รุ่นพี่มหา’ลัยดังปัดสั่งวิ่ง หลังรุ่นน้องช็อกตายคางานปฐมนิเทศ - แม่เด็กคาดโรคกำเริบ (คลิป)

5 ส.ค. 60
จากเหตุการณ์ของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 น้ำหนักตัว 100 กิโลกรัม เกิดช็อกหมดสติ จนล้มลง ขณะเข้าร่วมงานปฐมนิเทศ เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา และเสียชีวิตเวลาประมาณ 11.00 น. แพทย์ได้ออกมาชี้แจงว่า สาเหตุที่นักศึกษาคนดังกล่าวเสียชีวิต เพราะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เนื่องจากออกกำลังกายอย่างหักโหม เพื่อลดความอ้วน จนสังคมออนไลน์ต่างตั้งประเด็นคำถามว่า เกี่ยวกับรุ่นพี่รับน้องหนักเกินไปหรือไม่ ล่าสุด (4 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาที่วัดอมรินทรารามวรวิหาร เป็นวันที่ผู้เสียชีวิต พักอาศัยอยู่กับพระครูสมุห์ภักดี ยตินธโธ มานานกว่า 10 ปีแล้ว เนื่องจากมีความผูกพันกับวัดแห่งนี้ ภายหลังทีมข่าวทราบชื่อผู้ที่เสียชีวิตคือ นายณัฐชัย ชัยยศ หรือ น้องมาร์ค อายุ 18 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะสถาปัตยกรรม และการออกแบบ มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านพะราม 7 ขณะที่นางอภิณัฐ ลอบครอบ อายุ 49 ปี มารดาของน้องมาร์ค เปิดเผยความรู้สึกทั้งน้ำตาว่า ตนรู้สึกใจสลาย ไม่รู้ว่าจะเดินไปข้างหน้าต่อไปได้อย่างไร เพราะตนมีลูกชายหัวแก้ว หัวแหวนเพียงคนเดียว ปกติแล้วลูกชายก็มีลักษณะนิสัยที่ดี เป็นที่รักของเพื่อน และชอบศิลปะเป็นชีวิตจิตใจ พักหลังลูกชายจะทักมาหาตนว่าเหนื่อยบ้าง นอนน้อยบ้าง จึงรู้สึกเป็นห่วง แต่ไม่ได้เจอกัน ส่วนเรื่องรุ่นพี่ของมหาวิทยาลัยที่รับน้องหนักเกินไป จนทำให้เสียชีวิต ตนว่าไม่น่าจะมีส่วน แต่อาจมีส่วนที่ทำให้น้องพักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะงานเยอะ และรับน้องบ่อย ทางด้าน พระครูสมุห์ภักดี ยตินฺธโธ ผู้เลี้ยงน้องมาร์ค กล่าวว่า น้องมาร์คเปรียบเสมือนลูกคนหนึ่ง เพราะรู้สึกผูกพันกันมาตั้ง 9 ปี และตนก็เป็นผู้เลี้ยงมากับมือ ส่วนตัวแล้วน้องเป็นคนที่จิตใจดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น และทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายในวัด โดยจะให้ความสำคัญในเรื่องการเรียนมากที่สุด หลังจากที่น้องมาร์คย้ายไปอยู่หอหลังมหาวิทยาลัย ก็ได้ติดต่อผ่านทางไลน์อย่างสม่ำเสมอ และน้องก็ชอบถ่ายรูปตัวเอง รวมไปถึงส่งข้อความมาบอกว่า "เหนื่อย" ในขณะที่กำลังวาดรูป หรือทำงานอยู่ แต่น้องก็ไม่หวั่น เพราะเมื่อได้ทำสิ่งที่ตัวเองรัก ก็จะทำอย่างเต็มที่ คืนวันที่เกิดเหตุ (1 ส.ค.) น้องมาร์คก็ได้ถ่ายรูปตัดผมส่งมาให้ดูช่วงเวลา 20.00 น. ก่อนที่จะพิมพ์มาว่า โดนรุ่นพี่ดุเหนื่อยมาก เมื่อช่วงประมาณเที่ยงคืน หลังจากนั้นประมาณ 04.00 - 05.00 น. ก็ถ่ายรูปตัวเองกำลังออกแบบธงประจำรุ่นคณะแบบใหม่ พร้อมบอกว่า "เหนื่อย แต่สู้เต็มที่ "
พระครูสมุห์ภักดี ยตินฺธโธ ผู้เลี้ยงน้องมาร์ค
ส่วนประเด็นการรับน้องที่เหนื่อย และหนัก ทางพระครูสมุห์ภักดี ยตินฺธโธ บอกว่า เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะผลการชันสูตรพบว่า น้องเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ไม่ได้รับการรักษา เมื่อเริ่มเข้ามหาวิทยาลัยทำงานร่างกายไม่ได้พักผ่อน ประกอบกับกินอาหารเสริมกล้ามเนื้อ จึงไม่รู้ว่าส่งผลกับสุขภาพหรือไม่อย่างไร รวม ๆ แล้วมีหลายปัจจัยที่ทำให้เสียชีวิต แต่ไม่มีใครอยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น "เมื่อเกิดเรื่องก็ต้องยึดในหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ว่าเป็นเรื่องของ "กรรม" โดยทางมหาวิทยาลัยก็ให้ความช่วยเหลือเต็มที่" ส่วนทางเพื่อนของน้องมาร์ค นางสาวณัฐนันท์ วีบุตร เล่าว่า ทางรุ่นพี่ในคณะไม่ได้มีการรับน้องหนัก เพราะเพิ่งจะเข้ามาปรับพื้นฐาน 1 สัปดาห์ มีแต่เพียงพี่ว๊าก ที่มากระตุ้นให้ตื่นตัว อย่างวันที่ปฐมนิเทศ ตนและมาร์คมาสาย รุ่นพี่ก็กระตุ้นด้วยการเสียงดังให้รีบวิ่ง โดยมาร์คไม่ได้บอกรุ่นพี่ว่ามีโรคประจำตัวอะไรบ้าง แต่ตนเคยทราบว่ามีอาการเกร็ง และชักเมื่อ 3 เดือนก่อน แต่ฟื้นกลับมาได้ รวมถึงมาร์คเป็นคนขยัน และชอบช่วยเหลือ จึงทำงานหนัก และนอนดึก บางทีก็ออกกำลังกาย 3 วัน พัก 2 วัน จนไม่ได้มีเวลาพักผ่อน สำหรับการจากไปของมาร์ค ตนเสียใจมาก ไม่คิดว่าจะรวดเร็วขนาดนี้ และยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยอย่างแน่นอน
เพื่อนที่มาร่วมงานศพน้องมาร์ค
ขณะที่ อ.วีระยา เอี่ยมฉ่ำ หัวหน้าสาขาออกแบบภายในภาควิชาสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ มหาวิทยาลัยดังกล่าว ชี้แจงว่า ช่วงวันปฐมนิเทศอยู่ในสัปดาห์ของการปรับพื้นฐานเข้ามหาวิทยาลัย รุ่นพี่จะมีการเข้ามาดูแลรุ่นน้องเป็นอย่างดี และจะถามเสมอว่าใครมีโรคประจำตัวหรือไม่ แต่ไม่ได้รับแจ้งจากน้องมาร์ค จนเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2560 ทางคณะได้จัดงานปฐมนิเทศภายในห้องประชุม และน้องมาร์คก็มาสาย ซึ่งพอมานั่งก็เกิดอาการหน้ามืด เป็นลม ทางอาจารย์ทั้งหมด จึงบอกให้นักศึกษาถอยออกห่าง เพราะคนเยอะ เพื่อให้น้องมาร์คหายใจได้สะดวก แต่อาการไม่ดีขึ้น  ขณะนั้น ผู้ปกครองที่เป็นแพทย์ของโรงพยาบาลก็ได้มาช่วย แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น จึงเรียกรถพยาบาลของมหาวิทยาลัยให้นำตัวน้องมาร์คส่งโรงพยาบาลบางโพทันที นอกจากนี้ อ.วีระยา ยังกล่าวอีกว่า เอกสารตรวจสุขภาพของนักศึกษาทุกคน ไม่ปรากฎว่าน้องมาร์คมีโรคประจำตัว และช่วงนั้นรุ่นพี่ก็ไม่ได้ทำกิจกรรม หลังจากส่งโรงพยาบาลแล้ว ได้ติดต่อผู้ปกครองของน้องมาร์คเป็นระยะ ๆ เพราะน้องอยู่โรงพยาบาลนานกว่า 2 ชั่วโมง จนรู้จากมารดาของน้องมาร์ค ว่าน้องเสียชีวิต เนื่องจากมารดาร้องไห้เสียใจ แต่ไม่ว่าอย่างไร ทางมหาวิทยาลัยจะช่วยเหลือ และรับผิดชอบถึงที่สุด ทางด้าน ร.ต.อ.ชยพล ไทยโสภา รองสว.(สอบสวน) สน.เตาปูน (ร้อยเวรเจ้าของคดี) ให้ข้อมูลว่า หลังจากที่ผู้เสียชีวิตถูกเคลื่อนไปที่โรงพยาบาล แพทย์ก็ระบุว่าน้องได้เสียชีวิต เวลาประมาณ 11.00 น. ในภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน เนื่องจากตอนที่มาถึงโรงพยาบาลหัวใจเต้นเร็วไม่เป็นจังหวะ ประกอบกับผู้เสียชีวิตมีน้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม และมีโรคประจำตัว เบื้องต้นทราบว่าเมื่อ 3 เดือนก่อน น้องมาร์คเคยมีอาการหน้ามืด มีอาการเกรงชัก แต่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งอยู่ในช่วงที่มีการออกกำลังกายอย่างหักโหม เพื่อลดน้ำหนัก แต่ไม่มีการกินยาลดความอ้วนแต่อย่างใด ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ