ภาระทางบ้านมันคือผม! หนุ่มพิการเขียน จดหมายลาตาย 18 ฉบับ คว้าเชือกผูกคอดับ

3 ก.พ. 67

ภาระทางบ้านมันคือผม! หนุ่มพิการตาบอดเครียดไม่มีงานทำ ถูกพ่อตำหนิ คว้าเชือกผูกคอดับทิ้งจดหมายตัดพ้อ ลาตาย 18 ฉบับ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งจาก นายธิติวัฒน์ ชูรัตน์หิรัญโชติ ผู้ใหญ่บ้าน ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ว่ามีผู้ผูกคอเสียชีวิตภายในห้องนอนของบ้านใน ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุต้องนั่งเรือหางยาวเข้าไปในคลองตาเพิ่ม ประมาณ 2 กิโลเมตร ด้านขวามือพบเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง ปลูกติดริมคลอง ภายในห้องนอนพบร่างนายไพรวัลย์ ขำทอง อายุ 33 ปี ใช้เชือกไนล่อนสีไข่ไก่สลับสีแดงผูกกับตัวล็อคสายเข็มขัดนิรภัย แขวนกับเขื่อภายในห้องนอนสภาพศพไม่สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงขาสามส่วนสีนำตาล ปลายเท้าเหยียบกับคอบที่นอนเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 – 8 ชั่วโมง บริเวณบนที่นอนพบกระดาษ A4 ที่ผู้ตาย เขียนระบายความในใจ จำนวน 18 แผ่น วางอยู่โดยมีโทรศัพท์วางใกล้กันด้วย โดยบางฉบับอ่านเนื้อหาพอจับใจความได้ อาทิ ไอ้เต๋าเอ๋ยมึงแม่งอยู่ไปก้อไม่ดีกูไม่อโหสิร่างนี้ต้องทำพิธีกฎหมายแล้วเสร็จ ไม่ต้องจัดงานศพเอาไปทิ้งให้เหี้ยกิน, นี้คือปัญหาสิ้นชื่อแล้วไพรวัลย์ ครั้งสุดท้ายเต๋า, ขอโทษนะแม่ผมตอบแทนบุญคุณไม่ได้, หนูจะไม่กลับมาเป็นภาระอีกต่อไป, ภาระทางบ้านมันคือผม

จากการสอบถามนายสมพงษ์ ขำทอง อายุ 62 ปี พ่อผู้ตายให้การว่า ผู้ตายเคยเป็นทหารเรือ โดยในขณะนั้นผู้ตายได้ประสบอุบัติเหตุขับรถยนต์กระบะชนกับเสาไฟฟ้า จนได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นดวงตาขวาบอด และผ่าตัดสมองจนกระทั่งปลดประจำการแล้วมาพักอยู่บ้าน โดยแค่รับจ้างจับหอยจับปู และงานอื่น ๆ แถวบ้านไปวัน ๆ เมื่อมีงานจ้างกระทั่งเมื่อช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ผู้ตายไม่มีงานและรบกวนเงินทางบ้านบ่อยครั้ง ตนได้ว่าได้บ่นให้ผู้ตายออกไปหางานทำ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระในครอบครัว ทำให้ผู้ตายเกิดความน้อยใจ เก็บตัวอยู่ในห้องกระทั่งเมื่อ ช่วงเวลาประมาณ 08.30 น. วันนี้ (3 ก.พ. 67) ภรรยาของตนจะเอาของเก่าที่เก็บไว้ในบ้านใส่เรือออกไปขาย จึงตะโกนเรียกผู้ตายให้ออกมาช่วย แต่ไม่มีเสียตอบรับ จึงเดินไปเปิดประตูห้องนอนผู้ตายดู ต้องตกใจพบว่าผู้ตายแขวนคอกับขื่อเสียชีวิตแล้ว โดยระหว่างที่ตนออกไปถางหญ้าอยู่ที่วังเลี้ยงกุ้ง ตกใจไม่คิดว่าผู้ตายจะคิดสั้นได้ขนาดนี้ คิดว่าลูกน่าจะเครียดที่เป็นภาระคนในครอบครัวและตัวเองพิการไม่สามารถหางานทำเป็นหลักแหล่งได้ พร้อมทั้งยังถูกตนกับภรรยาตำนิหลายครั้งจนเครียด

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพและลงบันทึกประจำวันไว้เบื้องต้นก่อนมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่แท้จริงอีกครั้ง พร้อมทั้งประสานญาติให้เดินทางไปติดต่อขอรับศพมาดำเนินการตามประเพณีต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส