“ทนายตั้ม” ลุยแจ้งความดำเนินคดี บิ๊กต่อ และมาดามกุ๊กไก่ วันจันทร์นี้

30 มี.ค. 67

ทนายตั้ม เตรียมเข้า แจ้งความดำเนินคดี บิ๊กต่อ และมาดามกุ๊กไก่ ที่สน.เตาปูน วันจันทร์นี้

จากกรณีที่ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ได้นำหลักฐานออกมาแฉวงการตำรวจ เรื่องส่วย และการเรียกรับผลประโยชน์ต่าง ๆ ในเว็บพนันออนไลน์ จนทำให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ส่งทนายยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท นั้น

ล่าสุดวันนี้ 30 มี.ค. 67 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า  

น่าสนใจนะครับ ที่มีการโอนเงินจากบัญชีม้า เข้าวัดนครอินทร์สองยอด ยอดแรก 100,000 บาท อีกยอดนึง 700,000 บาท วัดก็คงไม่รู้ เห็นระดับนายตำรวจใหญ่ แบบบิ๊กต่อ ร่วมทำบุญ ก็รีบโพสต์อนุโมทนาขอบคุณเป็นการใหญ่ ในทางกฎหมายเลยเป็นหลักฐานชั้นดี จะบอกว่าไม่รู้ ไม่รู้ ไม่รู้ เด็กอนุบาลก็คงไม่เชื่อ หลักฐานนี้เพียงพอที่ ผมจะใช้เข้าแจ้งความดำเนินคดี บิ๊กต่อ และมาดามกุ๊กไก่ ที่สน.เตาปูน ในวันจันทร์ที่ 1 เมษายน 2567

#ทำบุญด้วยเงินส่วย #ม้าอยากขึ้นสวรรค์







อย่างไรก็ตามในวันนี้ เมื่อเวลา 10.00 น.  นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน พร้อมภรรยา เดินทางมาที่วัดนครอินท์ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี

ทันทีที่มาถึงก็เดินตรงเข้าไปไหว้หลวงพ่อทันใจ ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่ศาลาตรงข้ามกับกุฏิเจ้าอาวาสก่อนจะนำเงิน จำนวน 5,000 บาท ใส่ในกล่องรับบริจาค โดยไม่ได้เข้าพบกับพระครูวินัยธร เจ้าอาวาสวัดนครอินทร์เนื่องจากทางวัดแจ้งว่าเจ้าอาวาสเดินทางไปงานสัมนาของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หลังไหว้พระขอพรเสร็จได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว

นายษิทรา กล่าวว่า ที่ตั้งใจมาทำบุญที่วัดนี้เพราะพบว่ามีเส้นเงินจากบัญชีม้าโอนทำบุญเข้าบัญชีทอดกฐิน สร้างวิหารวัดนครอินทร์ จำนวน 700,000 บาท จากบัญชีนายคชาชาญ และบัญชีนายณัฐพงศ์ อีก 100,000 บาท ซึ่งทั้ง 2 บัญชี ถูกระบุว่าเป็นบัญชีม้าเครือข่ายเว็บการพนันพิมพ์วิไล โดยยอดเงินดังกล่าวถูกระบุชื่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผู้บริจาคเงินส่วนนี้ทำบุญสร้างวิหารวัดนครอินทร์

นอกจากนี้ยังอ้างว่า พบเส้นเงินจากบัญชีม้า โอนไปยังบัญชีภรรยาพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ รวม 38 เส้น ตั้งแต่ปี 2561-2566 ในช่วงที่พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จนถึงรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยโอนเงินจากบัญชีนายณัฐพงศ์เป็นรายเดือน เดือนละ 59,000 - 100,000บาท

โดยเรียกร้องให้ทางวัดส่งบัญชีรายรับรายจ่ายส่งให้กับทางสำนักพระพุทธศาสนา หลังจากที่ได้รับแจ้งเบื้องต้นมาว่าทางวัดนครอินทร์ยังไม่ได้มีการส่งไป เนื่องจากจะมีชื่อผู้บริจาคในบัญชีชัดเจนและต้องการให้สำนักพระพุทธศาสนาตรวจสอบว่ามีใครนำเงินบาปมาทำบุญบ้าง

ส่วนประเด็นที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ กล่าวอ้างว่าตัวเองนำหลักฐานเส้นทางการเงินออกมาโดยมิชอบด้วยกฎหมายนั้น ระบุว่าไม่ใช่หลักฐานเลื่อนลอย และตนไม่ใช่ผู้ที่เข้าไปดูทะเบียนราษฎร์ของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ด้วยตัวเอง ซึ่งหากมีหลักฐานว่าตนทำความผิด ก็สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีได้ และยืนยันว่าคงไม่มีใครกล้านำหลักฐานเท็จมาฟ้องร้องผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้

โดยในวันที่ 1 เมษายน 2567 เวลา 10.00 น. ตนจะนำหลักฐานเส้นเงินทั้งหมดเข้าแจ้งความกับพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ และภรรยา ในข้อหาร่วมกันฟอกเงินที่ สน.เตาปูน ส่วนดาบยาว และรองผู้กำกับฟาง ในสังกัดตำรวจไซเบอร์ ที่ถูกพาดพิงว่าเป็นผู้ถือบัญชีม้า ทั้ง 2 บัญชี ได้ส่งข้อมูลเส้นทางการเงินให้กับพลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบตรวจสอบเส้นทางการเงิน และเอาผิดทั้งทางวินัยและอาญาไปก่อนหน้านี้แล้ว

สำหรับวิหารวัดนครอินทร์นั้น สูง 9 ชั้น ตามข้อมูลของทางวัดการสร้างวิหารนี้เริ่มตอกเสาเข็มเมื่อ 4 ปี ก่อนและขณะนี้งานก่อสร้างคืบหน้าไปมากแล้ว โดยเฉพาะ ชั้น 1 สถานที่ประดิษฐานพระวลีโรจนะพุทธมหามุนี องค์พระประธานประจำวิหาร ที่จะเปิดให้พระและประชาชนเข้ามาสวดมนต์ไหว้พระได้แล้ว โดยวัตถุประสงค์การก่อสร้างวิหารวัดนครอินทร์คือ 1.เพื่อประดิษฐานบรมสารีริกธาตุ บนยอดเจดีย์พระเกตุแก้วจุฬามณี
2.เพื่อประดิษฐานพระวลีโรจนะ พุทธมหามุนีองค์พระประธานประจำวิหาร

3.เพื่อเป็นสถานที่ศึกษาพระปริยัติธรรม

4.เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระและประชาชน

โดยงบประมาณในการก่อสร้างวิหารวัดนครอินทร์นั้นอยู่ที่ 55 ล้านบาทโดยมีชื่อพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นไวยาวัจกร และที่ปรึกษาด้านกฎหมายของวัดนครอินทร์แห่งนี้ด้วย

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส