เมียร่ำไห้สุดทน ผัวเสพยาบ้าหลอนระแวงปันใจ อาละวาดทุบตี ใช้มีดจี้คอขู่ฆ่า แจ้งตำรวจพาไปบำบัด ก่อนไปมาหอมแก้มเมีย บอกจะกลับตัวเป็นคนดีแล้วมาคืนดีกัน
วันที่ 24 มีนาคม 2567 เวลา 10.00 น. ขณะที่ ร.ต.อ.วิฆเนศ ซื่อตรง รองสวป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุสามีอาละวาดทำร้ายภรรยาที่หอพักแห่งหนึ่ง ในบ้านดงอุดม ต.หนองบัว จึงนำกำลังสายตรวจ 191 พร้อมไม้ง่ามรุดไปที่เกิดเหตุ
พบหอพักชั้นเดียว มีน.ส.รุ่งทิวา โชติพินิจ อายุ 32 ปี ร้องไห้อยู่หน้าบ้าน เล่าทั้งน้ำตาว่า นายธนสรร หลักคำ อายุ 25 ปี ชาวอุดรธานี สามีรุ่นน้อง ชอบเสพยาบ้าแล้วระแวงว่าตนจะปันใจให้ชายอื่น และทำร้ายร่างกายมาขู่ฆ่าประจำ เมื่อคืนนี้สามีได้อาละวาดและทำร้ายร่างกายตนตลอดทั้งคืนจนไม่ได้นอน จนถึงรุ่งเช้าตนจึงขอแยกทาง บอกให้สามีขนของกลับบ้านไปอยู่กับพ่อแม่ แต่สามีไม่ยอม ไปอาละวาดทำร้ายตนอีก ตนสุดจะทนเลยแจ้งตำรวจให้มาจับสามีไปเข้ารับการบำบัดรักษา และตนขอแยกทางกันด้วย
ตำรวจได้เรียกนายธนสรร หรือ โอ๊ต ออกมาจากบ้าน ซึ่งนายธนสรร ก็ยอมออกมาแต่โดยดี ไม่มีการขัดขืน ตำรวจได้ตรวจค้นภายในบ้านไม่พบยาบ้าจึงควบคุมตัวไปโรงพักให้การรับสารภาพว่า วันนี้เสพยาบ้า 2 เม็ดอยากให้ภรรยาให้โอกาส
น.ส.รุ่งทิวา เล่าทั้งน้ำตาว่าตนอยู่กินกับนายธนสรร มา5ปี มีลูกสาว อายุ 1 ปี 8 เดือน สามีทำงานอยู่ร้านขายเฟอร์นิเจอร์ ญาติให้ตนมาอยู่เฝ้าดูแลหอพัก โดยไม่คิดค่าเช่าให้อยู่ฟรี ระยะแรกไม่มีปัญหา ขยันทำมาหากินดีระยะหลังสามีเสพยาบ้าแล้วหลอน หาว่าตนจะปันใจให้ชายอื่น จะคลุ้มคลั่งอาละวาดทำร้ายทุบตีตนประจำ ตนรักและสงสารสามีพยายามให้โอกาสปรับปรุงตัวเองแต่ก็ไม่ยอมปรับตัว
ล่าสุดเมื่อคืนนี้ ตนออกไปทำงานรับจ้างล้างจานที่ร้านอาหาร กลับมาก็หาว่าตนไปหาผู้ชาย ใช้สนับมือชกตน ตื่นเช้าก็ยังทำร้ายตนอีก เอาเท้าถีบ เอาสนับมือมาชกเฉียดใบหน้า เอามีดมาขู่ว่าจะฆ่าปาดคอ ตนสุดจะทนจึงขอแยกทาง และส่งสามีกลับบ้าน ตนบอกให้สามีเก็บของเตรียมกลับบ้าน ส่วนตนจะไปยืมเงินญาติไปส่งสามีกลับบ้าน แต่พอกลับมาที่ห้องสามีก็ไม่ทำอะไรเลย แถมอาละวาดตนอีก ถ้ากลับไปบ้านก็กลัวว่าจะไปสร้างปัญหาให้พ่อแม่อีก ตนยังไม่ได้นอนทั้งคืนเพราะสามีอาละวาดตนจึงแจ้งตำรวจให้นำตัวสามีไปบำบัด ออกมาแล้วก็ให้กลับไปอยู่กับพ่อแม่ส่วนตนจะทำงานเลี้ยงลูกอยู่ที่นี่
ทางด้านนายสุรชัย โชติพินิจ อายุ 59 ปี พ่อ น.ส.รุ่งทิวา เล่าว่าก่อนหน้านี้น.ส.รุ่งทิวาเคยมีสามีแต่แยกทางกัน ไม่รู้ว่าลูกสาวและนายธนสรรแอบมาอยู่กินด้วยกันตอนไหน ตนไม่รู้จักนายธนสรร ซึ่งตนเห็นหน้าก็คิดว่าเป็นคนไม่ดี ไม่นานก็มีผู้เช่าหอพักโทรศัพท์ไปแจ้งตนว่าทั้งสองทะเลาะกันเสียงดังทั้งคืนทุกวัน ผู้เช่าหอพักจะย้ายออกหอพักหมดแล้ว วันนี้ตนอยากให้นายธนสรรออกจากหอพัก ไปอยู่ที่อื่น ส่วนลูกสาวจะไปอยู่ด้วยหรือแยกทางก็แล้วแต่ลูกสาว เห็นทำร้ายลูกตนมาตลอด ไม่ยอมทำงานเอาแต่เสพยาบ้า กินแล้วนอน ดีใจที่ตำรวจมาแก้ปัญหาให้
ตำรวจได้ตรวจปัสสาวะพบว่าเป็นสีม่วง จึงแจ้งข้อหา“เสพยาบ้าเสพติดประเภท1(ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย” ควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายซึ่ง ก่อนจะถูกตำรวจนำไปห้องควบคุมนายธนสรร ได้ทำการขอโทษ น.ส.รุ่งทิวา ภรรยา และอ้อนวอนภรรยาว่าถ้าหากเข้ารับการบำบัดแล้วขอโอกาสกับมาเป็นครอบครัวอีกครั้ง จะตั้งใจทำมาหากินเลี้ยงลูกเมียจะเลิกทำร้ายเมีย และไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกเลยไม่เคยระแวงเมีย เพียงแต่เป็นปัญหาครอบครัว พร้อมกับหอมแก้มเมีย เป็นคำมั่นสัญญาซึ่งน.ส.รุ่งทิวาบอกว่า ถ้าสำนึกได้ก็พร้อมให้โอกาสเพราะสงสารสามีตลอด
