เหยื่อบัส 18 ศพ แฉโชว์เฟอร์ขับเหวี่ยง เตือนแล้วแต่ไม่ฟัง ซัดบ.รถทัวร์เลิกกิจการ

กรณีรถบัสของบริษัทกันเองทัวร์กาฬสินธุ์ แหกโค้งชนต้นไม้ บนถนนสาย 304 อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 18 ศพ บาดเจ็บ 34 ราย วานนี้ (22มี.ค.) ทีมกู้ภัยจังหวัดนครราชสีมา ได้นำศพมาส่งให้กับญาติที่จังหวัดกาฬสินธุ์เป็นที่เรียบร้อย

ล่าสุดวันนี้ (23มี.ค.) บรรยากาศงานศพภายในวัดป่าพุทธมงคล อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เต็มไปด้วยความโศกเศร้า และต่างพากันจับกลุ่มวิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ถึงสาเหตุว่ารถบัสเบรกแตก หรือเป็นเพราะคนขับเมายาบ้า ทั้งนี้ นายบุญจันทร์ จำปาศรี อายุ 57 ปี สามีของนางนภาวรรณ จำปาศรี ผู้เสียชีวิต และเป็นญาติของ นางประจิม ถิตย์ประไพ ผู้รอดชีวิต เล่าว่า การขับรถของคนขับเฉพาะขากลับ ตั้งแต่ออกมา ได้ขับรถเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา และวิ่งด้วยความเร็ว ซึ่งผู้โดยสารก็ได้ไปตักเตือน แต่ไม่ได้มีการลดความเร็ว จนมาถึงที่เกิดเหตุ ได้กลิ่นเหม็นไหม้ จากนั้น มีคนตะโกนว่า "รถเบรกแตก" ก่อนจะชนเข้ากับเกาะกลางถนน และพุ่งชนต้นไม้ ส่วนตัวมองว่า "เป็นความประมาทและไม่น่าให้อภัย บริษัทนี้ควรจะยกเลิกกิจการ เพราะคงไม่มีใครกล้าไปใช้บริการอีก"

นายบุญจันทร์ เล่าต่อว่า เท่าที่สอบถาม นายประจิมฯ ทราบว่าภายในรถ ยังมีคนขับเพียงคนเดียว ไม่มีคนสับเปลี่ยน ซึ่งตนเคยเตือนญาติไปแล้วว่าเดินทางด้วยรถทัวร์อาจจะไม่ปลอดภัย โดยหลังจากเกิดเหตุ ส่วนตัวยังไม่เห็นว่าเจ้าของบริษัทจะมาพูดคุยหรือช่วยเหลือแต่อย่างใด ตนจึงต้องการให้ออกมาแสดงตัว และไปกราบขอขมาญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตด้วย

ด้านนายกฤษฏา มะลิซ้อน ขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้ขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ดำเนินการกับผู้ประกอบการสองกรณี คือ 1.ทำการเพิกถอนทะเบียนรถบัส หมายเลย กส 30-0161 รถคันเกิดเหตุแล้ว และได้เรียกให้ผู้ประกอบการนำรถคันอื่นมาตรวจสอบในวันพรุ่งนี้ นอกจากนี้ เป็นไปได้ว่าผู้ประกอบการ จะยุติการทำทัวร์ ด้วยเนื่องจากเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า นายสายันต์ บุญสนาม เจ้าของบริษัทกันเองทัวร์ ได้เดินทางนำพวงหรีดไปเคารพศพ ทั้ง 18 ศพ พร้อมกับแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยกล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าคนขับรถเสพยาบ้า เนื่องจากคนขับมีอาชีพขับรถบัสรับจ้าง และได้ผ่านการสอบมาแล้ว ในส่วนของตนซึ่งจะว่าจ้างเป็นครั้งคราวเท่านั้น นายสายันต์ กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วานนี้ (22มี.ค.) ก็ได้ไปดูรถและเห็นซาก ทำให้จิตใจเจ็บปวดมาก เพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น และขณะนี้ตนได้เตรียมเอกสารหลักฐาน ซึ่งได้ทำประกันภัยไว้ ยื่นให้จ่ายค่าสินไหมทดแทน ตนพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทางราชการ พร้อมจะช่วยเหลือผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอย่างเต็มที่