เปิดใจตัวแทนขาย Lyn รับทรัพย์เฉียดแสน เพิ่งรู้อย.ปลอม ขอเลิก จ่อฟ้องแม่ทีมหลอกลวง (คลิป)

วันนี้ (2 พ.ค. 61) บรรยากาศพิธีฌาปนกิจศพนายประภัทร ลำใย อายุ 48 ปี ผู้เสียชีวิตด้วยการหัวใจวายเฉียบพลัน เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่วัดบัวแก้วเกษร จังหวัดปทุมธานี เป็นไปอย่างโศกเศร้า บรรดาญาติสนิทและเพื่อนๆ ต่างเดินทางมาไว้อาลัยผู้วายชนม์เป็นครั้งสุดท้าย โดยมีพลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน เป็นประธานในพิธี

โดยนายสายทรัพย์ โพธิวิพุฒ อายุ 40 ปี หรือ ทรัพย์ หนึ่งในเพื่อนสนิทผู้ตายเล่าให้ฟังว่า วันที่ 23 เม.ย. ตนพบกับนายประภัทรที่สนามแบดมินตันแถวลาดหลุมแก้ว ซึ่งตอนนั้นก็ดูปกติดี ไม่มีอาการอะไรผิดปกติ หรือบ่งบอกว่าเหนื่อยล้า แต่ก่อนหน้านั้นหลายเดือนเจ้าตัวเคยบอกว่าน้ำหนักลดลงแล้ว 1 กิโลกรัม กางเกงหลวมแล้วนะ แต่ไม่เคยพูดว่ากินยา เมื่อทราบว่าเพื่อนเสียชีวิต และมีการตั้งข้อสงสัยว่าน่าจะเป็นเพราะยาลดน้ำหนัก ตนก็รู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าเพื่อนจะกิน ทั้งๆ ที่ก็เห็นเล่นกีฬาและไม่ได้ดูอ้วน แค่ท้วมๆ แต่ส่วนตัวก็เชื่อว่าน่าจะเป็นเพราะยาจริงๆ เพราะเพื่อนเป็นคนแข็งแรงมาก คุณทรัพย์บอกด้วยว่า เพื่อนคนนี้เป็นคนร่าเริง ใครอยู่ด้วยก็มีความสุข ไปไหนคนก็ต้อนรับ ตนจึงเสียใจมากที่เพื่อนจากไป อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้อย.เข้มงวดกับการตรวจสอบยาขึ้นทะเบียนให้มากกว่านี้ เพราะยาแบบนี้มีเยอะมาก หากบอกว่าเจ้าหน้าที่ไม่พอ ก็เป็นหน้าที่ของกระทรวงนั้นๆ ที่ต้องสรรหาคนมา เมื่อถามว่าโกรธคนผลิตยายี่ห้อลินหรือไม่ คุณทรัพย์บอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของจิตสำนึก ถ้าคนมีจิตสำนึกดีก็คงจะไม่ผลิตของที่ทำให้คนเสียชีวิตแบบนี้

นอกจากนี้ น.ส.เอ้ (นามสมมติ) อายุ 45 ปี อดีตตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Lyn เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเดือนพ.ย. 60 น้องที่ทำงานได้แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ Lyn จึงได้คุยกับเพื่อนก่อนที่ตกลงจะที่จะกิน โดยตอนนั้นซื้อมาคนละ 10 กล่อง หลังจากกินไปได้ระยะหนึ่ง รู้สึกว่าขับถ่ายได้ตามปกติและไม่มีผลกระทบอะไร จึงได้ตัดสินใจเป็นตัวแทนจำหน่าย เพราะเห็นว่าหากขายได้จำนวนมาก ก็จะได้กำไรดี และได้มีการตรวจสอบเลข อย. เนื่องจากถูกปลูกฝังมาว่า ถ้าผลิตภัณฑ์ไหนมี อย. ถือว่าปลอดภัย แต่ยอมรับว่าไม่ได้มีการตรวจสอบเลขฮาลาล เพราะตนไม่ได้เป็นมุสลิม และลูกค้าของตนคงไม่มีกลุ่มเป้าหมายนี้ รอบแรกได้รับมา 50 กล่อง ไม่ถึง 1 สัปดาห์ ก็ขายผลิตภัณฑ์ได้หมด ยอดรวมจนถึงขณะนี้ที่ขายได้คือ 800 กล่อง ได้กำไรประมาณ 30,000 บาท โดยรอบสุดท้ายได้มีการสั่งไปอีกประมาณ 2,000 กล่อง

น.ส.เอ้ บอกว่า หลังจากเห็นข่าวก็รู้สึกตกใจ ตนรอเจ้าของผลิตภัณฑ์มาชี้แจง แต่รอ 2-3 วัน ก็ไม่มีการชี้แจง ซึ่งส่วนตัวอยากให้ออกมาบอกว่า จะมีการจัดการอย่างไรกับปัญหานี้ ล่าสุดเห็นเพียงว่ามีคำชี้แจงจากหัวหน้าทีมว่า ได้ให้ทางสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานีเข้าไปตรวจสอบที่โรงงาน และจะมีการส่งผลิตภัณฑ์ไปให้ อย.ตรวจสอบ แต่ทุกวันนี้ตนยังไม่เห็นความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว เบื้องต้นทราบว่า จะมีการเปิดรับคืนสินค้าด้วย โดยก่อนที่จะขายผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้า จนจะมีการบอกว่า ถ้ากินแล้วเกิดผลกระทบที่ไม่ดีก็จะรับคืนสินค้า แต่หลังเกิดเรื่องตนได้ประกาศหยุดขายแล้ว และยอมรับว่าเข็ดในการขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม แต่คิดว่าทุกอย่างคงมีวิธีการตรวจสอบ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่เหลือนี้คงไม่ได้คืน แต่อาจเก็บไว้ พร้อมพูดติดตลกว่า "คงเอาสินค้าไปถมที่" อย่างไรก็ตาม น.ส.เอ้ คาดว่าจะฟ้องร้องบริษัท เนื่องจากลูกทีมของตนส่วนใหญ่รับราชการ และถือว่ามีหน้าตาในสังคม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจที่ได้มีการส่งตรวจสอบไป