พ่อแม่เศร้า รับศพ ลูก ม.5 ถูก อริยิงดับ กลางถนน ยืนยันลูกไม่เคยมีปัญหากับใคร
จากกรณีนักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนศรีพฤฒา ถูกยิงเสียชีวิต บนถนนเลียบคู่ขนานมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี หน้าปากพัฒนาการ 53 เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.00 น. ที่ผ่านมา
วันนี้ (13 ต.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ นาย สราวุธ พุ่มเพ็ชร์ และนางสาว กัญญาวี ศีรษะเดช พ่อและแม่ของนาย รังสิมันตุ์ พุ่มเพ็ชร์ หรือ "น้องฮามีม" ได้เดินทางมาขอรับร่างของลูกชาย เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนา
บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าพ่อแม่ร้องไห้ตลอดเวลา โดย น.ส.กัญญาวี ผู้เป็นแม่ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเองมีลูกทั้งหมด 3 คน ซึ่งน้องฮามีม ก็เป็นลูกชายคนโต ซึ่งก็เป็นเสาหลักของที่บ้าน เพราะพ่อของน้องต้องทำงานขับรถขนส่งตลอดเวลา มีอะไรน้องก็สามารถแบ่งเบาภาระของแม่ และช่วยเหลือน้องๆอีก 2 คน เวลาไปรับไปส่งที่โรงเรียน
ส่วนกรณีที่เกิดขึ้น แม่ขอยืนยันว่า น้องไม่เคยมีปัญหากับใคร เพียงแต่ก็ตามประสาวัยรุ่นที่มีเพื่อนเวลาเพื่อนเรียกไปไหน น้องก็จะตามๆรุ่นพี่ไปก็เท่านั้น ส่วนที่ว่ากลุ่มของลูกชายไปมีปัญหากันกับคู่อริหลายครั้งก่อนจะมาเกิดเรื่อง อันนี้ทางแม่ไม่รู้เรื่องมาก่อน เพราะลูกชายเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยพูด และชอบเก็บตัวอยู่คนเดียว
"สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นตนอยากให้เคสนี้เป็นเคสสุดท้าย ไม่อยากให้มีครอบครัวไหนต้องมาสูญเสียเหมือนครอบครัวตนอีก ส่วนในเรื่องของพิธีกรรมทางศาสนาก็จะเป็นพิธีแบบอิสลาม ที่สุเหร่าดาริสสลาม กรุงเทพฯ ส่วนทางด้านคดีก็ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด"
ด้านนาย สราวุธ ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ก่อนที่เกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 22.00 น.ลูกชายได้มาขอโทรศัพท์ไปเล่น ซึ่งตนเองก็เห็นว่าลูกชายได้เดินทางห้องไปแล้ว จนกระทั่งเวลาประมาณ 01.00น. เพื่อนของลูกชายก็มาเรียกที่หน้าบ้านว่าลูกชายถูกยิงให้รีบไปดู ตนและภรรยาจึงรีบวิ่งออกไปดู เนื่องจากบ้านกับที่เกิดเหตุอยู่ถัดไปไม่กี่ซอย พอไปถึงตนเองก็เห็นร่างของลูกชายนอนนิ่งไม่ได้สติแล้ว รู้ได้เลยว่าน้องน่าจะเสียแล้ว ตนเองก็เข่าทรุดทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ร้องไห้กอดภรรยา
ด้าน พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผกก.สน.ประเวศ เปิดเผยว่า ตอนนี้กำลังเร่งสืบสวนหาเบาะแสของฝั่งคนร้ายผู้ก่อเหตุ โดยเฉพาะการพิสูจน์ทราบจะรถมอเตอร์ไซค์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุที่ทิ้งเอาไว้เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าเร็วๆนี้น่าจะสามารถทราบตัวของกลุ่มผู้ก่อเหตุว่าเป็นใครบ้าง
เบื้องต้น ชนวนเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดจากการที่กลุ่มผู้ก่อเหตุและกลุ่มผู้เสียชีวิต ซึ่งล้วนเป็นเยาวชนอายุเฉลี่ย 16-17 ปีทั้งสองฝ่าย มีเรื่องบาดหมางและท้าต่อยท้าตีกันในโซเชียลมีเดียมานานแล้วและที่ผ่านมาก็เคยมีประวัติว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งสองฝ่ายต่างมีเรื่องกันไปกันมาหลายครั้ง
แต่เหตุการณ์เมื่อคืนนี้ถือว่าหนักที่สุดถึงขั้นเอาชีวิต จากการพิสูจน์ทราบพบว่าฝั่งผู้ก่อเหตุได้พกพาอาวุธปืนมา แต่ยังไม่ยืนยันว่ามีกี่กระบอกและปืนชนิดใด ส่วนฝั่งผู้เสียชีวิตพกพาอาวุธมีดมาอย่างเดียว ซึ่งตอนนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
ทั้งนี้ยังไม่พบความเชื่อมโยงกับคดียิง เด็กอุเทน ได้รับบาดเจ็บสาหัสท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ และเหตุการณ์ยิงชิงหัวเข็มขัดก่อนหน้านี้บริเวณซอยอ่อนนุชแต่อย่างใด.
