บุกป่าเขาพระวิหาร พิสูจน์จุดเผานั่งยาง - ญาติเชื่อ ผอ.อ้อยถูกฆ่า ท้อหาร่างไม่เจอ (คลิป)

ล่าสุด วันนี้ (21 ส.ค.) ทีมข่าวลงพื้นที่ พร้อมญาติ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ ผอ.อ้อย กับชาวบ้านบ้านซำเม็ง เจ้าหน้าที่ทหารพรานกองร้อยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 23 จ.ศรีสะเกษ และทหารชุดตรวจค้นวัตถุระเบิด รวมถึงชุดสุนัขทหาร กองพันสุนัขทหาร กรมการสัตว์ทหารบก กองกำลังสุรนารี รวมจำนวนกว่า 20 คน เดินทางไปยังป่าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อค้นหา ผอ.อ้อย ที่หายสาบสูญอย่างมีเงื่อนงำ

พื้นที่เป้าหมาย เป็นป่าติดกับผามออีแดง ชายแดนประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านซำเม็ง ประมาณ 18 กิโลเมตร และเป็นพื้นที่อยู่ติดกับช่องตาเฒ่า ที่มีการตรวจค้นไปเมื่อวานที่ผ่านมา ซึ่งจุดนี้มีกระแสข่าวว่า พบร่องรอยการเผานั่งยาง ทางญาติจึงขออนุญาตเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ซึ่งการเดินทางใช้การนั่งรถขึ้นไปบนถนนทางขึ้นผามออีแดง ผ่าน ด่านตรวจภูน้อย ก่อนเดินเท้าเข้าตรวจสอบภายในพื้นที่ป่า ทางด้านเจ้าหน้าที่ได้ใช้สุนัขทหารในการดมกลิ่นเสื้อผ้าของครูอ้อย ก่อนดมพื้นที่เป้าหมายเพื่อหาเบาะแส โดยเจ้าหน้าที่ทหารชุดตรวจค้นวัตถุระเบิด ใช้เครื่องสแกนโลหะ แสกนตามพื้น เพื่อป้องกันจุดที่อาจมีกับระเบิด โดยใช้วิธีการเดินแบบปูพรมหน้ากระดานเข้าไปในพื้นที่ป่า ประมาณ 500 เมตร ซึ่งเคยเป็นจุดพักเสบียง ของเจ้าหน้าที่ทหาร พบเพิงพักลักษณะเป็นบ้านปูน ประมาณ 3 หลัง ตั้งอยู่ในพื้นที่ติดกัน ซึ่งเพิงดังกล่าว เจ้าหน้าที่ระบุ ใช้เก็บกักตุนอาหาร ก่อนส่งขึ้นไปให้เจ้าหน้าที่ใช้ในแนวชายแดน ช่วงที่มีเรื่องพื้นที่พิพาทปราสาทเขาพระวิหาร ขณะนี้ไม่ได้ใช้งาน จากการตรวจสอบโดยรอบบริเวณดังกล่าวใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ก็ไม่พบวัตถุต้องสงสัย หรือจุดที่มีเบาะแสแต่อย่างใด

ขณะที่ นายวิจิตร อุ่นอ่อน น้าชาย ผอ.อ้อย ที่มาร่วมการค้นหาในวันนี้ เปิดเผยว่า เหตุที่ต้องมาค้นจุดนี้ เพราะมีข่าวจากชาวบ้านฝั่งประเทศกัมพูชาว่าเดินเข้ามาหาของป่าตามแนวตะเข็บชายแดน และพบว่ามีศพถูกเผานั่งยาง แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเป็นจุดใด ทราบเพียงอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับจุดที่ตนกำลังค้นหา แต่ก็ไม่พบแต่อย่างใด ส่วนศพที่พบฝั่งประเทศลาว ตอนนี้ยังไม่ทราบความคืบหน้า ต้องรอคนประสานแจ้งมาอีกครั้ง ซึ่งคิดว่าจุดดังกล่าวมีความเป็นไปได้สูง ที่จะเป็น ร่างของ ผอ.อ้อย เพราะ มีพยานที่เห็นรถขับขึ้นไปด้านบนอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย จึงเป็นความหวังมากที่สุดในตอนนี้ ส่วนด้านกำลังใจของชุดค้นหาก็เริ่มลดน้อยลง โดยเฉพาะบางคนที่เข้ามาช่วยค้นหาทุกวันก็เริ่มท้อ แต่ดีใจที่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเต็มที่ ส่วนตนในฐานะญาติยืนยันยังไม่หยุดค้นหา และไม่กลัวอันตรายแม้ต้องเข้าพื้นที่เสี่ยง

ทั้งนี้ นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน พ่อของผอ.อ้อย เปิดเผยว่า ตอนนี้ศพที่พบฝั่งประเทศลาว ต้องรอประสานเจ้าหน้าที่ในการขอเข้าตรวจสอบต้องนำชิ้นส่วนมาตรวจดีเอ็นเอ จึงจะสามารถยืนยันได้ โดยตอนนี้มีความหวังที่จุดนี้มากที่สุด นอกจากนี้ก็มีกระแสข่าวเรื่องศพเผานั่งยาง ที่ป่าเขาพระวิหาร แต่ก็ยังไม่ยืนยัน ซึ่งญาติก็ได้กระจายกันเข้าตรวจสอบ ส่วนแม่และพี่สาวของ ผอ.อ้อย ได้เดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา เพื่อยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อ 5 หน่วยงานในการดำเนินคดี หากถามถึงสภาพจิตใจครอบครัวนั้น ทางพ่อผอ.อ้อยบอกว่า สภาพจิตใจครอบครัวล้มเหลว ขณะที่ในวันนี้ ทีมข่าวไม่พบนายวิทยา เกษแก้ว สามีของ ผอ.อ้อยแต่อย่างใด โดยญาติระบุ นายวิทยา ได้ออกไปค้นหาผอ.อ้อย เช่นเดียวกันแต่ไม่ทราบว่าเป็นจุดใด ซึ่งมีข้อมูลว่า ญาติบางส่วนได้ประสานเจ้าหน้าที่เพื่อขอข้ามฝั่งไปตรวจสอบศพที่พบที่ฝั่งประเทศลาว คาดว่าต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 วัน

ขณะที่ พ.ต.อ.ประเสริฐ ศักดิ์ศรีไชย ผกก.กลุ่มงานสอบสวนตำรวจภูธรจ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า คดีที่ผอ.อ้อยหายตัวไปนั้น ขณะนี้สอบสวนพบว่าได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กและแอปพลิเคชันไลน์ของผอ.อ้อยในการสนทนากับญาติพี่น้องโดยเจ้าหน้าที่ได้นำเอาโปรแกรมฟิชชิ่งมาใช้ในการดำเนินการโดยให้พี่สาวของผอ.อ้อยส่ง Messenger เข้าไปในเฟซบุ๊กของผอ.อ้อยและไม่นานก็ได้มีข้อความในMessengerเฟซบุ๊กของผอ.อ้อยตอบมา เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดเอาโทรศัพท์มือถือของร.อ.ศุภชัย ภาโส ผู้ต้องหาสำคัญคดีนี้มาตรวจสอบ โดยใช้โปรแกรมฟิชชิ่งซึ่งพบว่าโทรศัพท์ของร.อ.ศุภชัย ใช้ในการสนทนาเฟซบุ๊กและแอปพลิเคชันไลน์ของผอ.อ้อยมาโดยตลอด ทำให้เป็นหลักฐานสำคัญส่วนหนึ่งในการสอบสวนหาตัวผอ.อ้อยที่หายไป พนักงานสอบสวนจะได้แจ้งข้อหากระทำผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์แก่ร.อ.ศุภชัยในเร็วๆนี้ ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก Oil Oil