โฟร์แมนหายไป 10 วัน อดีตภรรยาฝันจับมือร้องไห้บอกหิวน้ำ

31 ธ.ค. 66

โฟร์แมนสูญหายนาน 10 วัน อดีตภรรยาฝันจับมือร้องไห้บอกหิวน้ำ หวังเล็กๆขอให้ยังมีชีวิต ขณะที่ลูกชายทำบังสุกุลที่วัด คาดพ่ออาจถูกฆาตกรรม 

วันที่ 31 ธ.ค. 66 ที่บริเวณท่าเรือภาษี กรมศุลกากรขาออก ถ.สุนทรโกษา แขวง คลองเตย เขต คลองเตย กทม. น.ส.ภาวิชินี ถนัดกิจ อายุ 46 ปี อดีตภรรยาของนายประกรณ์ แก้วปู่ อายุ 48 ปี ผู้สูญหาย เดินทางมาพร้อมกับลูกชายคือ นายปริญญา แก้วปู่ อายุ 26 ปี และ น.ส.ธนิดา แจ้งจำรัส หรือทนายนินู 

จุดธูป 16 ดอก ไหว้ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระแม่คงคา เพื่อเปิดทางให้พบเจอนายประกรณ์ หลังจากสูญหายไปนานกว่า 10 วัน โดย น.ส.ภาวิชินี ได้ตะโกนเรียกนายประกรณ์ที่โป๊ะเรือด้วยความโศกเศร้าว่า “ตาลกลับบ้านได้แล้ว ลูกๆ คิดถึง“ พร้อมเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมานายประกรณ์เข้าฝันเดินจับมือร้องไห้ พร้อมบอกว่าหิวน้ำ 

น.ส.ภาวิชินี กล่าวว่า ตนกับนายประกรณ์ หรือตาลเคยคบหากันมานานกว่า 12 ปี แล้วได้แยกทางกันไปต่างคนต่างมีครอบครัว ก่อนเกิดเหตุไม่มีรางสังหรณ์อะไรเลยสักอย่าง ไม่ได้โทรคุยกัน หากคุยกันก็จะคุยแต่เรื่องลูก แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ตาลได้เข้าฝันแต่งตัวสวมเสื้อกีฬาสีขาว และกางเกงยีนส์ 5 ส่วนที่สวมใส่เป็นประจำ ได้เดินมาหาตนที่บริเวณโขดหินใหญ่ๆ จับมือตนแล้วก็ร้องไห้ 

ตนได้ถามว่าเป็นไงบ้าง ทางเขาก็พูดกับตนว่า หิวน้ำ แล้วก็มาซบที่บริเวณหน้าอกตน จากนั้นตนก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาแล้วก็ร้องไห้ ตอนเช้าวันนี้จึงได้ไปไหว้ใส่บาตร ซึ่งตั้งแต่วันเกิดเหตุผ่านไปนานกว่า 10 วันแล้ว ไม่เคยมาเข้าฝันคนในครอบครัว เพิ่งมีเมื่อคืน ตนคือคนแรกที่ตาลมาเข้าฝัน สาเหตุก็คงเป็นเพราะเมื่อวานที่ผ่านมาช่วงเย็นลูกชายได้นำเสื้อผ้าของตาลมีเสื้อกีฬา กางเกง รองเท้าแตะ ไปทำบังสุกุลที่วัดบางพูดใน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ตอนนี้ยังคงมีความหวังเล็กๆ ว่าตาลยังมีชีวิตอยู่ แต่ในฝันตนก็คิดว่าตอนนี้น่าจะติดอยู่ที่ไหนสักแห่งที่มีโขดหิน 

นายปริญญา กล่าวว่า ตอนนี้ตนยังคงเดินหน้าตามหาคุณพ่อต่อพร้อมญาติๆ ที่นั่งเรือจ้างประดาน้ำตามหาอยู่ในทุกๆวัน วันนี้เป็นวันที่ 10 แล้ว ยังคงไร้วี่แววไม่พบแม้กระทั่งเสื้อผ้าที่พ่อตนใส่ ตอนนี้ก็ยังคาดว่าพ่ออาจจะถูกฆาตกรรมบนเรือซึ่งตนไม่ได้กล่าวหาใคร ตอนนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรืออาจารย์เกี่ยวกับด้านไสยศาสตร์ต่างๆ ช่วยเหลือหาคุณพ่อให้ได้ไว้ๆ เพื่อจะดำเนินพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป 

ด้านทนายนินู กล่าวว่า ทางด้านคดีตอนนี้ตนได้พาผู้เสียหายแจ้งความไว้แล้วที่ สน.บางคอแหลม ทางตำรวจตอนนี้ได้ทำการสอบปากคำพยานที่อยู่ในที่เกิดทุกคนแล้ว พร้อมด้วยแจ้งข้อหาชาวเวียดนามไปแล้ว 1 ราย ในข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่ก็ยังไม่คงไม่เกี่ยวข้องกับครอบครัวผู้สูญหาย ในเบื้องต้นตอนนี้อยู่ระหว่างขออำนาจศาลให้ดำเนินการอายัดเรือลำที่เกิดเหตุไว้จนกว่าคดีจะสิ้นสุด

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส