ประวัติศาสตร์หน้าใหม่และแรงบันดาลใจให้กับสตรีทั่วโลก หลัง "คามาลา แฮร์ริส" จ่อขึ้นแท่นเป็น รองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของ สหรัฐฯ
"คามาลา แฮร์ริส" ว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ด้วยการเป็นสตรีคนแรกที่เตรียมรับตำแหน่งนี้ และเธอยังเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียและเชื้อสายแอฟริกันคนแรก ที่ได้รับตำแหน่งผู้นำสูงสุดลำดับที่ 2 ของทำเนียบขาว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เกาะติดเลือกตั้งสหรัฐฯ2020: "ไบเดน" คณะผู้เลือกตั้งเกิน 270 คะแนน ขึ้นแท่นว่าที่ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ
- เกาะติดเลือกตั้งสหรัฐฯ2020: "ทรัมป์" จ่อฟ้องทุกรัฐที่ "ไบเดน" ชนะ
- เกาะติดเลือกตั้งสหรัฐฯ2020: ส่อเค้าวุ่น! "ทรัมป์" ชี้ มีการโกงเลือกตั้ง
- เกาะติดเลือกตั้งสหรัฐฯ2020: "ทรัมป์" ประกาศชนะเลือกตั้งแล้ว เตรียมฉลอง
"คามาลา แฮร์ริส" วัย 56 ปี คือผู้ที่ได้รับการวางตัวให้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ในการสู้ศึกชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2024 หาก "ไบเดน" ซึ่งขณะนี้อายุ 78 ปี ตัดสินใจไม่สู้ศึกต่อในสมัยที่ 2
ทั้งนี้ "แฮร์ริส" ดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกจากรัฐแคลิฟอร์เนีย และมีประวัติทลายเพดานแก้วมาแล้วหลายครั้ง โดยเธอดำรงตำแหน่งอัยการเขตหญิงคนแรกของนครซานฟรานซิสโก และยังเป็นหญิงเชื้อสายแอฟริกัน-เอเชีย ที่ได้รับเลือกให้เป็นอัยการสูงสุดรัฐแคลิฟอร์เนีย
ประสบการณ์ในด้านกระบวนการยุติธรรมอาญา อาจเป็นประโยชน์ต่อการบริหารงานของไบเดน ในการรับมือกับปัญหาต่างๆ เช่น ความเท่าเทียมทางเชื้อชาติ และการปฏิรูปตำรวจ หลังสหรัฐฯ เผชิญการประท้วงเรื่องการใช้ความรุนแรงของตำรวจตลอดทั้งปีนี้ และคาดการณ์ว่า จะเป็นที่เป็นปรึกษาอันดับหนึ่ง ด้านการเสนอชื่อผู้ดำรงตำแหน่งในกระบวนการยุติธรรม
"คามาลา แฮร์ริส" ก้าวเข้าสู่เวทีการเมืองระดับชาติของสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 2016 และปีนี้เธอคือคู่แข่งของ "โจ ไบเดน" ที่หมายชิงชัยเพื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี แต่เธอยุติความพยายามไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว หลังจากเธอไม่มีจุดยืนที่ชัดเจนด้านนโยบายสาธารณสุข และความลังเลเรื่องหน้าที่การงานในอดีตในฐานะพนักงานอัยการ
แต่ในที่สุด แม้ทั้งคู่จะเคยฟาดฟันกันอย่างดุเดือด ไบเดน ก็เลือกที่จะก้าวข้ามจุดนั้น และเลือกแฮร์ริส มาเป็นผู้สมัครรองประธานาธิบดี คู่กับเขาในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
.jpg)
