย" เป็นภาพขณะที่ตัวเองไปติวสอบเตรียมทหาร และวันที่ 24 มี.ค. น้องปลื้มได้โพสต์แชร์ข้อความของเพจ "เตรียมทหาร online" เป็นข้อมูลเกี่ยวกับข้อสอบ จปร. ปี 62 และ 63 แสดงให้เห็นความฝันของน้องปลื้มที่อยากเป็นทหาร
