งามไส้! ภาพชัด ตำรวจสภ.หนองปรือ เมาแล้วขับรถชน ถืออาวุธขู่ชาวบ้าน

9 ก.พ. 67

 

งามไส้! ภาพชัด ดาบตำรวจ เมาแล้วขับรถชน ถืออาวุธขู่ชาวบ้าน ด้าน ผกก.สภ.หนองปรือ ออกโรงกำชับ ทำคดีตรงไปตรงมา 

จากกรณีเกิดอุบัติเหตุรถกระบะ เฉี่ยวชนชนรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บริเวณสี่แยกมาบยายเลีย 31 ( แยกซอยลับแล ) ซอยเนินพลับหวาน ม.5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลาย เนื่องจากคนขับรถกระบะอยู่ในอาการมึนเมาสุรา จะชักอาวุธปืนออกมาข่มขู่ผู้บาดเจ็บ และพลเมืองดี อีกทั้งทราบภายหลังว่า ชายคนดังกล่าวอาจจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น 

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 9 ก.พ.67 พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ลงพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด และหาข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยปรากฎว่า กล้องวงจรปิดใกล้กับจุดเกิดเหตุ สามารถจับภาพได้บางส่วน โดยเวลาประมาน 02.02 น. มี รถกระบะ 4 ประตู สีดำ ขับเข้ามาจอดกลางถนนในซอยลับแล จากนั้นนายพัชรินทร์  (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี  ผู้ขับขี่ ได้ลงมาจากรถ แล้วเดินไปบริเวณหัวมุมสี่แยก ซึ่งเป็นจุดที่ นายอิสรา ไวยศิลป์ อายุ 31 ปี คู่กรณีที่ถูกเฉี่ยวชนได้รับบาดเจ็บ และพลเมืองดียืนอยู่ 

จากนั้นเวลาผ่านไปประมาน 1.30 นาที นายพัชรินทร์ ได้เดินกลับมาที่รถกระบะ แล้วเปิดประตูรถหยิบอะไรบางอย่าง คล้ายกับอาวุธปืน แล้วเดินกลับไปยังจุดที่ผู้เสียหายอยู่อีกครั้ง เวลาผ่านไปไม่นาน ปรากฎภาพภรรยาของนายพัชรินทร์ ได้พยายามห้ามปราม และพาตัวนายพัชรินทร์ กลับมาที่รถ แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ นายพัชรินทร์ ได้เดินไล่ตามคู่กรณีไปอีก ซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพได้ชัดเจนว่า นายพัชรินทร์ ถือบางอย่างไว้ในมือลักษณะคล้ายอาวุธปืน แต่ไม่เห็นตอนที่ใช้อาวุธปืนจ่อหรือข่มขู่ผู้เสียหาย เนื่องจากจุดเกิดเหตุนั้นเป็นมุมอับของกล้องวงจรปิด 

ต่อมาเพจเฟซบุ๊ก สภ.หนองปรือ ออกโรงชี้แจง ระบุข้อความว่า “ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าว “ดาบตำรวจ ชลบุรี” เมาแล้วขับชนจักรยานยนต์ชาวบ้านเจ็บ ยังมาถามอีก "ขี่ยังไงให้ถูกชน" แถมชักปืนขู่พลเมืองดีที่มาช่วย พื้นที่ สภ.หนองปรือ จว.ชลบุรี  ตามคลิปข่าว  พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ ได้กำกับ ดูแล ดำเนินการสอบสวนด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด กำชับพนักงานสอบสวนให้ความเป็นธรรมกับคู่กรณี ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ไม่เข้าข้างฝ่ายใด แม้ผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมตามข่าวจะเป็นตำรวจ หรืออาชีพใดก็ตาม หากสอบสวนแล้วพบข้อเท็จจริงอย่างไร ก็ดำเนินคดีไปตามนั้น ไม่มีการละเว้น การสอบสวนจะดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย รวบรวมหลักฐานอย่างรอบคอบ  เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ขอให้ผู้เสียหาย และประชาชนเชื่อมั่นในการสอบสวนและการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ได้สั่งให้ฝ่ายสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุแล้ว”

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส